อัตลักษณ์บทชมเมือง: กลวิธีการประพันธ์และภาพสะท้อนสังคมร่วมสมัยในวรรณกรรมยอพระเกียรติสมัยรัชกาลที่ 9
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษากลวิธีการประพันธ์บทชมเมืองในวรรณกรรมยอพระเกียรติสมัยรัชกาลที่ 9 และ 2) ศึกษาอัตลักษณ์การนำเสนอภาพสะท้อนสังคมร่วมสมัยในบทชมเมืองวรรณกรรมยอพระเกียรติสมัยรัชกาลที่ 9 ใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ เก็บรวบรวมข้อมูลบทชมเมืองในวรรณกรรมยอพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ตีพิมพ์เป็นเรื่องเดี่ยว จำนวน 8 เรื่อง สัมภาษณ์เชิงลึกกวีผู้สร้างสรรค์ผลงาน และนำเสนอด้วยวิธีพรรณนาเชิงวิเคราะห์
ผลการวิจัยพบว่า 1) กลวิธีการประพันธ์บทชมเมืองในวรรณกรรมยอพระเกียรติสมัยรัชกาลที่ 9 กวีประกอบสร้างบทชมเมืองด้วยกระบวนการสืบทอดขนบจากวรรณกรรมในอดีตทั้งด้านรูปแบบคำประพันธ์ และภาษาวรรณศิลป์ กวีใช้กลวิธีต่าง ๆ ปรุงแต่งบทชมเมืองให้มีความไพเราะด้านเสียง ความหมาย และเกิดจินตภาพ และ 2) อัตลักษณ์การนำเสนอภาพสะท้อนสังคมเมืองร่วมสมัยในบทชมเมืองวรรณกรรมยอพระเกียรติสมัยรัชกาลที่ 9 กวีได้สร้างสรรค์บทชมเมืองให้มีอัตลักษณ์ โดยนำขนบของการประพันธ์มาสื่อความคิดร่วมสมัย ผ่านการนำเสนอเนื้อหาที่กล่าวถึงสภาพบ้านเมืองในยุคสมัยรัชกาลที่ 9 กวีมุ่งเน้นพรรณนาภาพบ้านเมืองซึ่งถูกพัฒนาอย่างก้าวทันยุคโลกาภิวัตน์ มีความเจริญทัดเทียมนานาอารยประเทศ อีกทั้งนำเสนอภาพความวิจิตรงดงามของปราสาทราชวังอย่างขนบในอดีต ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางความเจริญของสังคมเมืองได้อย่างลงตัว มีนัยสื่อถึงพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่ทรงปกครองประเทศให้เจริญรุ่งเรือง
บทชมเมืองในวรรณกรรมยอพระเกียรติสมัยรัชกาลที่ 9 พบว่า 2 บทบาทหน้าที่สำคัญ คือ 1) เป็นบันทึกร่องรอยทางประวัติศาสตร์กระแสหลัก และ 2) เป็นต้นแบบสำหรับการแต่งวรรณกรรมยอพระเกียรติสมัยหลัง ซึ่งองค์ความรู้จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาการวิจัยทางด้านวรรณกรรมไทยต่อไป
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ต้นฉบับทุกเรื่องที่พิมพ์เผยแพร่ได้รับการตรวจสอบความถูกต้องทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิ (Peer Peview) เฉพาะสาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ การตีพิมพ์บทความซ้ำต้องได้รับการอนุญาตจากกองบรรณาธิการเป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
กาญจนา นาคสกุล. (2552). ภาษาไทย: ชุดคำไทย. กรุงเทพฯ: สมาคมครูภาษาไทยแห่ง
ประเทศไทย.
จิรภา อ่อนเรือง. (2514). ลิลิตราชาภิเษกสมรสบรมราชาภิเษก และเฉลิมพระราชมณเฑียร
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช. พระนคร: นวจันทร์
และเทพธานีกรีฑา.
ฉลาดชาย รมิตานนท์. (2545). แนวคิดในการศึกษาอัตลักษณ์ความเป็น “ไท”. ใน สรัสวดี
อ๋องสกุล และโยชิยูกิ มาซูฮารา (บ.ก.), การศึกษาประวัติศาสตร์และวรรณกรรม
ของกลุ่มชาติพันธุ์ไท, (น.153-175). กรุงเทพฯ: อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง.
ดุสิต คร่ำสุข, พระมหา. (2532). 60 พระพรรษามหาราชคำฉันท์. กรุงเทพฯ: มูลนิธิ
ธนาคารกรุงเทพฯ.
ธเนศ เวศ์ภาดา. (2549). หอมโลกวรรณศิลป์: การสร้างรสสุนทรีย์แห่งวรรณคดีไทย.
