การประเมินความสุขของบุคลากร โรงพยาบาลสงขลา ประจำปี 2562
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้เป็นการศึกษาจากงานประจำ (R2R: Routine to Research) มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อประเมินสุขภาวะของบุคลากรโรงพยาบาลสงขลา 2) เพื่อเปรียบเทียบความสุขของบุคลากรก่อนและหลังจัดกิจกรรมสร้างสุข และ 3) เพื่อนำผลการประเมินจัดทำแผนสร้างสุขสำหรับบุคลากรในองค์กร โดยให้บุคลากรโรงพยาบาลสงขลา ตอบแบบประเมินตามเครื่องมือประเมินความสุข (HAPPINOMETER) ทั้งทางระบบออนไลน์ และ Paper-base โดยมีเป้าหมายของกลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบประเมินต้องมากกว่าร้อยละ 70 (มากกว่า 1,177 คน) ตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขที่ใช้การประเมินผลตามโปรแกรมวัดความสุขสำเร็จรูปเอ็กซ์เซล (Happinometer Excel Programme: HEP) จึงจะยอมรับได้ ซึ่งผลการประเมินพบว่า มีบุคลากรทุกระดับตอบแบบสอบถาม จำนวน 1,181 คน คิดเป็นร้อยละ 70.07
ผลการศึกษาพบว่า เป็นไปตามสมมุติฐานที่ตั้งไว้ คือ ค่าเฉลี่ยความสุขของบุคลากรในปี 2562 มากกว่าปี 2560 และระดับความสุขเฉลี่ยอยู่ในกลุ่มต่าง ๆ ดังนี้ 1) มีความสุข (คะแนนเฉลี่ยอยู่ในช่วง 50.00 - 74.99) ร้อยละ 91.42 2) มีความสุขอย่างยิ่ง (คะแนนเฉลี่ยอยู่ในช่วง 75.00 - 100.00) ร้อยละ 7.54 3) ไม่มีความสุข (คะแนนเฉลี่ยอยู่ในช่วง 25.00 - 49.99) ร้อยละ1.04 โดยพบว่า เพศหญิงมีความสุขมากว่าเพศชาย ในด้านการจ้างงาน ลูกจ้างประจำมีความสุขมากที่สุด รองลงมาคือพนักงานราชการ และข้าราชการตามลำดับ ส่วนลูกจ้างชั่วคราวมีความสุขน้อยที่สุด เมื่อเทียบตามกลุ่มอายุพบว่า กลุ่มอายุมากกว่า 54 ปี (Baby Boomer) มีความสุขมากที่สุด รองลงมาคือกลุ่มอายุต่ำกว่า 24 ปี (Gen.Z) และกลุ่มอายุ 38 - 53 ปี(Gen.X) ตามลำดับ ส่วนกลุ่มอายุ 24 - 37 ปี (Gen.Y) มีความสุขน้อยที่สุด
จากผลการศึกษาผู้วิจัยได้นำเสนอข้อมูลให้กับผู้อำนวยการโรงพยาบาลและคณะกรรมการบริหาร เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจกำหนดนโยบายในการพัฒนาคนในองค์กร รวมถึงการจัดกิจกรรมสร้างสุขให้กับบุคลากรตามมิติต่าง ๆ ซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและส่งผลให้ โรงพยาบาลสงขลา ได้รับการประเมินตามเกณฑ์องค์กรแห่งความสุขที่เป็นเลิศ (Excellence Happy Workplace Assessment: EHWA) ระดับโรงพยาบาล ของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา ประจำปี 2562 และมีแผนพัฒนาเป็นองค์กรแห่งความสุขที่เป็นเลิศอย่างยั่งยืน(Excellence Sustainable Happiness MOPH Assessment) ตามยุทธศาสตร์ People Excellence ต่อไปในปี 2563
Downloads
Article Details
ลิขสิทธิ
References
1.ขวัญเมือง แก้วดำเกิง. วิถีแห่งการสร้างสุข:ปัจจัยพัฒนาองค์กรสร้างสุข คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล.2557 บทความตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารสุขศึกษา พฤษภาคม-สิงหาคม 2557. ฉบับที่ 37 ปีที่ 127
2.ขวัญเมือง แก้วดำเกิง. โครงการพัฒนานักสร้างสุของค์กรด้วยMapHR. สำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.). 2555-2557.
3.จินดาวรรณ รามทอง.วิทยานิพนธ์. : ความสุขในการทำงานของบุคลากรสายสนับสนุน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ การวิเคราะห์ปัจจัยเชิงสาเหตุตามกลุ่มประสบการณ์การทำงาน. คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สงขลา.2558.
4.จิราภรณ์ แพรต่วน. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัญฑิตสาขาวิชาสุขศึกษา สังกัดสำนักการแพทย์กรุงเทพมหานคร. : ความเครียดและความพึงพอใจในงานของบุคลากรพยาบาลในโรงพยาบาล. บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. กรุงเทพฯ. 2543.
