การบริหารจัดการการจัดสร้างอุโมงค์เก็บพันธุ์พืชบนดอยอินทนนท์จังหวัดเชียงใหม่
คำสำคัญ:
อุโมงค์จัดเก็บพันธุ์พืชบนดอยอินทนนท์, การบริหารจัดการบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ ได้แก่ 1.เพื่อศึกษาตัวแบบอุโมงค์จัดเก็บพันธุ์พืชบนดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ตามแนวทางโครงการอุโมงค์เก็บพันธุ์พืชสวาลบาร์ด นอร์เวย์ 2. เพื่อศึกษาถึงตัวชี้วัดที่มีผลต่อการก่อเกิดนโยบายการสร้างอุโมงค์จัดเก็บพันธุ์พืชบนดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ 3. เพื่อศึกษาการบริหารจัดการการสร้างอุโมงค์จัดเก็บพันธุ์พืชบนดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ตามแนวทางโครงการอุโมงก์จัดเก็บพันธุ์พืชสวาลบาร์ด นอร์เวย์ โดยผู้วิจัยได้ใช้ระเบียบวิธีวิจัยคือการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยการสัมภาษณ์เชิงลึก จำนวน 25 รูป/คน และการสนทนากลุ่มเฉพาะ จำนวน 12 รูป/คน จากผู้เกี่ยวข้องกับนโยบายและผู้ที่ได้รับผลกระทบหากมีการจัดสร้างอุโมงค์เก็บพันธุ์พืชบนดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นได้นำข้อมูลที่ได้มาทำการอธิบายความ ตีความ และแปลความตามนัยยะ โดย 1) การวิเคราะห์ข้อมูลการสัมภาษณ์เชิงลึก ผู้วิจัยใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหา ทั้งหมดโดยใช้เทคนิค 6’ C คือ Concept(มโนทัศน์), Contents (สาระสำคัญ), Classify (จำแนกกลุ่ม/ระบุประเด็นสำคัญ),Category (จัดหมวดหมู่), Communication (การแปลความ ตีความข้อมูล) และ Conceptualize (การจัดทำกรอบความคิดการวิจัย) 2) การวิเคราะห์ข้อมูลการสนทนากลุ่มเฉพาะ ข้อมูลจากการสนทนากลุ่มผู้เชี่ยวชาญ ผู้วิจัยใช้วิธีการตีความหมาย และแปลความหมายในรูปของการวิเคราะห์เชิงเนื้อหา ด้วยเทคนิคกระบวนการวิภาษวิธี ซึ่งมี 3 ลักษณะ คือ ข้อมูลเชิงข้อเสนอ (Thesis) เชิงปฏิเสธ (Anti Thesis) และข้อมูลเชิงสรุป/สังเคราะห์ (Synthesis)
ผลการวิจัยพบว่า
- ตัวแบบอุโมงค์จัดเก็บพันธุ์พืชบนดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ตามแนวทางโครงการอุโมงค์เก็บพันธุ์พืชสวาลบาร์ดนอร์เวย์ พบว่า องค์ประกอบของตัวแบบการจัดสร้างอุโมงค์เก็บพันธุ์พืชดอยอินทนนท์ตามแนวอุโมงค์เก็บพันธุ์พืชสวาลบาร์ดประกอบด้วย 8 ประการคือ 1.ทำเล 2.ผู้ผลักดันโครงการ 3. การบริหารจัดการและการดำเนินงาน 4.กฎระเบียบระหว่างประเทศที่ใช้ร่วมกัน 5.งบประมาณ 6.อาคารและระบบความปลอดภัย 7.แนวทางในการฝากเมล็ดพันธุ์และ 8.กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
- ตัวชี้วัดที่มีผลต่อการก่อเกิดนโยบายการสร้างอุโมงค์จัดเก็บพันธุ์พืชบนดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ พบว่า มี 4 กลุ่ม ดังนี้คือ 1. ระบบทุนนิยมโลก 2. โครงสร้างส่วนบนของไทย 3. อุปทานนโยบาย 4. อุปสงค์นโยบาย โดยเฉพาะโครงสร้างส่วนบน ต้องให้ความสำคัญในเรื่อง ความคิด ความเชื่อ และข้อกฎหมาย
3. การบริหารจัดการการสร้างอุโมงค์จัดเก็บพันธุ์พืชบนดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ พบว่ามี 7 ขั้นตอนคือ การวางแผน การจัดองค์กร การจัดหาบุคคล การอำนวยการ การประสานงาน การรายงาน และการจัดการงบประมาณ ส่วนกระบวนการก่อเกิดนโยบาย แบ่งเป็น 3 ขั้นตอนที่สำคัญ คือ การระบุปัญหา การกำหนดข้อนโยบาย และการสร้างความชอบธรรมให้กับนโยบาย ทั้งนี้การดำเนินการต้องยึดการมีส่วนร่วมตามหลักธรรมทิฏฐิสามัญญตา และการมีส่วนร่วมตามหลักธรรมสีลสามัญญตา และการดำเนินการต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อม คือ ระบบทุนนิยมโลก, โครงสร้างส่วนบน,อุปทานนโยบาย, และอุปสงค์นโยบาย
References
Peters, B. Guy (1986) . American Public Policy: Promise and Performance, 2nd ed., (New Jersey : Chatham House. Cited in Ruengvit Kesuwan (2007). Public Policy.Bangkok: Bophut Printing Co.. Ltd..
Tanaphornpan R. (2003). Thailand Economics Policies Determination Process : Historical, Economical and Political Review. Bangkok: Kobfire Printing Project.
Tammasarosh S. (2003). Natural Disaster in Thailand. Bangkok : Meteorological Department.
Rojanoknan T. (2014). City Planning Articles Collection. Bangkok : Department of Public Works.
Naphat keawnark (2012). Qualitative Data Analysis Technic : QDAT.(n.p.). (Mimeographed).
Gulick L. and Urwick J. (1937). Papers on the Science of Administration.New York : Institute of Public Administration.
Seedam I. (2013). "Keys Success Factors in Peace Creation in Southern Provinces of Thailand Case Study : Pattani Operation". Parichart, 25 ,2 (Oct 2012-Mar 2013).
Rinsri K. (2013 ). "Integrative Buddhism Water Management Case Study : Ping River Conservation group in Chiangmai". (Doctoral dissertation, Graduate School, Mahachulalongkornrajavidyalaya University).
Indraprapai S. (2013). "Public Participation in Pa-Suk River Water Management. (Doctoral dissertation, Graduate School, Mahachulalongkornrajavidyalaya University).
Saitong S. (2013). "Integrative Buddhism Knowledge Management for Local Government in Northern of Thailand and Development of Knowledge Management in Thai Higher Education Institute". (Doctoral dissertation, Graduate School, Mahachulalongkornrajavidyalaya University).
Srinakarin Viroj University. (2014,December 10). Plant genetic resources in Thailand, Retrieved from http://www2.swu.ac.th/royal/book2/b2c9t4.html
Matichon. (2014,September 22). The Apocalypse Tunnel “Svalbard Global Seed Vault”, Retrieved from http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod
_detail.php?s_tag=03fea01050650&day=2007/06/05§ionid=0327
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2020 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น