พฤติกรรมการการใช้โซเชียลมีเดียต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในจังหวัดร้อยเอ็ด

Main Article Content

สุธัญญา กฤตาคม

บทคัดย่อ

                  การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณเพื่อศึกษาพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียของผู้สูงอายุที่มีความสัมพันธ์และมีความแตกต่างกันต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในจังหวัดร้อยเอ็ดโดยศึกษาจากผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองร้อยเอ็ดที่ใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟน แท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์ จำนวน 314 คน สุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือวิจัยใช้แบบสอบถามมีค่าความตรงของเนื้อหา0.79 - 0.85 ค่าสัมประสิทธิ์แอลฟาครอบบาค 0.93 โดยให้กลุ่มตัวอย่างตอบแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูล ด้วยสถิติเชิงพรรณนา หาความสัมพันธ์ด้วยสถิติ Chi square และหาความแตกต่างด้วยสถิติ ANOVA ผลการวิจัย พบว่า พฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียแต่ละวันของผู้สูงอายุ ช่วงเวลาในการใช้โซเชียลมีเดียของผู้สูงอายุ และวัตถุประสงค์ของใช้โซเชียลมีเดียของผู้สูงอายุ มีความสัมพันธ์กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุโดยรวมอย่าง มีนัยสำ คัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 การใช้โซเชียลมีเดียในแต่ละวันช่วงเวลาในการใช้โซเชียลมีเดีย ระยะเวลาของการใช้โซเชียลมีเดียและวัตถุประสงค์ของใช้โซเชียลมีเดียแตกต่างกันมีผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยรวม อย่างมีนัยสำ คัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 การใช้โซเชียลมีเดียในแต่ละวัน ช่วงเวลาในการใช้โซเชียลมีเดีย และวัตถุประสงค์ของใช้โซเชียลมีเดียแตกต่างกันมีผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตแตกต่างกันทั้ง 4 ด้าน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 

Article Details

บท
บทความวิจัย

References

กรมสุขภาพจิต. (2545). เครื่องชี้วัดคุณภาพชีวิตขององค์การอนามัยโลกชุดย่อ ฉบับภาษาไทย. https://dmh.go.th/test/whoqol/

กันตพล บันทัดทอง. (2557). พฤติกรรมการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์และความพึงพอใจของกลุ่มคนผู้สูงอายุ [วิทยานิพนธ์นิเทศศาสตรมหาบัณฑิต,

มหาวิทยาลัยกรุงเทพ]. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.

กานดา รุณนะพงศา. (2557). ความหมายโซเชียลมีเดีย. https://www.gotoknow.org/posts/567331%5B2

กายกาญจน์ เสนแก้ว. (2560). พฤติกรรมการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ของ Gen-X ในกรุงเทพมหานคร [การค้นคว้าอิสระปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต,

มหาวิทยาลัยกรุงเทพ]. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.

ฐิตินันทน์ ผิวนิล. (2559). การเข้าถึงบริการโทรคมนาคมและการสื่อสารออนไลน์ของผู้สูงอายุไทย.วารสาร กสทช.ประจำ ปี 2559, 1(1), 411-414.

เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด. (2562). แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพ.ศ.2558 - 2562. https://roietmunicipal.go.th/roiet/category/

บังอร ธรรมศิริ. (2549). ครอบครัวกับการดูแลผู้สูงอายุ. วารสารการเวกฉบับนิทรรศการวันเจ้าฟ้า.

ประวิตร จันอับ. (2561). พฤติกรรมการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์และผลกระทบต่อนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในจังหวัดพิษณุโลก [ปริญญาศึกษามหา

บัณฑิตสาขาวิชาเทคโนโลยีและการ สื่อสารศึกษา, มหาวิทยาลัยนเรศวร]. มหาวิทยาลัยนเรศวร.

เปรมศักดิ์ อาษากิจ. (2556). ตลาดผลิตภัณฑ์และบริการสำ หรับผู้สูงอายุในจังหวัดเชียงใหม่. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาภาคพายัพ.

ภิเษก ชัยนิรันดร์. (2553). การตลาดแนวใหม่ผ่าน Social Media. ซีเอ็ดยูเคชั่น.

ระวิ แก้วสุกใส และ ชัยรัตน์ จุสปาโล. (2556). เครือข่ายสังคมออนไลน์: กรณีเฟสบุ๊ค (Facebook) กับการพัฒนาผู้เรียน. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, 5(4), 197-215.สุพัตรา สุภาพ. (2540). สังคมวิทยา. ไทยวัฒนาพานิช.

เอมิกา เหมมินทร์. (2556). พฤติกรรมการใช้และความคิดเห็นเกี่ยวกับผลที่ได้จากการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ (social media) ของประชาชนในเขต

กรุงเทพมหานคร [วิทยานิพนธ์หลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์]. สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.

Holloman, C. (2013). The social media MBA. John Wiley & Son.

White, C. M. (2012). Social media, crisis communication, and emergency management. Taylor & Francic Group.