ความต้องการและปัจจัยสาคัญในการตัดสินใจใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์ (E- Fulfillment Service) ของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
คำสำคัญ:
พาณิชยอิเล็กทรอนิกส์, คลังสินคาออนไลน์บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อความต้องการและปัจจัยสาคัญในการตัดสินใจใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์ ของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ คือ ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ จานวน 400 ราย เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความแปรปรวนทางเดียว และทดสอบความสัมพันธ์โดยใช้สถิติทดสอบไคสแควร์
ผลการศึกษา พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นประเภทบุคคลธรรมดา การศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า สินค้าหลักคือเสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม มีพนักงาน 1 5 คน ระยะเวลาเปิดดาเนินการ 3 6 ปี ลักษณะการใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์เลือกบริการคลังสินค้าออนไลน์ พบว่า ส่งสินค้า 11 20 ครั้งต่อเดือน จัดส่งสินค้า 4 5 ชิ้นต่อครั้ง ส่งในช่วงเวลา 06.01 12.00 น. เข้ารับบริการ 21 30 นาที ค่าใช้จ่ายในการส่ง 101 500 บาท ต่อครั้ง มีบางส่วนจัดเก็บและบริหารเอง บางส่วนใช้คลังสินค้าออนไลน์ ระยะเวลาใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์ 3 6 เดือน ควรปรับปรุงด้านเจ้าหน้าที่การให้บริการ ระดับความสาคัญของปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์ พบว่า ภาพรวมอยู่ในระดับมาก พิจารณารายด้านและรายข้ออยู่ในระดับมาก ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะการใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์ ขึ้นอยู่กับด้านประเภทธุรกิจ จานวน 4 รายการ ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะการใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์ ขึ้นอยู่กับด้านระดับการศึกษา จานวน 8 รายการ ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะการใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์ ขึ้นอยู่กับด้านสินค้าหลักที่จาหน่าย จานวน 3 รายการ ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะการใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์ ขึ้นอยู่กับด้านจานวนพนักงาน จานวน 10 รายการ ความสัมพันธ์ระหว่างลักษณะการใช้บริการคลังสินค้าออนไลน์ ขึ้นอยู่กับด้านระยะเวลาเปิดดาเนินการ จานวน 11 รายการ เปรียบเทียบความแตกต่าง จาแนกตามด้านประเภทธุรกิจ จาแนกตามด้านระดับการศึกษา จาแนกตามด้านสินค้าหลักที่จาหน่าย และเมื่อจาแนกตามด้านระยะเวลาเปิดทาการ พบว่า มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ.05
เอกสารอ้างอิง
2. แก้วตา เหรียญเจริญ. (2556). การพยากรณ์พฤติกรรม การเลือกใช้ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ลาดับที่ 3 ของผู้ประกอบการ. งานปริญญานิพนธ์ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาการจัดการการ ขนส่งและโลจิสติกส์, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยบูรพา.
3. ภัทรกร ทองแย้ม. (2552). การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกใช้ผู้ให้บริการขนส่งของกลุ่มอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและยานยนต์ เขตอุตสาหกรรมภาคตะวันออก. วิทยานิพนธ์อุตสาหกรรมศาสตรมหาบัณฑิต ภาควิชาการจัดการอุตสาหกรรม คณะเทคโนโลยีและการจัดการอุตสาหกรรม, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ.
4. ธานินทร์ ศิลป์จารุ. (2555). การวิจัยและวิเคราะห์ ข้อมูลด้วย SPSS. พิมพ์ครั้งที่ 13. กรุงเทพฯ: บิสซิเนสอาร์แอนด์ดี.
5. วิชิต พึ่งสังวาล. (2555). การศึกษาอุปสงค์และปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเลือกผู้ให้บริการโลจิสติกส์ กรณีศึกษาของบริษัทต่างๆ ในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง. วิทยานิพนธ์ หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการขนส่งและโลจิสติกส์ บัณฑิตวิทยาลัย,มหาวิทยาลัยบูรพา.
6. สมยศ นาวีการ. (2554). การบริหารธุรกิจ. กรุงเทพฯ : สานักพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
7. อัญชลาวไล บุศยธรรม. (2556). การศึกษาความเข้าใจของผู้ให้บริการโลจิสติกส์ลาดับที่ 3 และความคาดหวังของลูกค้าต่อการใช้บริการกิจกรรมโลจิสติกส์ในรูปแบบการค้าสามฝ่าย. งานปริญญานิพนธ์ วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาการจัดการการขนส่งและโลจิสติกส์,บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยบูรพา.
8. ฮิเดอิจิโร นากามูระ .(2553). ธุรกิจขนาดย่อมที่ท้าทายโลกอุตสาหกรรม. แปลโดย ไว จามรมาน กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
โปรดดูที่จริยธรรมการตีพิมพ์ https://so03.tci-thaijo.org/index.php/journalcim/Ethics