กลยุทธ์การเสริมสร้างความสมานฉันท์ตามหลักศีล 5 ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคกลางตอนล่าง

ปัณณธณร  เธียรชัยพฤกษ์

ผู้แต่ง

ปัณณธณร เธียรชัยพฤกษ์

คำสำคัญ:

กลยุทธ์การเสริมสร้างความสมานฉันท์, หลักศีล 5, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์ คือ (1) เพื่อศึกษาสภาพการดำเนินงานกระบวนการเสริมสร้างความสมานฉันท์ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภาคกลางตอนล่าง (2) เพื่อศึกษาองค์ประกอบการเสริมสร้างความสมานฉันท์ตามหลักศีล 5 ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคกลางตอนล่าง และ (3) เพื่อนำเสนอกลยุทธ์การเสริมสร้างความสมานฉันท์ตามหลักศีล 5 ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคกลางตอนล่าง การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี ประกอบด้วย การวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บข้อมูลจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จานวน 30 คน เลือกแบบเจาะจงจากผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และคณะกรรมการสภาองค์กร และการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างเป็นข้าราชการ พนักงาน ที่ปฏิบัติหน้าที่ประจาและปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภาคกลางตอนล่าง จานวน 343 คน

ผลการวิจัยพบว่า

สภาพการดำเนินงานกระบวนการสร้างความสมานฉันท์ ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคกลางตอนล่าง ประกอบด้วย 1) การสร้างชุมชนเข้มแข็งแบบพอเพียง ด้วยวิธีการสนับสนุนการรักษาความปลอดภัยในชุมชน ส่งเสริมการประกอบอาชีพแบบพึ่งพตนเอง ยึดถือการประหยัดและการออม 2) การสรางสันติวัฒนธรรม ด้วยการส่งเสริมการจัดกิจกรรมสร้างความสามัคคี และให้ความเสมอภาคในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รวมทั้งอาศัยองค์กรทางศาสนาและวันสำคัญจัดกิจกรรมสร้างความสันติสุข 3) การสื่อสารอย่างการุณยสาร ด้วยวิธีการเผยแพร่ข้อมูลอย่างเปิดเผยหลายช่องทางและมีการสื่อสารผ่านสื่อแบบสองทาง และสร้างเครือข่ายชุมชนด้วยการสัมมนากับประชาชน 4) ความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ ด้วยวิธีการจัดการบริหารงานตามหลักกฎหมาย และการออกข้อบัญญัติแบบมีส่วนร่วม รวมทั้งจัดให้มีศูนย์บริการด้านกฎหมายและการเจรจาไกล่เกลี่ย
องค์ประกอบการเสริมสร้างความสมานฉันท์ตามหลักศีล 5 ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคกลางตอนล่าง ประกอบด้วย 1) การสร้างหลักประกันชีวิต ด้วยวิธีการสนับสนุนความเท่าเทียมของประชาชน และรณรงค์ให้ประชาชนเข้าวัดฟังธรรม 2) การสร้างหลักประกันทรัพย์สินด้วยวิธีการสนับสนุนการประกอบสัมมาอาชีพ 3) การสร้างหลักประกันครอบครัว ด้วยวิธีการจัดการอบรมให้ความรู้เรื่องเพศศึกษา และจัดกิจกรรมสร้างความปรองดองความซื่อสัตย์ต่อชีวิตคู่ 4) การสร้างหลักประกันสังคม ด้วยวิธีการสนับสนุนการเป็นคนที่มีวาจาไพเราะ ยกย่องให้เกียรติผู้อื่นรักษาสัจจะ ยึดมั่นในคาพูด และมีเจ้าหน้าที่ดูแลด้านเทคโนโลยี ระบบข้อมูล และ 5) การสร้างหลักประกันสุขภาพ ด้วยวิธีการจัดกิจกรรมลด ละ เลิก การดื่มสุรา ของมึนเมาและสิ่งเสพติด และสนับสนุนการลงโทษผู้กระทาผิดจากการดื่มสุรา ของมึนเมาและสิ่งเสพติด รวมทั้งส่งเสริมงานประเพณีงานนันทนาการที่ไม่ใช้สุราและของมึนเมา
กลยุทธ์การเสริมสร้างความสมานฉันท์ตามหลักศีล 5 ในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภาคกลางตอนล่าง ประกอบด้วย 1) กลยุทธ์ระบบครอบครัวแบบพุทธมามกะ 2) กลยุทธ์ระบบชุมชนแบบเศรษฐกิจ 3) กลยุทธ์รูปแบบความสามัคคีที่มีเสถียรภาพ และ4) กลยุทธ์ระบบการปกครองที่มีธรรมาภิบาล

References

Deonpen Phingha. (2006).“Participation of People In Decentralized Administration:Case Study of Thungkor Sub-District Administrative Organizations Wiangchiangrung District Chiangrai Province”. Thesis of Master Degree,Public Administration. Chiangrai Rajabhat Institute University.
Phra Thepwethee (Prayut Payutto). (1989). Buddhism Dictionary, Edition code. 4th Edition. Bangkok: Dansutha Printing.
Phramaha Krisada Kittisophano (Saelee). (2016). “Creating Harmonious Reconciliation with the project of preserving the 5 sacred precepts of Ayutthaya Province”. Research report. Faculty of Social Sciences:Mahachulalongkorn Rajavidayalaya University.
Phrapalad Piyasak Piyadhammo (Peeramaneewong). (2016). “Strategic development of local government organizations. In the Northern lower Region”. Thesis of Philosophy Degree, Public Administration” Graduate School: Mahachulalongkorn Rajavidayalaya University.
Prasong Tanod. (2008). “Strengthening reconciliation and conflict resolution in the 3 southern border provinces”. Thesis of Philosophy Degree, (Political Science). Ramkhamhaeng University.
Royal Academy. (2003) .Royal Academy Dictionary. 1st Edition. Bangkok : Namee Book Publication Limited.
Taro Yamane. (1973). Refer to Theerawut Ekakul. Research Methods in Behavioral Sciences and Social Sciences. Ubon Rachathani : Rajabhat Institute University.
Theerachai Chutiman. (2016). “Community-based management model that affects local development Of the local administrative organization”. Thesis of Philosophy Degree, Public Administration.Graduate School: Mahachulalongkorn Rajavidayalaya University.