การศึกษาวิเคราะห์อริยวังสปฏิปทาในคัมภีร์พระพุทธศาสนา

Main Article Content

Phramaha Wirat Ācãrasubho
Phramaha Khwanchai Kittimethi
Phramaha Somboon Vuddhikaro
Samiddhipol Netnimit

บทคัดย่อ

ดุษฎีนิพนธ์ฉบับนี้มีวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1) เพื่อศึกษาคำสอนเรื่องอริยวังส ปฏิปทาในคัมภีร์พระพุทธศาสนา 2) เพื่อศึกษาหลักการปฏิบัติอริยวังสปฏิปทาในคัมภีร์พระพุทธศาสนา และ 3) เพื่อวิเคราะห์แนวทางการบำเพ็ญอริวังสปฏิปทาในคัมภีร์พระพุทธศาสนา


          ผลการวิจัยพบว่า อริยวังสปฏิปทา ได้แก่ ข้อปฏิบัติอันเป็นวงศ์ของพระอริยเจ้า 3 ประเภท คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้าและพระอนุพุทธเจ้า อริยวังสปฏิปทาเป็นข้อปฏิบัติว่าด้วยความสันโดษ 4 อย่าง คือ (1) ความสันโดษด้วยจีวร (2) ความสันโดษด้วยบิณฑบาต (3) ความสันโดษด้วยเสนาสนะ และ (4) ความยินดีในการเจริญกุศลและละอกุศล หรือ ความยินดีด้วยภาวนา ปฏิปทา 4 ข้อนี้เป็นที่รู้กันว่าเลิศ รู้กันมานาน รู้กันว่าเป็นอริยวงศ์ เป็นของเก่าไม่ถูกลบล้างทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต และไม่ถูกสมณพราหมณ์ผู้รู้คัดค้าน หลักธรรมที่เป็นพื้นฐานของอริยวังสปฏิปทา ได้แก่ อามิสทานและธรรมทาน ความสันโดษ ปาริสุทธิศีล 4 การเว้นอเนสนา การเว้นบุคคลและสถานที่อโคจร และ การพิจารณาตระกูลที่ควรเข้าไปนั่งใกล้และไม่ควรเข้าไปนั่งใกล้


          หลักการบำเพ็ญอริยวังสปฏิปทาในพระพุทธศาสนาแบ่งเป็น 2 ขั้นตอน คือ ชั้นตอนที่ 1 คือ การบริโภคปัจจัยเท่าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพของภิกษุในภาวะปกติ ได้แก่ การใช้สอยจีวรด้วยความสันโดษ การบริโภคอาหารบิณฑบาตด้วยความสันโดษ การใช้สอยเสนาสนะ (ที่อยู่อาศัย) ด้วยความสันโดษ และ ชั้นตอนที่ 2 คือ การฝักหัดพัฒนาตนเพื่อเจริญกุศลและละอกุศลอันจะนำตนสู่ความเป็นผู้ประเสริฐ หรือ พัฒนาตนสู่ความเป็นพระอริยเจ้าตามลำดับ แสดงให้เห็นภาพรวมวิถีชีวิตของพระสงฆ์ใน 2 ด้าน คือ ในตอนดำรงเพศเป็นภิกษุอยู่นี้ก็ให้พึ่งพาอาศัยปัจจัย 4 เท่าที่จำเป็น ไม่ให้มีมากจนเป็นการพอกพูนส่งเสริมกิเลสและเบียดเบียนคฤหัสถ์ ไม่ให้มีน้อยจนทำให้ตนใช้ชีวิตด้วยความขาดแคลน หากแต่ให้มีอย่างเพียงพอต่อการรักษาชีวิตให้มีเวลาและมีเรี่ยวแรงศึกษาและปฏิบัติตามพระธรรมวินัยที่พระพุทธเจ้าประกาศไว้


          วิเคราะห์แนวทางการบำเพ็ญอริยวังสปฏิปทาในพระพุทธศาสนา สรุปได้ 4 ประการ คือ (1) สันโดษด้วยจีวร : ภิกษุผู้สันโดษด้วยจีวรต้องใช้ผ้าตามหลักธุดงค์หมวดจีวรปฏิสังยุต 2 ข้อ คือ 1)   ปังสุกูลิกังคธุดงค์ (ถือผ้าบังสุกลจีวรเป็นวัตร) 2) เตจีวริกังคธุดงค์ ถือการใช้ผ้าไตรจีวรเป็นวัตร (2) สันโดษด้วยบิณฑบาตร : ภิกษุผู้สันโดษด้วยอาหารบิณฑบาตต้องบริโภคอาหารบิณฑบาตตามหลักธุดงค์หมวดโภชนปฏิสังยุต 5 ข้อ คือ 1) ปิณฑปาติกังคะ (ถือบิณฑบาตเป็นวัตร)  2) สปทานจาริกังคะ (ถือการบิณฑบาตตามลำดับบ้านเป็นวัตร)  3) เอกาสนิกังคะ (ถือการฉันในอาสนะเดียวเป็นวัตร) 4) ปัตตปิณฑิกังคะ (ถือการฉันในบาตรเป็นวัตร) และ 5) ขลุปัจฉาภัตติกังคะ (ถือการห้ามภัตที่ถวายภายหลังเป็นวัตร) (3) สันโดษด้วยเสนาสนะ : ภิกษุผู้สันโดษด้วยเสนาสนะต้องอาศัยอยู่ในเสนาสนะตามหลักธุดงค์หมวดเสนาสนปฏิสังยุต 6 ข้อ คือ 1) อารัญญิกังคะ (ถือการอยู่ป่าเป็นวัตร)  2) รุกขมูลิกังคะ (ถือการอยู่โคนไม้เป็นวัตร) 3) อัพโพภาสิกังคะ (ถือการอยู่กลางแจ้งเป็นวัตร) 4)   โสสานิกังคะ (ถือการอยู่ในป่าช้าเป็นวัตร) 5) ยถาสันถติกังคะ (ถือการอยู่ในเสนาสนะที่เขาจัดไว้ให้เป็นวัตร) และ 6) เนสัชชิกังคะ (ถือการนั่งเป็นวัตร) งดเว้นการนอน จะอยู่ด้วย 3 อิริยาบถ ยืน เดินและนั่งเท่านั้น (4) ยินดีในการเจริญกุศลและละอกุศล : ปฏิปทาข้อนี้ ได้แก่ การปฏิบัติเพื่อบรรลุธรรม ตามหลักโพธิปักขิยธรรม 37 ประการ ได้แก่หลักธรรม 7 หมวด คือ 1) สติปัฏฐาน 4, 2) สัมมัปปธาน 4, 3) อิทธิบาท 4, 4) อินทรีย์ 5, 5) พละ 5, 6) โพชฌงค์ 7 และ 7) มรรคมีองค์ 8 ภิกษุผู้บำเพ็ญอริยวังสปฏิปทาอย่างสมบูรณ์ย่อมมีชีวิตเรียบง่าย สงบ งดงาม เนื่องจากถือหลักสันโดษด้วยปัจจัยเครื่องดำรงชีพ และจะสามารถพัฒนาตนสู่ความเป็นพระอริยเจ้าได้ในที่สุด เนื่องจากเป็นผู้ปฏิบัติตนตามหลักโพธิปักขิยธรรมซึ่งเป็นธรรมที่เป็นฝักฝ่ายแห่งการบรรลุธร

Article Details

บท
บทความวิจัย