ทัศนคติส่วนประสมทางการตลาดที่มีความสัมพันธ์กับความภักดีของผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าศึกษาในวิทยาลัยเทคโนโลยีวิมล ศรีย่าน

บทคัดย่อ

          การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งประกอบด้วย เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน จานวนบุตร ระดับชั้นเรียนของบุตร มีผลต่อความภักดีของผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าศึกษาในวิทยาลัยเทคโนโลยีวิมล ศรีย่าน 2) เพื่อศึกษา ทัศนคติส่วนประสมทางการตลาดที่มีความสัมพันธ์กับความภักดี ของผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าศึกษาในวิทยาลัยเทคโนโลยีวิมล ศรีย่าน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้ปกครอง จานวน 400 คน ของวิทยาลัยเทคโนโลยีวิมล ศรีย่าน ที่มีบุตรหลานกาลังศึกษาอยู่ในปีการศึกษา 2558 โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่าสถิติ t-test และค่าสถิติ F-test หรือ ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) ทดสอบค่าเฉลี่ยความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธี LSD ทดสอบความแตกต่างระหว่างความแปรปรวนของกลุ่ม โดยใช้สถิติ Levene’s test ที่ระดับนัยสาคัญทางสถิติที่ .05 และค่าสถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน โดยใช้โปรแกรมสาเร็จรูปทางสังคมศาสตร์

          ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ทัศนคติส่วนประสมทางการตลาด ของผู้ปกครองวิทยาลัยเทคโนโลยีวิมล ศรีย่าน ได้แก่ ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านสถานที่ ด้านการส่งเสริมทางการตลาด ด้านบุคลากร ด้านกระบวนการให้บริการ และด้านสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ มีความสัมพันธ์ต่อความภักดีโดยรวมผู้ปกครองในการส่งบุตรหลานเข้าศึกษาต่อในวิทยาลัยเทคโนโลยีวิมล ศรีย่าน ได้แก่ ตั้งใจจะให้บุตรหลานเรียนที่วิทยาลัยเทคโนโลยีวิมล ศรีย่าน และจะแนะนาผู้ปกครองท่านอื่นให้มาเรียนวิทยาลัยเทคโนโลยีวิมล ศรีย่าน ทั้งสองด้านมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกัน ในระดับปานกลาง อย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01