ปัจจัยความสำเร็จในการดาเนินงานของกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
คำสำคัญ:
ปัจจัยความสำเร็จ,การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม,ตรวจคนเข้าเมืองบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ศึกษาปัจจัยความสำเร็จที่ช่วยให้การดำเนินงานของกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เป็นไปด้วยความมีประสิทธิภาพ (2) ศึกษาระดับความสำเร็จในการดำเนินงานของกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 สำนักงาน ตรวจคนเข้าเมือง (3) ศึกษาสภาพปัญหาและอุปสรรคในการดาเนินงานตามภารกิจของกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 สานักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม และคุณภาพการให้บริการต่อผู้ใช้บริการ และ (4) เพื่อศึกษารูปแบบ/แนวทางที่มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับการดาเนินภารกิจของกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 สานักงานตรวจคนเข้าเมือง การวิจัยครั้งนี้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงผสม โดยใช้การวิจัย
เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพร่วมกัน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเชิงปริมาณคือ เจ้าหน้าที่ตำรวจของกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 จานวน 328 คน เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถาม และกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเชิงคุณภาพ ประกอบด้วย (1) กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้บริหาร (ผู้บังคับการถึงรองผู้กากับการ) จานวน 5 คน (2) กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับผู้ปฏิบัติ (สารวัตรถึงผู้บังคับหมู่) จานวน 10 คน และ (3) กลุ่มผู้ใช้บริการจากด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานทั้ง 5 แห่ง ทั้งชาวไทยและ ชาวต่างชาติ จานวน 20 คน โดยใช้เก็บข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก และการสนทนากลุ่มย่อย ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยความสำเร็จในการดาเนินงาน ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยในระดับมากโดยด้านทีมงานมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด รองลงมาตามลาดับคือ ด้านภาวะผู้นาการเปลี่ยนแปลง ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ด้านการนานโยบายสู่การปฏิบัติ และด้านเทคโนโลยี มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดสำหรับระดับความสำเร็จในการดาเนินงานของกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก โดยด้านการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด และด้านคุณภาพการให้บริการต่อผู้ใช้บริการ มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด
References
เฉลิมพรหม อิทธิยาภรณ์. (2558). ประสิทธิผลการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมของกองบังคับการตารวจภูธรจังหวัดชลบุรี กองบัญชาการตารวจภูธรภาค 2 สำนักงานตารวจแห่งชาติ. ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ วิทยาลัยบัณฑิตศึกษา
ด้านการจัดการ มหาวิทยาลัยศรีปทุม.
ชูชัย สมิทธิไกร. (2538). จิตวิทยาการฝึกอบรมบุคลากร. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
ณัฎฐพันธ์ เขจรนันทน์. (2546). การบริหารทรัพยากรมนุษย์. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น จำกัด.
ตะวัน ตระการฤกษ์. (2560). ต้นแบบการบริหารจัดการเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดของตารวจภูธรภาค 7. วารสาร มจร. สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ ปีที่ 6 ฉบับที่ 2 (ฉบับพิเศษ) ประจาเดือนเมษายน-มิถุนายน 2560
ปิยากร หวังมหาพร. (2554). การวิเคราะห์นโยบายสาธารณะและการวางแผน. กรุงเทพฯ:มหาวิทยาลัยศรีปทุม.
พระครูพิศาลเขตคณารักษ์ (วิรัตน์ ฐานปุญฺโญ) (2559). การพัฒนารูปแบบการยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการวัดในนวสมัย. วารสาร มจร. สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ ปีที่ 5 ฉบับที่ 3 ประจำเดือนกันยายน-ธันวาคม 2559
วรเดช จันทรศร. (2551). ทฤษฏีการนานโยบายสาธารณะไปปฏิบัติ. กรุงเทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค.
ศุภชัย ยาวะประภาษ. (2540). นโยบายสาธารณะ. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สักกรินทร์ นิยมศิลป์. (2558). “อาชญากรรมข้ามชาติ: ภัยคุกคามไทยและอาเซียน”. ความหลากหลายทางประชากรและสังคมในประเทศไทย ณ ปี 2558. การประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 11 ประชากรและสังคม 2558.
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง. (2558). แผนปฏิบัติราชการสานักงานตรวจคนเข้าเมือง ประจาปีงบประมาณ พ.ศ.2559. กรุงเทพฯ: สานักงานตรวจคนเข้าเมือง.
Barling, Julian., Tom, Weber. and Kevin, Kelloway E. (1996). “Effects of Transformational Leadership Training on Attitudinal and Financial Outcomes”. Journal of Applied Psychology, 81(6), pp. 827-832.
Bass, Bernard.M. and Avolio, B.J. (1994). Improving Organizational Effectiveness Through Transformational Leadership. CA: Sage.
Daft, Richard L. (2000). Organization Theory and Design. Ohio : South-Western College. Edwards, George C. (1980). Implementing Public Policy. DC: Congressional Quarterly Press.
Francis, D., and Young, D. (1979). Improving Work Groups. CF: University Associates. Johnson, D.W. and Johnson, R.T. (1991). Learning Together and Alone: Cooperative, Competitive, and Individualistic. NJ: Prentice Hall.
Van Meter, Donald S. and Van Horn, Carl E. (1975). “The policy Implementation Process: A Conceptual Framework.” Administration and Society. 6(4), pp. 200-217.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2020 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น