A Study of Arabic Percussion Instruments to Dikir Hulu Performance: Rebana
Main Article Content
Abstract
The result shows 1) the rebanas which connected to Dikir Hulu may have their origin in the Middle-East. They were called ‘Frame Drums’ and had been spread out to all over the world. The drums were spread out to South-East Asia through maritime trading by Arab and Persian traders between the era of Dhavaravadi and Srivijaya Kingdom. They were also spread out to Sumatra, Java, and the Malay Peninsula. The drums were found in Muslim culture in many countries in South- East Asia and in southern provinces of Thailand. 2) Role and Rhythm analysis of rebanas in Dikir Hulu performance, there were 3 important roles; 1) a role of music, 2) a role in society, and
3) a role as a symbol. For rhythm analysis of rebanas in Dikir Hulu performance, there was a melodic rhythm of 4/4 at the speed of 40-100 times a minute. There were 4 rhythms of renana in a performance of Dikir Hulu; 1) Slow,
2) Mambo, 3) Ronggeng, and 4) Indian dance. 3) The study of persistence of rebanas in Dikir Hulu, there were 2 important points; 1) rebanas were musical instruments in local plays and performances, and 2) they were instruments in Dikir Hulu performances. There were 3 important factors for the improvement of rebanas; 1) time, 2) social condition, and 3) environment. Rebanas could be a symbol of a unity creation under the multiculturalism of Muslim
culture in the south.
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
All published manuscripts have been verified by peer-peer professors in the fields of humanities and social sciences. Reprinting of the article must be authorized by the editorial staff.
References
กิตติชัย รัตนพันธ์. (2564). ดนตรีพื้นบ้านภาคใต้ (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: โอ. เอส. พริ้น
ติ้ง เฮ้าส์.
กิติมา ทวนน้อย (ผู้ถ่ายภาพ). การนั่งล้อมวงของนักดนตรีขณะแสดงลิเกฮูลู. ณ
มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง
จังหวัดปัตตานี. เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2566.
กิติมา ทวนน้อย. (2566). จังหวะนาฏศิลป์อินเดีย. ณ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี. เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566.
กิติมา ทวนน้อย. (2566). จังหวะแมมโบ้. ณ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี. เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566.
กิติมา ทวนน้อย. (2566). จังหวะรองเง็ง. ณ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี. เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566.
กิติมา ทวนน้อย. (2566). จังหวะสโลว์. ณ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี. เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566.
กิติมา ทวนน้อย. (2566). ตัวอย่างการบรรเลงจังหวะของเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ
ลิเกฮูลู. ณ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏ
สุราษฎร์ธานี. เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566.
กิติมา ทวนน้อย (ผู้ถ่ายภาพ). รำมะนาเล็ก หรือ บานออาเนาะ. ณ หมู่ 3 ตำบลโคกโพธิ์
อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี. เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2566.
กิติมา ทวนน้อย (ผู้ถ่ายภาพ). รำมะนาใหญ่ หรือ บานออีบู. ณ หมู่ 3 ตำบลโคกโพธิ์ อำเภอ
โคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี. เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2566.
กิติมา ทวนน้อย (ผู้ถ่ายภาพ). ท่านั่ง รำมะนาใหญ่ หรือ บานออีบู รำมะนาเล็ก หรือ บานอ
อาเนาะ. ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ตำบลรูสะมิแล
อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี. เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2566.
กิติมา ทวนน้อย (ผู้ถ่ายภาพ). ผู้ชมการแสดงลิเกฮูลู ในงานมหกรรมศิลปวัฒนธรรม. ณ
สถาบันวัฒธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขต
ปัตตานี. ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ตำบลรูสะมิแล
อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี. เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2566.
เจนจิรา เบญจพงศ์. (2555). ดนตรีอุษาคเนย์. กรุงเทพฯ: เรือนแก้วการพิมพ์.
ชัยทัด โสพระขรรค์. (2557, กันยายน - 2558, กุมภาพันธ์). กระบวนการสร้างและคุณภาพ
เสียงของโทนรำมะนา. วารสารศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,
(2), 40-56.