5.ชมชื่น สมประเสริฐ. วิทยานิพนธ์ ปริญญาดุษฎีบัณฑิตสาขาวิชาการวิจัยพฤติกรรมศาสตร์ประยุกต์. :รูปแบบการเสริมสร้างแรงจูงใจในการทำงานของพยาบาล. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. กรุงเทพฯ.2542.
6.ชนิดา ศรีบวรวิวัฒน์. สารนิพนธ์หลักสูตรสังคมสงเคราะห์ศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาการจัดการ โครงการสวัสดิการสังคม : ความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของบุคลากรศูนย์ป้องกนควบคุมโรคมะเร็ง จังหวัดชลบุรี บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ กรุงเทพฯ. 2544.
7.ชาญวิทย์ วสันต์ธนา. บรรยายพิเศษ. : การสร้างองค์กรสุขภาวะองค์สร้างความเจริญอย่างยั่งยืนต่อธุรกิจได้อย่างไร?. โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร. 2559. 6 ตุลาคม.
8.ชาญวิทย์ วสันต์ธนารักษ์ และ ธีร์ธรรม วุฑฒิวัตรชัยแก้ว องค์กรแห่งความสุข 4.0 โรงพิมพ บริษัท แอทโฟรพริ้นทจํากัด. 2560.
9.ธนเดช สอนสะอาด, ชมภูนุช หุ่นนาค, พลศักดิ์ จิรไกรศิริ, วิพร เกตุแก้ว.: ความสุขในการทำงานของข้าราชการไทย : Happiness in Work Life of Thai Achiever. 2017. Journal of Information Dec 8,
10.เนตรสวรรค์ จินตนาวลี. วิทยานิพนธ์หลักสูตรปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาจิตวิทยาชุมชน: ความสุขในการปฏิบัติงานของพยาบาลวิชาชีพในโรงพยาบาลจังหวัดสมุทรสาคร. บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยศิลปากร กรุงเทพฯ. 2553.
11.ผ่องฉวี เพียรรู้จบ. วิทยานิพนธ์ปริญญาพยาบาลศาสตรมหาบัณฑิต : ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความ พึงพอใจในงานของพยาบาลวิชาชีพโรงพยาบาลชุมชน เขต6.” มหาวิทยาลัยขอนแก่น ขอนแก่น. 2546
12.แผนงานสุขภาวะองค์กรเอกชน. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) 2552. น.17 และ น. 27- 28
13.พระธรรมปิฎก ป.อ. ปยุตโต. 2538 น. 67 – 70
14. โยธิน ศันสนยุทธ. ทฤษฎีความต้องการของเมอร์เรย์. 2530. อ้างใน เฮนรี่ เอ เมอร์เรย์ (Henry A. Murray, 1938 : 124)
15.ลออ หุตางกูร. หลักพื้นฐานเพื่อการพยาบาลชีวจิต-สังคม. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์ มหาวิทยาลัยรังสิต กรุงเทพฯ. 2534.
16.วุฒิพงศ์ ถายะพิงค์.: อยู่อย่างไรให้เป็นสุข. : มติชน 2549 :14
17.ศิรินันท์ กิตติสุขสถิต และคนอื่นๆ. คู่มือการวัดความสุขด้วยตนเอง (HAPPINOMETER : The Happiness Self-Assessment). พิมพ์ครั้งที่ 1. นครปฐม : สถาบันวิจัยประชากรและสังคมมหาวิทยาลัยมหิดล 2555.เอกสารวิชาการหมายเลข 402. ISBN 978-616-279-170-3
18.สุดถวิล สืบสายพรหม. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาจิตวิทยาการให้คำปรึกษา. : ความสัมพันธ์ระหว่างความฉลาดทางอารมณ์กับความพึงพอใจในงานของพยาบาลวิชาชีพสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร. บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยรามคำแหง กรุงเทพฯ. 2544.
19.เสาวรส คงชีพ. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการพยาบาล. : ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับการอบรมเลี้ยงดูแบบประชาธิปไตย การสนับสนุนทางสังคม แรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์ กับเชาว์อารมณ์ ของพยาบาลประจำการ หน่วยงานอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลรัฐ กรุงเทพมหานคร.บัณฑิตวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพฯ. 2545.
20.กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. ไม่ระบุปีที่พิมพ์. ดัชนีชี้วัดความสุข. เอกสารดาวน์โหลด http://www.sdhabhon.com/withyouwithUBU
21.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์. การวิเคราะห์แนวโน้มประเทศไทยในระยะ 20 ปี. สถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา. 2557 เอกสารดาวน์โหลด http://www.hepa.or.th/assets/file/index
22.ความต้องการของมนุษย์ human-needs เอกสารดาวน์โหลดhttps://romravin.wordpress.com/2011/05/22