การดำเนินงานสถานศึกษาพอเพียงตามความเป็นจริงและความคาดหวังของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการดำเนินงานสถานศึกษาพอเพียงตามความเป็นจริงและความคาดหวังของผู้บริหารโรงเรียน 2) ศึกษาดัชนีความต้องการจำเป็นของการดำเนินงานสถานศึกษาพอเพียงของผู้บริหารโรงเรียน 3) เปรียบเทียบความต้องการจำเป็นของการดำเนินงานสถานศึกษาพอเพียงของผู้บริหารโรงเรียนตามตัวแปร เพศ ประสบการณ์การทำงาน วิทยฐานะ ระยะเวลาที่ผ่านการประเมินเป็นสถานศึกษาพอเพียง และขนาดของโรงเรียน 4) ศึกษาปัญหาและข้อเสนอแนะการดำเนินงานสถานศึกษาพอเพียงของผู้อำนวยการโรงเรียน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 จำนวน 126 คน กำหนดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้ตารางสำเร็จรูปของเครจซี่และมอร์แกน ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% สุ่มแบบแบ่งชั้นอย่างสัดส่วนและสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม มาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าดัชนีความสอดคล้อง 1.00 และมีค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่นทั้งฉบับ 0.961 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีความต้องการจำเป็น การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว การเปรียบเทียบพหุคูณด้วยวิธี LSD และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัย พบว่า 1) การดำเนินงานสถานศึกษาพอเพียงตามความเป็นจริงและความคาดหวังของผู้บริหารโรงเรียนโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับดี 2) ดัชนีความต้องการจำเป็นของการดำเนินงานสถานศึกษาพอเพียงของผู้บริหารโรงเรียนโดยรวม มีค่าเท่ากับ 0.04 (PNI Modified = 0.04) 3) ผลการเปรียบเทียบความต้องการจำเป็นการดำเนินงานสถานศึกษาพอเพียงของผู้บริหารโรงเรียนกับตัวแปรเพศ ประสบการณ์การทำงาน วิทยฐานะ และระยะเวลาที่ผ่านการประเมินเป็นสถานศึกษาพอเพียง โดยรวม ไม่แตกต่างกัน ยกเว้น ตัวแปรขนาดโรงเรียน มีรายด้านแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ .05 4) ปัญหาและข้อเสนอแนะ พบว่า โรงเรียนบางส่วนยังไม่มีการปลูกฝังให้นักเรียนตระหนักในหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดังนั้น ผู้อำนวยการโรงเรียนควรกำหนดนโยบายความพอเพียงในการขับเคลื่อนการดำเนินงานสถานศึกษาพอเพียงเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ด้านอยู่อย่างพอเพียงให้เกิดขึ้นกับนักเรียนอย่างต่อเนื่อง
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสาร ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้น และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ ยินยอมว่าบทความเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร
เอกสารอ้างอิง
Autchobkarn, S., Nilphat, P., & Khongsong, S. (2024). A Sufficiency-Based School Administration Model towards Learning Centers in Accordance with the Philosophy of Sufficiency Economy in Education of Schools under Trang Primary Educational Service Area Office 2. Journal of Education, Nakhon Si Thammarat Rajabhat University, 3(1), 1-12.
Bottery, M. (2012). Leadership, the Logic of Sufficiency, and the Sustainability of Education. Educational Management, Administration and Leadership, 40(4), 449-463.
Deemulphan, T. (2022). Administration of Educational Institutions Based on the Sufficiency Economy Philosophy in the Wang Sita Education Network under the Saraburi Primary Educational Service Area Office 2. (Master’s Thesis). Silpakorn University. Nakhon Pathom.
Department of Local Administration, Ministry of Interior. (2016). Guidelines for Teaching and Learning Activities of “Local Sufficiency Schools”. Bangkok: Department of Local Administration.
Dilertpradit, U., Thongprong, A., Kritcharoen, A., & Chatsupang, P. (2023). The Model of School Administration Based on the Philosophy of Sufficiency Economy in Catholic Schools under the Eastern Diocese. Journal of Doctoral Studies in Social Sciences, 13(3), 818-831.
Likitwattana, P. (2015). Educational Research Methods. (2nd ed.). Bangkok: King Mongkut’s Institute of Technology Ladkrabang.
Lomrai, N., & Buranaphan, P. (2023). School Administration Based on the Philosophy of Sufficiency Economy in Secondary Schools in Kamphaeng Saen District, Nakhon Pathom Province. (Master’s Thesis). Siam Technology College. Bangkok.
Nakhon Si Thammarat Primary Educational Service Area Office 2. (2023). Annual Action Plan for Fiscal Year 2023. Nakhon Si Thammarat: Nakhon Si Thammarat Primary Educational Service Area Office 2.
Ounaromloet, T. (2011). Educational Research Instruments. Nakhon Pathom: Silpakorn University.
Panliang, P., Churak, Y., & Tulniska, C. (2024). Community Participation in Developing Sufficiency Economy Learning Centers: A Case Study of Ban Phru Community, Zone 2, Ban Phru Subdistrict, Hat Yai District, Songkhla Province. In Proceedings of the 9th Hatyai National and International Conference (pp. 926-973). Songkhla: Hatyai University.
Philip, Y. (2009). A Bottom-up Definition of Self-Sufficiency: Voices from Low-Income Jobseekers. Qualitative Social Work, 8(3), 357-376.
Saraburi Primary Educational Service Area Office 2. (2021). Annual Performance Report for Fiscal Year 2020. Saraburi: Saraburi Primary Educational Service Area Office 2.
Seesaaud, B. (2010). Basic Research. Bangkok: Suweeriyasarn.
Silcharu, T. (2007). Research and Statistical Data Analysis Using SPSS. (10th ed.). Nonthaburi: SR Printing Mass Products.
Suwatthi, A., Niamteth, W., Chusuwan, R., & Tansakun, J. (2022). Needs Assessment for the Development of School Administration Based on the Philosophy of Sufficiency Economy in Primary Schools in the Three Southern Border Provinces. (Master’s Thesis). Prince of Songkla University. Songkla.
The Office of the Education Council, Ministry of Education. (2017). National Education Plan (B.E. 2560-2579). Bangkok: Prikwhan Graphic Co., Ltd.
Unger, D. (2009). Sufficiency Economy and the Bourgeois Virtues. Asian Affairs: An American Review, 36(3), 139-156.
Worngwanit, S. (2007). Needs Assessment Research. Bangkok: Chulalongkorn University Press.
