แนวความคิดที่ทำให้รัฐรับรองผลผูกพันของสัญญาที่เอกชนทำขึ้น
คำสำคัญ:
สัญญา, การบังคับใช้สัญญา, ผลผูกพันของสัญญาบทคัดย่อ
“สัญญา” เป็นเครื่องมือที่รัฐให้แก่บุคคลสำหรับใช้ในการก่อนิติสัมพันธ์ระหว่างกัน ปัจจุบันบุคคลในสังคมมีการทำสัญญาระหว่างกันเกิดขึ้นมากมายและหลากหลายรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกวันนี้เป็นโลกแห่งเทคโนโลยี สัญญามีแต่จะทวีเกิดมากขึ้นและเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วกว่าเมื่อก่อน เช่น การซื้อขายสินค้าออนไลน์ การจองห้องพักออนไลน์ หรือการทำสัญญาโดยการคลิก “ตกลง (Agree)” หรือ “ยอมรับ (Accept)” ข้อตกลงและเงื่อนไข (Terms and Conditions) ในการเข้าใช้แอปพลิเคชันมือถือหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่างๆ เป็นต้น บุคคลทั่วไปล้วนทราบดีว่าเมื่อสัญญาได้เกิดขึ้นแล้วคู่สัญญามีหน้าที่หรือหนี้ที่จะต้องปฏิบัติตามนั้นและหากไม่ปฏิบัติตามก็จะเป็นการผิดสัญญา โดยในทางกฎหมายหากมีการผิดสัญญาเกิดขึ้น เจ้าหนี้ก็มีสิทธิที่จะร้องขอต่อศาลซึ่งเป็นองค์กรของรัฐให้บังคับชำระหนี้ได้ การที่สามารถฟ้องร้องต่อศาลของรัฐได้กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เป็นการที่รัฐได้รับรองการมีผลผูกพันของสัญญาที่บุคคลทำขึ้นนั่นเอง
บทความนี้เป็นการนำเสนอถึงแนวความคิดเบื้องหลังที่ทำให้รัฐรับรองการมีผลผูกพันของสัญญาที่เอกชนได้ทำขึ้นโดยพิจารณาจากแนวความคิดทางนิติปรัชญา แนวความคิดทางนิติศาสตร์ และแนวความคิดทางเศรษฐศาสตร์ เพื่อให้ทราบถึงแนวความคิดอันเป็นรากฐานในเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งผ่านทางมุมมองที่หลากหลาย ในด้านนิติปรัชญาแนวความคิดที่สนับสนุนหลักการนี้ปรากฏอยู่ในเรื่องกฎหมายธรรมชาติ (Natural Law) และทฤษฎีสัญญาประชาคม (Social Contract Theory) ส่วนแนวความคิดทางนิติศาสตร์พิจารณาได้จากหลักอิสระในทางแพ่ง (Private Autonomy) และหลักเสรีภาพในการทำสัญญา (Freedom of Contract) สำหรับแนวความคิดทางเศรษฐศาสตร์สามารถพิจารณาจากจัดสรรทรัพยากรตามแนวความคิดอรรถประโยชน์นิยม (Utilitarianism) อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโดยหลักแล้วเมื่อบุคคลได้ทำสัญญาขึ้นรัฐจะรับรองการมีผลผูกพันของสัญญานั้น แต่ทว่าหลักการนี้ก็ต้องอยู่ภายในกรอบหรือขอบเขตที่สมควรด้วย
Downloads
เอกสารอ้างอิง
กิตติศักดิ์ ปรกติ. (2554). หลักสุจริตและเหตุเหนือความคาดหมายในการชำระหนี้. กรุงเทพฯ : วิญญูชน.
จรัญ โฆษณานันท์. (2552). นิติปรัชญา. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
จุมพต สายสุนทร. (2554). กฎหมายระหว่างประเทศ เล่ม 2. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ : วิญญูชน.
ไนเจล วอร์เบอร์ตัน. (2561). ปรัชญา : ประวัติศาสตร์สายธารแห่งปัญญา. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ : บุ๊คสเคป.
ปารวี พิสิฐเสนากุล. (2553). หลัก clausula rebus sic stantibus ในสัญญาทางปกครอง. วิทยานิพนธ์ปริญญานิติศาสตรบัณฑิต สาขากฎหมายมหาชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ปรีดี เกษมทรัพย์. (2552). นิติปรัชญา. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์เดือนตุลา.
พวงผกา บุญโสภาคย์ และประสาน บุญโสภาคย์. (2553). กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยนิติกรรมและสัญญา. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
ศักดิ์ สนองชาติ. (2557). คำอธิบายประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์นิติกรรมสัญญา. พิมพ์ครั้งที่ 11. กรุงเทพฯ : นิติบรรณการ.
ศนันท์กรณ์ (จำปี) โสตถิพันธุ์. (2555). คำอธิบายนิติกรรม-สัญญา. พิมพ์ครั้งที่ 17. กรุงเทพฯ : วิญญูชน.
สุดารัตน์ พิมลรัตนกานต์. (2557). เศรษฐศาสตร์เบื้องต้น. กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น.
สมยศ เชื้อไทย. (2561). นิติปรัชญาเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 20. กรุงเทพฯ : วิญญูชน.
เสนีย์ ปราโมช. (2559). ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยนิติกรรมและหนี้ เล่ม 1. พิมพ์ครั้งที่ 3 (ปรับปรุงแก้ไขโดย มุนินทร์ พงศาปาน). กรุงเทพฯ : วิญญูชน.
สุรพล ไตรเวทย์. (2554). หลักการทำสัญญาและตัวอย่างสัญญาต่าง ๆ เล่ม 1. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : วิญญูชน.
Mckendrick, E. (2007). Contract Law. New York : Palgrave Macmillan.
Vernon Smith. (2017). “Adam Smith's concept of justice.” [Online]. Available : https://fee.org/articles/adam-smiths-concept-of-justice/ Retrieved March 28, 2025.
World Bank. (n.d.). “Enforcing Contracts.” [Online]. Available : https://subnational.doingbusiness.org/en/data/exploretopics/ enforcin-contracts/why-matters Retrieved March 28, 2025.





