ชื่ออาหารท้องถิ่นอีสานและภาคใต้: มุมมองด้านอรรถศาสตร์ชาติพันธุ์
คำสำคัญ:
ชื่ออาหาร, อรรถศาสตร์ชาติพันธุ์, ภาษาศาสตร์ชาติพันธุ์, อาหารใต้, อาหารอีสานบทคัดย่อ
ภาษาสามารถอธิบายระบบคิดของคนในแต่ละสังคม ชื่ออาหารเป็นรูปแบบภาษาอีกรูปแบบหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นมุมมองของคนในแต่ละท้องถิ่น บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์ชื่ออาหารของภาคอีสานและภาคใต้ตามแนวคิดเชิงอรรถศาสตร์ชาติพันธุ์ ข้อมูลการวิจัยเก็บรวบรวมจากรายชื่ออาหารท้องถิ่นในร้านอาหารและแผงลอยและการสัมภาษณ์ผู้บอกข้อมูลหลักที่มีความรู้เกี่ยวกับอาหารท้องถิ่นของจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดปัตตานี ผลการวิจัย พบว่า ภาคอีสานมีชื่อเรียกประเภทของอาหาร จำนวน 25 ประเภท ภาคใต้มีจำนวน 11 ประเภท คนอีสานให้ความสำคัญกับวิธีการประกอบอาหาร จึงมีชื่อวิธีการประกอบอาหารปรากฏหน้าวัตถุดิบ ส่วนภาคใต้ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบประกอบอาหาร โดยชื่ออาหารส่วนใหญ่จะบอกวัตถุดิบในการประกอบอาหารก่อนวิธีการประกอบอาหาร วัตถุดิบประกอบอาหาร พบว่า ภาคอีสานให้ความสำคัญกับเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะวัว ควาย หมู และไก่ ส่วนอาหารท้องถิ่นใต้ให้ความสำคัญกับปลา หอย ไก่ กุ้ง และพืชผักสมุนไพร วิธีการประกอบอาหารของคนอีสานและคนใต้สัมพันธ์กับรูปแบบวัฒธรรมในการประกอบอาชีพ คนอีสานเลี้ยงวัว ควายเพื่อทำนา จึงนิยมรับประทานเนื้อสัตว์เหล่านี้ ขณะที่คนใต้มีอาชีพประมงจึงนิยมรับประทานปลาและสัตว์น้ำ รวมถึงการรับประทานผักสดเพราะมีสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นจึงมีพืชผักหลายชนิดรับประทานตลอดปี ส่วนภาคอีสานใช้การถนอมผักเพื่อไว้รับประทานในช่วงที่ขาดแคลน เพราะสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้ง จึงไม่มีผักสดรับประทานตลอดปี อาหารที่นิยมของคนอีสานคือลาบและส้มตำซึ่งสัมพันธ์กับวิธีการรับประทานข้าวเหนียวขณะที่คนใต้นิยมรับประทานอาหารประเภทแกงและต้มซึ่งสัมพันธ์กับวิธีการรับประทานข้าวสวย ทั้งนี้อาหารท้องถิ่นของทั้งสองภูมิภาคมีรสชาติเผ็ดจัดและเค็มเหมือนกันด้วย
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2017 วารสารศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ (Journal of Liberal Arts Prince of Songkla University Hat Yai)

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์บทความเป็นของผู้เขียน แต่วารสารศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ขอสงวนสิทธิ์ในการเป็นผู้ตีพิมพ์เผยแพร่เป็นครั้งแรก


