กระบวนการเสริมสร้างพลเมืองตื่นรู้ด้านการมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยพุทธสันติวิธีของเทศบาลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต

Main Article Content

กิติภูมิสมชาด มัทธุจัด
อุทัย สติมั่น

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาวิเคราะห์บริบท สภาพปัญหา และความต้องการจำเป็นเกี่ยวกับการเสริมสร้างพลเมืองตื่นรู้ด้านการมีส่วนร่วมทางการเมืองของพลเมืองตำบลป่าคลอก และแนวคิด ทฤษฎีการมีส่วนร่วมทางการเมืองกับการเสริมสร้างความตื่นรู้ 2) เพื่อศึกษาหลักพุทธสันติวิธีที่เอื้อต่อกระบวนการเสริมสร้างพลเมืองตื่นรู้ด้านการมีส่วนร่วมทางการเมือง และ 3) เพื่อสร้างและนำเสนอกระบวนการเสริมสร้างพลเมืองตื่นรู้ด้านการมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยพุทธสันติวิธีของเทศบาลตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยใช้กระบวนการวิจัยตามบันได 9 ขั้น และอริยสัจจ์โมเดล กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ มีจำนวน 30 รูป/คน โดยใช้การวิเคราะห์ในลักษณะพรรณนา


ผลการศึกษาพบว่า 1) เทศบาลตำบลป่าคลอก มีจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาสและอุปสรรค แยกเป็นด้านต่าง ๆ ได้ดังนี้ ด้านจุดแข็ง มีการรวมกลุ่มคนที่มีจิตอาสาในการทำงานเพื่อสังคมและได้รับการยอมรับ ผู้นำเทศบาลให้ความสำคัญกับชุมชนในการพัฒนาแบบมีส่วนร่วมและมุ่งสู่ความเข้มแข็งของผู้สูงอายุในชุมชนมีความรู้ความสามารถในการพัฒนาท้องถิ่น มีสถาบันทางศาสนาเป็นศูนย์รวมจิตใจและใช้เป็นแกนหลักในการพัฒนาการและการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม มีการส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานของเทศบาล ด้านจุดอ่อนพบว่า ขาดแกนนำคนรุ่นใหม่ในการทำงานเพื่อสังคมมีน้อยลง การทำงานร่วมกันของผู้นำในตำบลไม่มีความเป็นเอกภาพเป็นลักษณะต่างคนต่างทำ ความผูกพันธ์เหนียวแน่นระหว่างเครือญาติและคนในสังคมน้อยลง ประชาชนขาดสำนึกรักบ้านเกิดและขาดความเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน ด้านโอกาส พบว่า รัฐบาลมีนโยบายในการส่งเสริมการศึกษา และการเข้าถึงเทคโนโลยีสารสนเทศในการเรียนการสอน พระราชบัญญัติ ระเบียบ กฎหมาย สนับสนุนให้มีการพัฒนาท้องถิ่นที่สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในท้องถิ่นอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ด้านอุปสรรค พบว่า ระเบียบ กฎหมายที่บังคับใช้ไม่ทันต่อสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน และเป็นข้อบังคับที่ถูกกำหนดจากส่วนกลาง ซึ่งบางครั้งไม่สามารถนำมาปรับใช้กับการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ได้ ประชากรแฝงมีที่มาจากหลายพื้นที่ทำให้มีความแตกต่างทางวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีการดำรงชีวิต อาจส่งผลต่อการพัฒนา การดำรงชีวิตต่างคนต่างอยู่ขาดระเบียบ และจิตสำนึกในความเป็นเจ้าของท้องถิ่น ส่วนแนวคิดเพื่อการเสริมสร้างพลเมืองตื่นรู้นั้น มี 5 รูปแบบ ดังนี้ 1) การจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม 2) การจัดการเรียนรู้แบบลงมือทำ 3) การจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 4) การจัดการเรียนรู้ที่ไม่ชี้นำความคิดเห็น 5) การจัดการเรียนรู้ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทางการเมือง 2) หลักพุทธสันติวิธีที่เอื้อต่อกระบวนการเสริมสร้างพลเมืองตื่นรู้ด้านการมีส่วนร่วมทางการเมือง ได้แก่ หลักสังคหวัตถุ 4 อันเป็นหลักธรรมสำหรับยึดเหนี่ยวจิตใจ และเป็นหลักการสงเคราะห์ ซึ่งหมายถึงการช่วยเหลือกัน ยึดเหนี่ยวจิตใจกันไว้ มี 4 ประการ ได้แก่ 1) ทาน การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เสียสละ แบ่งปัน 2) ปิยวาจา การกล่าวถ้อยคำที่สุภาพ แสดงความเห็นอกเห็นใจ ให้กำลังใจ รู้จักพูดให้เกิดความเข้าใจดี สมานสามัคคี เกิดไมตรี 3) อัตถจริยา ทำประโยชน์แก่เขา 4) สมานัตตตา การทำอย่างเสมอต้นเสมอปลาย และหลักปัญญา 3 ประกอบด้วย สุตมยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการฟัง จินตมยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากการคิด ภาวนามยปัญญา ปัญญาที่เกิดจากกาอบรม 3) กระบวนการมีส่วนร่วมทางการเมืองเพื่อเสริมสร้างพลเมืองตื่นรู้โดยพุทธสันติวิธีของเทศบาลตำบลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ตด้วยรูปแบบ “PAKLOK MODEL” ซึ่งประกอบด้วยหลักการสำคัญ ดังนี้ P = Participation มุ่งการมีส่วนร่วม A = Action มุ่งลงมือทำและจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เหมาะสม K = Knowledge มีมโนทัศน์การเรียนรู้ที่รอบด้าน L = learning มีการเรียนรู้ 5 รูปแบบ O = output มีทักษะและพฤติกรรมที่พึงประสงค์เช่นเป็นผู้มีจิตสาธารณะและจิตอาสา K = Knowledge by Buddhist peaceful means ความรู้บนฐานพุทธสันติวิธี คือหลักสังคหวัตถุ 4 และหลักปัญญา 3

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
มัทธุจัด ก., & สติมั่น อ. . . (2025). กระบวนการเสริมสร้างพลเมืองตื่นรู้ด้านการมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยพุทธสันติวิธีของเทศบาลป่าคลอก อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร, 13(2), 727–740. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/journal-peace/article/view/278162
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

Charasmathusorn, K. (2017). Forms and Strategies for Creating Aware Citizens: A Case Study of the Project on the Power of Children and Youth for Learning about the Western Social Landscape. (Master’s Thesis). Silpakorn University. Bangkok.

Mahachulalongkornrajavidyalaya University. (1996). Thai Tripitakas. Bangkok: MCU Press.

Samkoset, W. (2015). Active Citizen. Retrieved October 28, 2022, from https://thaipublica.org/2015/08/varakorn-125/

Siritheeratharadol, P., Intarakamhang, U., & Tuntivivat, S. (2022). A Study of the Meaning, Characteristic and Development of Active Global Citizenship Based on Transformative Learning among Undergraduate Students. Journal of Buddhist Social Sciences and Anthropology, 7(6), 98-114.

Suppasorn, P., Somsri, T., & Saetwong, S. (2012). Process of Developing Volunteerism according to Buddhism. (Research Report). Ayutthaya: Mahachulalongkornrajavidyalaya University.

Tiyao, B. (2018). Volunteer Movement: Socialization and Personal Development of Youth in Bangkok and Surrounding Areas. (Doctoral Dissertation). Mahachulalongkornrajavidyalaya University. Phra Nakhon Sri Ayutthaya.