ณรงค์ เส็งประชา. (2541). มนุษย์กับสังคม. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.
ธิดา โมสิกรัตน์. (2532). “ดนตรีพื้นบ้านของไทย.” ใน ศิลปะการละเล่นและการแสดงพื้น
บ้านไทย หน่วย 1-8. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
บุญเดิม พันรอบ. (2528). สังคมวิทยา มานุษยวิทยา. กรุงเทพฯ: ศิลปะบรรณาคาร.
ประทุม ชุ่มเพ็งพันธุ์. (2548). ศิลปวัฒนธรรมภาคใต้. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
เปรมสิรี ศักดิ์สูง, อดิศร ศักดิ์สูง, และ มูหำหมัด สาแลบิง. (2550). ลิเกฮูลู: การศึกษาเชิง
ประวัติรูปแบบและการพัฒนาศักยภาพ. กรุงเทพฯ: กระทรวงวัฒนธรรม.
ภิญโญ เวชโช. (2551, กรกฎาคม – ธันวาคม). เพลงพื้นบ้านดิเกร์ฮูลู: กำเนิด พัฒนาการ
และบทบาทในการขับขาน. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา, 3(2), 167-184.
ลำไย ไชยสาลี. (2542). การศึกษาเครื่องดนตรีพื้นบ้านภาคใต้. สงขลา: มหาวิทยาลัย
ทักษิณ.
สุจิตต์ วงษ์เทศ. (2556, มกราคม – มีนาคม). “แขก” มุสลิมในความเป็นไทย. วารสารรูสมิ
แล, 34(1), 75-82.
สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์. (2524). เอกลักษณ์ของดนตรีพื้นเมืองภาคใต้ : เจ้าแห่งจังหวะ. ใน
อุดม หนูทอง (บก.), ดนตรีพื้นเมืองภาคใต้, (หน้า 1-8). สงขลา: สถาบันทักษิณคดี
ศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนคริทรวิโรฒ.
สุธิวงศ์ พงศ์ไพบูลย์. (2525). วัฒนธรรมพื้นบ้าน แนวทางปฏิบัติในภาคใต้. สงขลา: สถาบัน
ทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สงขลา.
อานันท์ นาคคง. (2562, เมษายน – มิถุนายน). เครือญาติดนตรี วิถีอาเซียน. วารสารวัฒนรรม,
(2), 110-119.
อุดม หนูทอง. (2531). ดนตรีและการละเล่นพื้นบ้านภาคใต้. สงขลา: มหาวิทยาลัยศรี
นครินวิโรฒ สงขลา.
Kaushal, A. (2020, 1 September). Monsoon Islam: An interview with
Sebastian Prange: https://notevenpast.org/monsoon-islam-an-
interview-with-sebastian-prange/
Meyers, C. (2021, 23 June). Women with Hand-Drums, Dancing: Bible.
https://jwa.org/encyclopedia/article/women-with-hand-drums-
dancing-bible
บุคลานุกรม
มะฟายูริ มะหลี (ผู้ให้สัมภาษณ์) กิติมา ทวนน้อย (ผู้สัมภาษณ์). ณ หมู่ 3 ตำบลโคกโพธิ์
อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี. เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566.
แวะหะมะ แวกามา (ผู้ให้สัมภาษณ์) กิติมา ทวนน้อย (ผู้สัมภาษณ์). ณ หมู่ 3 ตำบลโคกโพธิ์
อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี. เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2566.
อับดุลตอเละ มะหลี (ผู้ให้สัมภาษณ์) กิติมา ทวนน้อย (ผู้สัมภาษณ์). ณ หมู่ 3 ตำบลโคกโพธิ์
อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี. เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2566.
อามาน แวเยะ (ผู้ให้สัมภาษณ์) กิติมา ทวนน้อย (ผู้สัมภาษณ์). ณ มหาวิทยาลัยสงขลา
นครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี. เมื่อวันที่
กันยายน 2566.