กลยุทธ์การสร้างความร่วมมือของภาคประชาชนกับตารวจ ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บทคัดย่อ
บทความนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาสภาพและปัญหาความร่วมมือของภาคประชาชนกับตารวจในการปูองกันและปราบปรามอาชญากรรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ2) เพื่อวิเคราะห์หลักพุทธธรรมกับหลักการบริหารงานที่เป็นปัจจัยเกี่ยวข้องกับการสร้างความ
ร่วมมือของภาคประชาชนกับตารวจในการปูองกันและปราบปรามอาชญา กรรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ 3) เพื่อนาเสนอกลยุทธ์การสร้างความร่วมมือของภาคประชาชนกับตารวจในการปูองกันและปราบปรามอาชญากรรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือภูมิลาเนาหรืออาศัยอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จานวน 400 คน จากจานวนประชากร 670,371 คน
ผลการวิจัยพบว่า
1) สภาพและปัญหาความร่วมมือของภาคประชาชนกับตารวจในการปูองกันและ ปราบปรามอาชญากรรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันอยู่ในระดับปานกลาง ประชาชนยังไม่เชื่อมั่นในระบบการทางานของตารวจเท่าที่ควร ยังขาดความไว้วางใจในตัวเจ้าหน้าที่
ตารวจ เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตารวจยังขาดความจริงใจในการแก้ปัญหา และยังไม่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตารวจ จะสามารถปกปูองคุ้มครองประชาชนผู้ให้ข้อมูลยาเสพติดในพื้นที่ได้ 2) หลักพุทธธรรมและหลักการบริหารงานที่เป็นปัจจัยเกี่ยวข้องกับการสร้างความร่วมมือ
ของภาคประชาชนกับตารวจในการปูองกันและปราบปรามอาชญากรรม เจ้าหน้าที่ตารวจชุดปฏิบัติงานในพื้นที่จะต้องปรับโครงสร้างการปฏิบัติงาน ในลักษณะของการให้ความช่วยเหลืออานวยความสะดวก ให้คาแนะนา และทาให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนอย่างแท้จริงและทั่วถึง
ต้องปรับกลยุทธ์ในการสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดกับชุมชน มีมาตรการที่รัดกุม สามารถสื่อสารให้ ชุมชนเข้าใจได้อย่างชัดเจน นาข้อมูลจุดเสี่ยงจุดอันตรายจากชุมชนมาพิจารณาวางแผนการปฏิบัติ ผู้บังคับบัญชาต้องเข้ามาควบคุมกากับดูแล ต้องนาระบบการปฏิบัติงาน รวมถึงมาตรการต่างๆ
ที่เหมาะสม มาช่วยในการปูองกันอาชญากรรมร่วมกับชุมชน ด้านบุคลากร เจ้าหน้าที่ตารวจจะต้องเป็นผู้ที่เสียสละในการทางานเพื่อชุมชน มีบุคลิกลักษณะที่เป็นมิตร ไม่พูดจาดูถูกประชาชน พร้อมรับข้อร้องเรียนหรือปัญหาในชุมชนไปแก้ไขอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ต้องมีทักษะในการปฏิบัติงานเพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาอาชญากรรมได้อย่างทันท่วงทีมีรูปแบบการทางานที่เป็นมืออาชีพ มีการศึกษาทาความเข้าใจสภาพแวดล้อมเพื่อนามากาหนดรูปแบบที่เหมาะสม มีค่านิยมร่วมหรือเจตคติร่วมกันในการปฏิบัติงาน ยึดมั่นในอุดมคติของตารวจ
และยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวทางพระราชดาริปฏิบัติต่อประชาชนอย่างเท่าเทียม3) กลยุทธ์การสร้างความร่วมมือของภาคประชาชนกับตารวจในการปูองกันและปราบปรามอาชญากรรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 1) การตั้งจุดตรวจจุดสกัดอาชญากรรม
2) การเสนอโครงการ/กิจกรรมในการปูองกันอาชญากรรม 3) การเฝูาระวังอาชญากรรมโดยการติดตั้งกล้องวงจรปิด 4) การฝึกปฏิบัติร่วมกับเจ้าหน้าที่ตารวจ 5) การแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับอาชญากรรม 6) การเสริมสร้างความรู้ในการปูองกันอาชญากรรม 7) การร่วมสนับสนุนกิจกรรม
ของเจ้าหน้าที่ตารวจ
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2018 วารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร มจร สังคมศาสตร์ปริทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ภาพหรือตารางหรือเนื้อหาอื่นๆ ของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้งแสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดเบื้องต้น ทางวารสารจะถอดบทความของท่านออกโดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น