พุทธบูรณาการพัฒนาภาวะผู้นำที่มีความฉลาดทางอารมณ์สำหรับความยั่งยืนขององค์กร
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ (1) เพื่อวิเคราะห์ระดับระหว่างการบูรณาการภาวะผู้นำที่มีความฉลาดทางอารมณ์และหลักพุทธธรรม (2) เพื่อได้ข้อมูลความฉลาดทางอารมณ์เชิงพุทธสำหรับผู้นำองค์กร และ (3) เพื่อนำเสนอรูปแบบของการบูรณาการ เพื่อพัฒนาภาวะผู้นำที่มีความฉลาดทางอารมณ์ด้วยหลักพุทธธรรม สำหรับความยั่งยืนขององค์กร การวิจัยเป็นแบบผสานวิธี ระหว่างการวิจัยเชิงเชิงคุณภาพและการวิจัยเชิงปริมาณ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามเก็บข้อมูลจากกลุ่มผู้นำหรือผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชาของผู้นำในองค์กรภาครัฐ/รัฐวิสาหกิจและองค์กรภาคเอกชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ขนาดตัวอย่าง กำหนดขนาดตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ใช้วิธีการของ Taro Yamane ซึ่งหากจำนวนประชากรตั้งแต่ 500,000 คนขึ้นไป ที่ความเชื่อมั่น 95 % จะได้จำนวนตัวอย่างเท่ากับ 400 ตัวอย่าง วิเคราะห์ข้อมูล โดยการหา ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์วิเคราะห์สถิติสำเร็จรูป
ผลการวิจัยพบว่า ระดับการรับรู้ของผู้นำโดยภาพรวมเกี่ยวกับพุทธบูรณาการพัฒนาภาวะผู้นำที่มีความฉลาดทางอารมณ์สำหรับความยั่งยืนขององค์กร ทั้ง 4 ด้านมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก ภาวะผู้นำด้านการตระหนักรู้ในตนเอง (Self Awareness) พบว่าผู้นำที่มีความฉลาดทางอารมณ์มีความเป็นผู้รู้จักตน รู้บทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบ มีความพยายาม มีความมั่นใจในงาน และมีการพิจารณาด้วยใจที่เป็นธรรม ซึ่งส่งผลให้เกิดความยั่งยืนขององค์กร ภาวะผู้นำด้านความสามารถในการจัดการอารมณ์ของตนเอง (Self Management)พบว่าผู้นำที่มีความฉลาดทางอารมณ์ควรมีความมุ่งมั่นต่อสิ่งที่รู้จักชุมชน และรู้จักประมาณ สามารถวางใจเป็นกลาง เข้าใจและควบคุมความรู้สึกของตนเอง รวมถึงมีความสามารถในการรับฟังข้อคิดเห็นของผู้อื่น ภาวะผู้นำด้านการตระหนักรู้ทางสังคม (Social Awareness) พบว่าผู้นำที่มีความฉลาดทางอารมณ์ควรทำประโยชน์แก่ส่วนรวม มีความเป็นผู้รู้จักเหตุ และความเป็นผู้รู้จักผล และควรทำประโยชน์แก่ส่วนรวม ภาวะผู้นำด้านการมีความสามารถในการจัดการความสัมพันธ์ (Relationship Management) พบว่าผู้นำที่มีความฉลาดทางอารมณ์ควรทำตัวเสมอต้นเสมอปลาย ไม่หยิ่งยโสโอหังและเป็นผู้รู้จักบุคคล มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับคนทุกระดับในองค์กร มีความรู้จักพิจารณาหาเหตุผล (วิมังสา) และมองด้วยใจที่เป็นธรรม (อุเบกขา) อีกทั้งยังควรมีความรักที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง (ฉันทะ) และเป็นผู้รู้จักบุคคล (ปุคคลัญญุตา) พร้อมที่จะเปิดใจกว้าง
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2020 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น