ทัศนภาพการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและประชาชนในการจัดการความ ขัดแย้งที่เกิดจากโครงการพัฒนาของภาครัฐในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน

ผู้แต่ง

  • วิชาญ น้อยโต
  • ธิติวุฒิ หมั่นมี
  • พระครูสังฆรักษ์เกียรติศักดิ์ กิตฺติปญโญ

คำสำคัญ:

ความสัมพันธ์ของภาครัฐและประชาชน , การจัดการความขัดแย้ง

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) วิเคราะห์กลไกที่เสริมสร้างความสัมพันธ์ของภาครัฐและประชาชนในการดาเนินโครงการพัฒนาของภาครัฐ 2) บูรณาการหลักพุทธธรรมกับความสัมพันธ์ของภาครัฐและประชาชนในการจัดการความขัดแย้งที่เกิดจากโครงการพัฒนาของภาครัฐ 3) เสนอทัศนภาพการธารงความสัมพันธ์ของภาครัฐและประชาชนในการจัดการความขัดแย้งที่เกิดจากโครงการพัฒนาของภาครัฐ โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลสาคัญ จานว น 26 รูป/คน เลือกแบบเจาะจงจากผู้เชี่ยวชาญ เครื่องมือในการเก็บข้อมูล ได้แก่แบบสัมภาษณ์เชิงลึกที่มีโครงสร้าง เก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์แบบตัวต่อตัวและเก็บข้อมูลจากผู้มีส่วนร่วมในการสนทนากลุ่มเฉพาะ จานวน 13 รูป/คน วิเคราะห์ข้อมูลจากทั้งสองขั้นตอนโดยการพรรณนาความผลการวิจัยพบว่า1. กลไกที่เสริมสร้างความสัมพันธ์ของภาครัฐและประชาชนในการดาเนินโครงการพัฒนาของภาครัฐ คือ ในการกาหนดนโยบายหน่วยงานภาครัฐจะต้องปฏิบัติตามระเบียบกฎหมาย มาจากความต้องการของประชาชน เจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชน ชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจทั้งผลดี ผลเสียผลประโยชน์และความคุ้มค่าของโครงการ มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ประชาชนจะต้องมีส่วนร่วมในการกาหนดนโยบายการแก้ไขปัญหา การแสดงความคิดเห็นและองค์กรภาคเอกชนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วม การแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะการแก้ปัญหา ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึง2. หลักพุทธธรรมที่นามาบูรณาการเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ของภาครัฐกับประชาชนได้แก่ อปริหานิยธรรม 7 โดยรัฐกับประชาชนจะต้องหมั่นประชุมกัน มีความพร้อมเพรียงกันประชุมเลิกประชุมและพร้อมเพรียงกันทากิจทั้งหลาย ไม่ตั้งกฎระเบียบเกินกว่าที่กฎหมายได้บัญญัติได้เคารพผู้ใหญ่กว่าให้ความคุ้มครองแก่บุคคลที่ทาความดีและหลักพุทธธรรมที่นามาจัดการความขัดแย้งที่เกิดจากโครงการพัฒนาของภาครัฐ ได้แก่ สาราณียธรรม 6 รัฐกับประชาชนจะต้องทาดี พูดดีและคิดดีต่อกัน แบ่งปันผลประโยชน์ มีการปฏิบัติตามระเบียบกฎหมายและมีความคิดเห็นที่สอดคล้องกัน

3. ทัศนภาพการธารงความสัมพันธ์ของภาครัฐและประชาชนในการจัดการความขัดแย้งที่เกิดจากโครงการพัฒนาของภาครัฐ ได้แก่ ทัศนภาพของการกาหนดนโยบายของภาครัฐ ที่รัฐจะต้องชี้แจงข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนได้รับทราบ การมีส่วนร่วมของประชาชนและการสร้างความ
ไว้วางใจให้เกิดขึ้นกับประชาชน ทัศนภาพของการมีส่วนร่วมในนโยบายโดยกาหนดผู้มีส่วนร่วม เรื่องที่เข้ามามีส่วนร่วมและวิธีการมีส่วนร่วม ทัศนภาพความสัมพันธ์ของภาครัฐและประชาชน ซึ่งจะต้องเข้าไปแก้ไขปัญหาของประชาชนและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและองค์กรเอกชน โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นกลไกในการสร้างความสัมพันธ์ ทัศนภาพของภาวะผู้นา ลักษณะของภาวะผู้นาป็นผู้รักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ มีความรู้ ผู้ประสานงาน ผู้นาทางความคิด มีคุณธรรมและจริยธรรม ทัศนภาพการบูรณาการหลักพุทธธรรมมีความสัมพันธ์ที่จะปฏิบัติร่วมกับบทบาทและ
หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ประชาชน และองค์กรภาคเอกชนโดยปฏิบัติตามหลักพุทธธรรม และทัศนภาพของการจัดการความขัดแย้ง จะต้องมีการชี้แจงนโยบายให้ประชาชนทราบ การมีส่วนร่วมการสร้างความไว้วางใจและปฏิบัติตามหลักพุทธธรรม คือ หลักอปริหานิยธรรม 7 และสาราณีย
ธรรม 6

References

Chamroon Prikboonchandhara (2012). Education Sytem.Development to Asean Community. Journal of MCU Social Science Review, 1(2), 34-40.
Laladawaritkaikitti.(2012). The T ait of Qualified.Local olitician . Journal of MCU Social Science Review, 1(2), 116-129.
Prawaswasee.(2016). Public policy process.Thailand Healt Association. Roer sideway.(2005).Resolving Environmental Diaputes:from conflict tolonsensus.London:Eath
Samannamanid.(2012). Public Administation in Thailand. Journal of MCU SocialScience Review, 1(2), 21-23.
Tat aneeJenvithi u . (2012).The Buddhi t communication and the Social Chan e.(Doctoral Dissertation). Bangkok: Mahachulalongkornrajavidyalaya University.
Vickers sirg.(1965).The art of Judgment :A Study of Policy Making. London:Cha man&Hall.

เผยแพร่แล้ว

2020-06-04

How to Cite

น้อยโต ว. ., หมั่นมี ธ. ., & กิตฺติปญโญ พ. (2020). ทัศนภาพการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐและประชาชนในการจัดการความ ขัดแย้งที่เกิดจากโครงการพัฒนาของภาครัฐในกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 6(2-03), 583–596. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jssr/article/view/243584