การศึกษาความสำคัญ ปัญหา และและพฤติกรรมบ่งชี้ของทักษะการฟัง พูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี
คำสำคัญ:
ทักษะการฟังภาษาอังกฤษ, ทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร, นักศึกษาระดับปริญญาตรี, องค์ประกอบ, พฤติกรรมบ่งชี้บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความสำคัญและปัญหาของทักษะการฟัง พูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี 2) เพื่อศึกษาพฤติกรรมบ่งชี้ของทักษะการฟัง พูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารสำหรับนักศึกษาระดับปริญญาตรี เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ได้ศึกษาแนวคิดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน เป็นกรอบการวิจัย กลุ่มตัวอย่างคือ อาจารย์ผู้สอนภาษาอังกฤษในระดับอุดมศึกษา 5 ท่านและผู้เชี่ยวชาญทางด้านหลักสูตรและการสอนภาษาอังกฤษในระดับอุดมศึกษา5 ท่าน ใช้วิธีคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสัมภาษณ์เชิงลึก วิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) ด้วยการวิเคราะห์แบบอุปนัย (Analytic induction) ผลการวิจัยพบว่า
- ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 1 พบว่า ทักษะการฟัง พูดภาษาอังกฤษมีความสำคัญเพราะจะต้องใช้ในการติดต่อสื่อสาร นักศึกษาที่มีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีสามารถเลือกงานที่สนใจและผลตอบแทนสูงได้ ปัญหาของทักษะการฟัง พูดภาษาอังกฤษ สาเหตุมาจากการเรียนภาษาอังกฤษในระยะเวลาที่ไม่มากพอต่อสัปดาห์และขาดการฝึกฝนทักษะภาษาอังกฤษด้วยตนเองนอกชั้นเรียน รูปแบบการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษเป็นรูปแบบของการบรรยาย ขาดการส่งเสริมกิจกรรมให้ผู้เรียนได้นำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
- ผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ข้อที่ 2 พฤติกรรมบ่งชี้ของทักษะการฟัง คือ ผู้เรียนสามารถฟังคู่สนทนาและเข้าใจในสิ่งที่ได้ฟังและโต้ตอบกลับได้อย่างเป็นธรรมชาติ2. ผู้เรียนสามารถฟังข้อมูลที่เป็นข้อความสั้นๆได้ 3. ผู้เรียนสามารถฟังเรื่องราวบริบทต่างๆในชีวิตประจำวันและเอาตัวรอดได้ 4. ผู้เรียนให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมต่างๆที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร 5. ผู้เรียนสามารถฟังผู้ส่งสารและสามารถพูดโต้ตอบกลับได้ พฤติกรรมบ่งชี้ของทักษะการพูดคือ 1. ผู้เรียนสามารถพูดโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติ 2. ผู้เรียนสามารถพูดตอบคำถามสั้นๆได้ 3. ผู้เรียนสามารถนำความรู้หลักโครงสร้างภาษาอังกฤษโดยถ่ายทอดออกมาจากการพูดได้ 4. ผู้เรียนสามารถพูดเกี่ยวกับเรื่องราวในชีวิตประจำวันในหลายๆบริบทได้และเอาตัวรอดได้ 5. ผู้เรียนให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมต่างๆที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารได้ 6. ผู้เรียนสามารถพูดโต้ตอบกับคู่สนทนาได้อย่างเข้าใจตรงกัน 7. ผู้เรียนสามารถพูดด้วยความมั่นใจ
องค์ความรู้ที่ได้จากงานวิจัยนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษของนักศึกษาระดับปริญญาตรี
เอกสารอ้างอิง
Burn, M. (2004). Issue with Outcome in Workplace ESL Programs. Retrieved November
, 2009, from http://www.workandeconomy.org/images/Issue_in_Improving_
Chariyanan Chanta. (2012). Development of language teaching lessons that emphasize
vocational work in order to Promote students' English-speaking ability and self-confidence. Bachelor's degree level. Master's degree thesis. Chiang Mai: Graduate School
Chiang Mai University.
Commission on Higher Education. (2009). Guidelines for following the Qualifications Standards
Framework. National higher education level. Bangkok: Ministry of Education.
Duannapa Thongmak. (2015). A study of English listening-speaking ability and attention.
Continuing the English language learning of Grade 2 students at Ban Phukai School using the method Teach with activities and songs. Master of Education Thesis. Ratchaburi: Graduate School Muban Chom Bueng Rajabhat University.
Ministry of Education. (2016). Announcement of the Ministry of Education regarding learning
reform policy.Teaching English. Bangkok: Ministry of Education. Immigrant_Worker_English_Language_Skills_Burt.pdf
Monpawee Phetcharat. (2011). A study of the needs for using English for textbook evaluation.
Studying in English language training for offshore petroleum employees. Master of Arts Thesis, Major in Teaching English as an International Language, Graduate School, Prince of Songkla University.
Nongsamorn Phongpanich. (2008). A study of English-speaking problems in oral communication
Of Faculty of Management Science students Kasetsart University Sriracha Campus. Journal Humanities, 18(1), 85-97.
Savignon, S. J. (1997). Communicative language teaching: State of the art. TESOL
Quarterly, 25(2), 261-277.
Swain, M. (1984). Teaching and testing communicatively. TESL TALK, 5, 7-18
Teeraporn Plylek. (2011). Factors affecting English speaking of second year students in the field
of study. English, Faculty of Education, Rajabhat University in Bangkok. research journal
and Development, 3, 53-58.
Wasinee Noonpakdee. (2015). A study of English listening-speaking ability and attitude towards
Study English for Grade 5 students at Wat Rang Bua Community School (Laem
Ratbamrung) using teaching methods according to the theory of language teaching
(GENRE-BASED APPROACH) with the characteristics of the story (NARRATIVE GENRE)
FEATURES). Master of Education Thesis. Ratchaburi: Graduate School, University
Chom Bueng Village Rajabhat.
Wichai Singsom. (2012). Factors and approaches to correct the use of English by Thai students
at the level Higher education. Bangkok: Chandrakasem Rajabhat University.
Widdowson, H.G. (1981). Teaching Language as Communication. London : Oxford
University Press.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสาร มจร พุทธปัญญาปริทรรศน์
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
