นวัตกรรมสื่อละครสร้างสรรค์เพื่อรณรงค์การป้องกันพฤติกรรมการกลั่นแกล้ง และถูกกลั่นแกล้งในโลกไซเบอร์กลุ่ม Gen Z ผ่านแอปพลิเคชั่น Tik Tok
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนานวัตกรรมสื่อละครสร้างสรรค์เพื่อรณรงค์การป้องกันพฤติกรรมการกลั่นแกล้งและถูกกลั่นแกล้งในโลกไซเบอร์กลุ่ม Gen Z ผ่านแอปพลิเคชั่น Tik Tok 2) เพื่อเปรียบเทียบความรู้ในการป้องกันพฤติกรรมการกลั่นแกล้ง 3) เพื่อเปรียบเทียบความรู้ในการป้องกันพฤติกรรมการถูกกลั่นแกล้ง และ 4)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้รับชมนวัตกรรมสื่อละครสร้างสรรค์ ผ่านแอปพลิเคชั่น Tik Tok การวิจัยนี้เป็นแบบผสานวิธี กลุ่มตัวอย่างคือนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ จำนวน 35 คน เครื่องมือในการวิจัย 5 ชนิด ได้แก่ 1) นวัตกรรมสื่อละครสร้างสรรค์ 2) แบบประเมินคุณภาพนวัตกรรมสื่อละครสร้างสรรค์ 3) แบบวัดความรู้ในการป้องกันพฤติกรรมการกลั่นแกล้งในโลกไซเบอร์ 4) แบบวัดความรู้ในการป้องกันพฤติกรรมการถูกกลั่นแกล้งในโลกไซเบอร์ และ 5) แบบประเมินความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลใช้ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติค่าที
ผลการวิจัยพบว่า 1) นวัตกรรมสื่อละครสร้างสรรค์เพื่อรณรงค์การป้องกันพฤติกรรมการกลั่นแกล้งและถูกกลั่นแกล้งในโลกไซเบอร์กลุ่ม Gen Z ผ่านแอปพลิเคชั่น Tik Tok มีคุณภาพความเหมาะสมระดับมาก 2) การเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยความรู้ในการป้องกันพฤติกรรมการกลั่นแกล้ง พบว่า หลังการรับชมสูงกว่าก่อนการรับชมนวัตกรรมสื่อละครสร้างสรรค์ 3) การเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยความรู้ในการป้องกันพฤติกรรมการถูกกลั่นแกล้ง พบว่า หลังการรับชมสูงกว่าก่อนการรับชมนวัตกรรมสื่อละครสร้างสรรค์ และ 4) ความพึงพอใจนวัตกรรมสื่อละครสร้างสรรค์เพื่อรณรงค์การป้องกันพฤติกรรมการกลั่นแกล้งและถูกกลั่นแกล้งในโลกไซเบอร์กลุ่ม Gen Z ผ่านแอปพลิเคชั่น Tik Tok ภาพรวมอยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด
องค์ความรู้จากงานวิจัยนี้เป็นการออกแบบและพัฒนานวัตกรรมสื่อละครสร้างสรรค์ได้ศึกษาค้นคว้าและทดลองด้วยการสร้างและผลิตเนื้อหาตามรูปแบบเทคโนโลยีบูรณาการ โดยกระบวนนี้สามารถนำไปต่อยอดพัฒนาเพื่อสร้างสรรค์รณรงค์ในรูปแบบอื่น ๆ ต่อไปได้
Article Details
อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
Adchaklub, R. (2019). Satisfaction and participation of challenges in TikTok application of users in Bangkok [Master’s thesis, Bangkok University].
Chavengsaksongkram, P. (2015). Network, campaigns and communication strategies for a Thai city farm project [Master’s thesis, Faculty of Journalism and Mass Communication, Thammasat University].
Intanon, S., & Soemsinsri, P. (2018). The study of how youth can protect themselves from cyberbullying. In Proceedings of the 2nd UTCC Academic Day National Academic Conference and Presentation. University of the Thai Chamber of Commerce, Bangkok.
Kamcharamenukul, N. (2024). Short films: Edutainment media for participatory social campaigns. Academic Conference Journal of Safe and Creative Media Development Fund.
Office of the Royal Society. (n.d.). Cyber bullying. https://free.facebook.com/RatchabanditThai/ photos/cyber-bully
Roberts, W. B., Jr. (2008). Working with parents of bullies and victims. Corwin Press.
Saenmai, P. (2020). Cyberbullying through online media: Causes and problem management approaches [Master of Arts thesis, Faculty of Communication Arts and Management Innovation, National Institute of Development Administration].
Sanders, C. E., & Phye, G. D. (2004). Bullying: Implications for the classroom. Elsevier.
Sirisomrutai, C. (2018). Perception, attitude, and behavioral intentions towards cyberbullying. Bangkok University.
Suran, P., Chanprasert, T., & Suprukchaiyakul, N. (2018). Process of cyberbullying in Thai youths: Multiple case studies. Academic Journal of Suvarnabhumi Institute of Technology, 4(2), 61–79.
Thai Health Promotion Foundation. (2020). What is cyberbullying, how does it affect, and how should we deal with it. https://resourcecenter.thaihealth.or.th/article/cyberbully
Tongngao, K. (2019). Radio broadcasting production (3rd ed.). Triple Group Co., Ltd.
