ศึกษาวิเคราะห์แนวคิดเรื่องพรหมันในปรัชญาเวทานตะตามทรรศนะ พุทธปรัชญาเถรวาท

ผู้แต่ง

  • พระมหาโสฬส ชนุตฺตโม (พรมมา)

คำสำคัญ:

ความหมาย ประเภทและคุณสมบัติ คุณลักษณะ และเป้าหมาย

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาแนวคิดเรื่องพรหมันในปรัชญา
เวทานตะ 2) เพื่อศึกษาแนวคิดเรื่องพรหมในพุทธปรัชญาเถรวาท และ 3) เพื่อศึกษาวิเคราะห์
แนวคิดเรื่องพรหมันในปรัชญาเวทานตะตามทรรศนะพุทธปรัชญาเถรวาท การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิง
คุณภาพ ผลการศึกษาพบว่า พรหมันในปรัชญาเวทานตะ ในระยะแรกหมายถึงความรู้อันศักดิ์สิทธิ์
และประเสริฐ ต่อมาความหมายได้กลายเป็นเรื่องของปรัชญา แนวคิดพรหมันจึงกลายเป็นสิ่งแท้จริง
สูงสุด เป็นมูลการณ์ของสรรพสิ่งในโลกจักรวาล พรหมันจึงมีฐานะเป็นผู้สร้าง ผู้ปกครอง และผู้
ทาลาย เรียกว่า ตรีมูรติ พรหมันถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ 1) นิรคุณพรหมัน มีลักษณะแผ่
กระจายครอบคลุมจักรวาลโดยมายา 2) สคุณพรหมัน เป็นพรหมองค์เทียม ไม่ใช่ลักษณะแท้ เป็น
ความจริงขั้นสมมติ เป็นโลกบัญญัติ ส่วนนิรคุณพรหมันนั้น เป็นลักษณะแท้ เป็นความจริงขั้นปรมัตถ์
พรหมันมีคุณลักษณะ 3 คือ สัต จิต อานันทะ ปรัชญาเวทานตะได้เสนอว่าบุคคลควรทาลายอวิทยา
เพื่อเข้าถึงพรหมันกลายเป็นเอกีภาพกับพรหมัน ผลการศึกษาพบว่า พุทธปรัชญาเถรวาทได้ปรับ
ความหมายคาว่าพรหมใหม่ใช้ในเชิงคุณธรรม หมายถึงความเจริญ ทั้งทางโลกและทางธรรม ดังนั้น
พรหมถูกจัดเป็น 2 ประเภทคือ 1) บุคลาธิษฐาน เพื่อใช้เป็นข้อเปรียบเทียบยกย่องบุคคลผู้มีพรหม
วิหารธรรม 4 คือ มี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา 2) ธรรมาธิษฐาน เพื่อใช้เป็นหัวข้อเพื่อแสดง
ธรรมเข้าถึงพรหม อย่างไรก็ตาม หากถามว่า พรหมในพุทธปรัชญาเป็นอย่างไร ตอบว่า พรหมใน
พุทธปรัชญาก็คือเทวดาในชั้นพรหมโลก พรหมเหล่านี้เคยเป็นมนุษย์มาก่อน ด้วยอานาจแห่งการ
ปฏิบัติจนบรรลุคุณพิเศษมีฌานเป็นต้น แล้วฌานไม่เสื่อมจึงได้เกิดเป็นพรหม พรหมเหล่านั้นจึงไม่อยู่
ในฐานะเป็นพระเจ้าผู้สร้างสรรพสิ่ง ผลการวิเคราะห์วัตถุประสงค์ข้อที่ 3 พบว่า พุทธปรัชญาปฏิเสธแนวคิดพรหมันใน
ปรัชญาเวทานตะในฐานะพระเจ้าผู้สร้างโลกจักรวาล เพราะเห็นว่า พรหมยังคงเวียนว่ายตายเกิด ใน
วัฏฏะสงสารเช่นเดียวกับมนุษย์ และเห็นว่า โลกจักรวาลเป็นไปตามธรรมชาติแบบวงจรอยู่ภายใต้
กฎแห่งเหตุปัจจัยในการวิจัยพบว่า แนวคิดเป้าหมายความจริงสูงสุด (โมกษะ) ในทรรศนะปรัชญา
เวทานตะจะคล้ายคลึงกับ พระนิพพานในทรรศนะพุทธปรัชญา แต่ที่ต่างกัน คือ ความจริงสูงสุด (โมกษะ) ในปรัชญาเวทานตะเป็นแบบอัตตา ส่วนความจริงสูงสุด (พระนิพพาน) ในพุทธปรัชญาเป็น
แบบอนัตตา

เอกสารอ้างอิง

มหาจุฬาลงกรณราวิทยาลัย. (2535). พระไตรปิฎกภาษาภาลี. ฉบับมหาจุฬาเตภิฎกํ. 2500.
กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
จานงค์ ทองประเสริฐ. (2517). ศาสนาปรัชญาประยุกต์. กรุงเทพฯ : หจก.แพร่วิทยาอินเตอร์
เนชั่นแนล.
วัชระ งามจิตรเจริญ (2525). พุทธศาสนาเถรวาท. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร.
สมัคร ปุราวาส. (2554). ปรัชญาพราหมณ์ในสมัยพุทธกาล. กรุงเทพฯ : สานักพิมพ์สยาม.
สนั่น ไชยานุกุล. (2519). ปรัชญาอินเดีย. กรุงเทพฯ : มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
สุนทร ณ รังสี. (2545).ปรัชญาอินเดีย ประวัติและลัทธิ. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อดิศักดิ์ ทองบุญ. (2524). ปรัชญาอินเดีย. กรุงเทพมหานคร: ห้างหุ้นส่วนจากัด อรุณการพิมพ์.
Radhakrishnan S. (1966). Indin Philosophy. Vol . London : Gesrge Allen & Unern Ltd.
Samkara. (1973). “Quoted In A Source Book Inindian Philosophy. Ed. Sarvepalli
Radhakrilrishnan End Charles Amoore. Princton : Princton Univeresity
Press.
SatiChandra Chatterjee, m.a., ph.d. and Dhirendramohan data, m.a. (1984). Ph.d. An
Introduction to indian philosoph., university of Calcutta.
Svami Sarvananda. (1995) Kena Upanisad. Madras : Sri Ramakrishna Printing Press.
T. M.P. Mahadeven. (1969). The Philosophy of Advaita. Madras : Ganesh & co . Private Ltd.
Vergilius Ferm. (1971). “Monism,” Dictionary of Philosophy, Ed. Dagoert D. Runes
.Totawa : ittlefi, Adams & Co.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2020-04-01

รูปแบบการอ้างอิง

ชนุตฺตโม (พรมมา) พ. . (2020). ศึกษาวิเคราะห์แนวคิดเรื่องพรหมันในปรัชญาเวทานตะตามทรรศนะ พุทธปรัชญาเถรวาท. วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์, 6(2-01), 561–576. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jssr/article/view/241222