กรุงเทพฯ: ปาเจรา.
ปัทมา ฑีฆประเสริฐกุล. (2556). ยวนพ่ายโคลงดั้น: ความสำคัญที่มีต่อการสร้างขนบและ
พัฒนาการของวรรณคดีประเภทยอพระเกียรติของไทย. วิทยานิพนธ์ อ.ด.
(ภาษาไทย). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
มะเนาะ ยูเด็น, และ วันเนาว์ ยูเด็น. (2548). ความรู้เกี่ยวกับร้อยกรอง. กรุงเทพฯ: องค์การ
ค้าของคุรุสภา.
ราชบัณฑิตยสถาน. (2556). พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 (พิมพ์ครั้งที่
. กรุงเทพฯ: นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์.
วงศ์ เชาวนะกวี. (2530). บทกวีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช.
กรุงเทพฯ: ธนาคารไทยพาณิชย์.
วทัญญู ปรัชญานนท์. (2539). 50 ฤดูฝน. กรุงเทพฯ: ปูนซิเมนต์ไทย.
วรรณคดี สรรพจิต. (2525). บารมีพระร่มเกล้า: คำฉันท์เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ
พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ฉบับชนะการประกวด. กรุงเทพฯ:
กรมศิลปากร.
วราภรณ์ บำรุงกุล. (2537). ร้อยกรอง. กรุงเทพฯ: ต้นอ้อ.
ศิวกานท์ ปทุมสูติ. (2539). สมเด็จพระภัทรมหาราชคำฉันท์. กรุงเทพฯ: ต้นอ้อแกรมมี่.
เศรษฐ พลอินทร์. (2524). ลักษณะคำประพันธ์ไทย. กรุงเทพฯ: ภาคพัฒนาตำราและ
เอกสารวิชาการ หน่วยศึกษานิเทศก์ กรมการฝึกหัดครู.
สมหวัง สาระภะ, พระมหา. (2531). พระราชกรณียกิจ: คำกลอนเฉลิมพระเกียรติพระบาท
สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ฉบับชนะประกวด. กรุงเทพฯ: กอง
วรรณคดีและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร.
เสาวณิต วิงวอน. (2530). การศึกษาวิเคราะห์วรรณกรรมยอพระเกียรติ. วิทยานิพนธ์ อ.ด.
(ภาษาไทย). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อรอนงค์ ตั้งก่อเกียรติ. (2542). ลิลิตอัครศิลปิน (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: ต้นอ้อ 1999.
Benson, C.D. (2009). The Dead and the Living: Some Medieval Descriptions
of the Ruins and Relics of Rome Known to the English in Albrecht
Classen (ed.), Urban Space in the Middle Ages and the Early Modern
Age, (pp. 147–182). Berlin: Walter de Gruyter.
Parks, M.H. (2008). City of Praise: The Politics of Encomium in Classical
Athens. Ph.D. (Providence). Providence: Brown University.
Ruth, J.S. (2002). The City Encomium in Medieval and Humanist Spain.
Ph.D.(Hispanic & Luso-Brazilian Literatures & Languages). New York:
The City University of New York.
Vardic, Z.P. (2017). Laudes civitatum: Filip de Diversi's ″Description of the
Position of Buildings, the Governance and the Praiseworthy
Customs of the Glorious City of Dubrovnik in Latin, I.B.& Vardic, Z.P.
(ed.), TOWNS AND CITIES OF THE CROATIAN MIDDLE AGES Image of
the Town in the Narrative Sources: Reality and/or Fiction? , (pp. 269-
. Zagreb: Croatiian Institute of History.
บุคลานุกรม
ดุสิต คร่ำสุข (ผู้ให้สัมภาษณ์) วิเชษฐชาย กมลสัจจะ (ผู้สัมภาษณ์). ณ 999/23 หมู่บ้าน
วิลล่าพาร์ค หมู่ 11 ตำบลหัวทะเล อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา. เมื่อ
วันที่ 17 ตุลาคม 2565.
ศิวกานท์ ปทุมสูติ (ผู้ให้สัมภาษณ์) วิเชษฐชาย กมลสัจจะ (ผู้สัมภาษณ์). ณ ศูนย์เรียนรู้ทุ่ง
สักอาศรม 35 หมู่ 13 ตำบลจรเข้สามพัน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี.
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2565.
อรอนงค์ ตั้งก่อเกียรติ (ผู้ให้สัมภาษณ์) วิเชษฐชาย กมลสัจจะ (ผู้สัมภาษณ์). ณ 187/220
หมู่บ้านอยู่สุข 2 ซอยสรงประภา 24 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร.
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2565.