การส่งเสริมพุทธจริยธรรมสำหรับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี
คำสำคัญ:
การส่งเสริมพุทธจริยธรรม, ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นบทคัดย่อ
บทความนี้วัตถุประสงค์ คือ 1.เพื่อศึกษาคุณลักษณะพุทธจริยธรรมสาหรับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสุราษฎร์ธานี 2.เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการส่งเสริมพุทธจริยธรรมสำหรับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสุราษฎร์ธานี และ 3.เพื่อนำเสนอรูปแบบการส่งเสริมพุทธจริยธรรมสำหรับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสุราษฎร์ธานี การวิจัยเป็นแบบผสานวิธี ระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ และวิจัยเชิงคุณภาพ เครื่องมือวิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.982 ในการเก็บข้อมูลซึ่งผู้วิจัยได้เก็บข้อมูลด้วยตนเองกับกลุ่มตัวอย่างคือ ผู้บริหาร ข้าราชการและพนักงานจ้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จานวน 361 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบอย่างง่าย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ คือค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ในส่วนของการวิจัยเชิงคุณภาพใช้เครื่องมือคือแบบสัมภาษณ์เชิงลึกโดยสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญจานวน 25 รูป/คน และการสนทนากลุ่มเฉพาะผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 10 รูป/คน โดยใช้เทคนิคการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า 1.คุณลักษณะพุทธจริยธรรมสาหรับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านความคิดริเริ่ม ด้านบุคลิกภาพ ด้านจุดมุ่งหมาย ด้านความกระตือรือร้น ด้านความเป็นมิตร ด้านความน่าเชื่อถือ ด้านความกล้าตัดสินใจ ด้านความรอบรู้ ด้านความศรัทธาและความเชื่อมั่นอยู่ในระดับมากทุกด้าน 2.ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ต่อการส่งเสริมพุทธจริยธรรมสำหรับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสุราษฎร์ธานี พบว่า คุณลักษณะพุทธจริยธรรมสาหรับผู้บริหารมีความสัมพันธ์เชิงบวกอยู่ในระดับสูง (r=0.887) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และการส่งเสริมพุทธ จริยธรรมตามทฤษฎีต้นไม้จริยธรรม มีความสัมพันธ์เชิงบวกอยู่ในระดับสูง (r=0.928) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย 3.รูปแบบการส่งเสริมพุทธจริยธรรมสาหรับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดสุราษฎร์ธานีประกอบด้วย 10 ด้าน ได้แก่ รูปแบบการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามหลักพุทธจริยธรรม รูปแบบการยึดมั่นในคุณธรรมจริยธรรมตามพุทธจริยธรรม รูปแบบการมีจิตสำนึกที่ดี ซื่อสัตย์และรับผิดชอบตามหลักพุทธจริยธรรม รูปแบบการยึดถือประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตนและไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนหลักพุทธจริยธรรม รูปแบบการยืนหยัดทาในสิ่งที่ถูกต้องเป็นธรรมและถูกกฎหมายตามหลักพุทธจริยธรรม รูปแบบการให้บริการแก่ประชาชนด้วยความรวดเร็วมีอัธยาศัยตามหลักพุทธจริยธรรม รูปแบบการให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนอย่างครบถ้วนถูกต้องตามหลักพุทธจริยธรรม รูปแบบการมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน รักษามาตรฐาน มีคุณภาพ โปร่งใสและตรวจสอบได้ตามหลักพุทธจริยธรรม รูปแบบการยึดมั่นในหลักจรรยาวิชาชีพขององค์กรตามหลักพุทธจริยธรรม รูปแบบการสร้างจิตสานึกให้ประชาชนในท้องถิ่นประพฤติตนเป็นพลเมืองที่ดีตามหลักพุทธจริยธรรม
References
ทินพันธุ์ นาคะตะ. (2557). คุณธรรมจริยธรรมกับศีลธรรมจากมุมมองของปรัชญา. กรุงเทพมหานคร : โครงการจัดพิมพ์คบไฟ.
วันทนา เนาว์วัน. (2557). “การพัฒนาภาวะผู้นาตามหลักพุทธธรรมของบุคลากรโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา กลุ่ม 3”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
คติยา อายุยืน. (2558). “รูปแบบการส่งเสริมการจ้างงานนอกระบบตามหลักพุทธธรรม”. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
เสนอ อัศวมันตา. (2558). “รูปแบบการบริหารจัดการตามหลักอปริหานิยธรรมขององค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี”. วิทยานิพนธ์พุทธาสตรดุษฎีบัณฑิต. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2020 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น