อนาคตภาพการนิเทศการศึกษาสำหรับโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ในทศวรรษหน้า (พ.ศ. 2564–2573)

Main Article Content

กาญจนา ศึกหาญ
วัน เดชพิชัย
สุจิตรา จรจิตร

บทคัดย่อ

บทความนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาอนาคตภาพการนิเทศการศึกษาสำหรับโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ในทศวรรษหน้า (พ.ศ. 2564–2573) และ 2) เพื่อศึกษาแนวทางการนำอนาคตภาพการนิเทศการศึกษาสำหรับโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ในทศวรรษหน้า (พ.ศ. 2564–2573) ไปสู่การปฏิบัติ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ พื้นที่วิจัยคือ โรงเรียนเอกชนประเภทสามัญศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ให้ข้อมูลได้แก่ผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์และนักวิชาการจำนวน 17 คน และการจัดสนทนากลุ่ม ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 9 คน ใช้วิธีการคัดเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี 3 ชนิดคือ 1) แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง 2) แบบสอบถาม และ 3) แนวคำถามสำหรับการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐานและวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า 1) อนาคตภาพการนิเทศการศึกษาสำหรับโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ในทศวรรษหน้า (พ.ศ. 2564–2573) มี 7 ประเด็นได้แก่ 1.1) บทบาทหน้าที่ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนิเทศการศึกษา 1.2) ขอบข่ายการนิเทศการศึกษา 1.3) วิธีการหรือช่องทางการนิเทศการศึกษา 1.4) กลยุทธ์การนิเทศการศึกษา 1.5) การบริหารจัดการนิเทศการศึกษา 1.6) โครงสร้างของหน่วยงานการนิเทศการศึกษา 1.7) ปัญหาการนิเทศการศึกษา และ 2) แนวทางการนำอนาคตภาพการนิเทศการศึกษาสำหรับโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ในทศวรรษหน้า (พ.ศ. 2564–2573) ไปสู่การปฏิบัติ ผลการวิจัยพบว่า ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนิเทศการศึกษาควรมีการกำหนดนโยบายให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและไม่ควรปรับเปลี่ยนนโยบายบ่อย กำหนดแนวทางการนำนโยบายสู่การปฏิบัติจริง จัดทำแผนงานโครงการหรือกิจกรรมและสร้างเครือข่ายการนิเทศ ส่งเสริม สนับสนุน กำกับ เร่งรัด นิเทศและติดตามอย่างต่อเนื่อง บริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม สร้างแรงบันดาลใจและเป็นพี่เลี้ยง (Mentor) ขอบข่ายของการนิเทศควรมีการบูรณาการกระบวนการนิเทศหรือกระบวนการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้สอดคล้องกับคุณลักษณะของคนที่ต้องการในอนาคตและบริบทของพื้นที่ ควรใช้วิธีการหรือช่องทางการนิเทศแบบผสมผสานและสะท้อนผลการนิเทศ ควรใช้กลยุทธ์การมีส่วนร่วม สร้างแรงบันดาลใจและสร้างโอกาสการพัฒนาวิชาชีพ ควรมีการนำหลักการบริหารจัดการมาเป็นหลักในการนิเทศการศึกษาโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ควรปรับโครงสร้างให้มีการจัดตั้งสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอทุกอำเภอในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อส่งเสริม สนับสนุน เร่งรัด นิเทศและติดตามการพัฒนาการศึกษา และปัญหาการนิเทศได้แก่ นโยบายไม่ควรปรับเปลี่ยนบ่อยเพราะส่งผลให้ขาดความต่อเนื่องในทางปฏิบัติ ผู้นิเทศควรมีการพัฒนาวิชาชีพอยู่เสมอเพื่อให้ผู้รับการนิเทศมีความเชื่อมั่นในการปฏิบัติการนิเทศ


องค์ความรู้จากงานวิจัยนี้ ผู้นิเทศควรมีการสร้างกลยุทธ์การมีส่วนร่วม สร้างแรงบันดาลใจ กำหนดกรอบแนวทางการนิเทศให้มีความชัดเจน ปรับแนวคิด (Mindset) ที่มุ่งเน้นคุณภาพการศึกษาอย่างแท้จริงและลดความเหลื่อมล้ำ ปฏิบัติการนิเทศด้วยรูปแบบผสมผสาน ส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสร้างเครือข่ายการนิเทศ เมื่อปฏิบัติการนิเทศแล้วควรสะท้อนผลให้ข้อมูลย้อนกลับและนำผลการนิเทศสู่การวิจัยและพัฒนา และควรมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารการนิเทศเพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการนิเทศการศึกษา

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ศึกหาญ ก., เดชพิชัย ว., & จรจิตร ส. (2024). อนาคตภาพการนิเทศการศึกษาสำหรับโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ในทศวรรษหน้า (พ.ศ. 2564–2573). วารสารนวัตกรรมการศึกษาและการวิจัย, 8(4), 1922–1938. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/jeir/article/view/265100
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

Chana, S. (2013). The Development of Educational Supervision Administration Model for the Educational Service Area Office in the Special Development Zone in the Three Southern Border Provinces [Doctoral dissertation, Narasuan University, Phitsanulok].

Educational Administration and Coordination Center for the Southern Border Provinces. (2017). The 20-Year Educational Strategic Plan for Special Development Zones in the Southern Border Provinces (B.E. 2560-2579). Pattani.

Glickman, D. and Other. (2001). Supervision of Instruction: Developmental Approach. (4thed.) Allyn and Bacon.

Jarilak, R. (2023). The Effect of Distance Supervision via Social Media on the Teaching Management Ability of Teacher Trainees. Thaksin University Journal of Education, 23(1), 116-123.

Jiraprawat, S. (2023). Principles of Non-Formal and Informal Education Supervision in the New Normal. [[Doctoral dissertation, Silpakorn University].

Kashyap, D. (2020). Top 10 Features of Modern Supervision/Educational Management. http://www.taap.co.th/product/bwell/?utm_source

Office of the Basic Education Commission. (2016). The Process of Educational Supervision. Ministry of Education.

Office of the Basic Education Commission. (2019). Guidelines for Supervision to Develop and Promote Active Learning Management. Ministry of Education.

Patiwat, K. (2015). Model of Internal Academic Supervision in Basic Education Institutions [Doctoral dissertation, Kanchanaburi Rajabhat University].

Patsataphorn,K. (2022). The Future Vision of Educational Supervision for Educational Supervisors Affiliated with Primary Education Service Area Offices in the Next Decade: A Case Study of Technology (Computing Science) [Doctoral dissertation, Naresuan University].

Penwipa, P. (2014). Future Scenarios of Supervision for Basic Educational Schools in the Next Decade (B.E.2556-2565) [Doctoral dissertation, Chiang Rai Rajabhat University, Chiang Rai].

Sanusi, B. (2016, July 27). Roles, Duties, and Missions of Private Education Offices in the Southern Border Provinces. NBT Thailand Television Station.

Sirada, P. (2017). Model of School-Based Educational Supervision for Primary Education Service Area Offices in Northeastern Thailand [Doctoral dissertation, Udon Thani Rajabhat University].

Sutsanguan, K. (2024, October 9). The Future Direction of Educational Supervision. https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=HdUn-9WZlmI

Thailand Development Research Institute Foundation. (2021). Future Thailand: Dimension 3-Thai Education. National Research Council of Thailand.

Watchara, L. (2010). Supervision of Instruction. Silpakorn University.