การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ที่ส่งเสริมการแก้ปัญหา ในชีวิตจริงของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
Main Article Content
บทคัดย่อ
งานวิจัยนี้เป็นงานวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) ซึ่งเป็นการพัฒนารูปแบบการจัด
การเรียนรู้คณิตศาสตร์ที่ส่งเสริมการแก้ปัญหาในชีวิตจริงของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาองค์ประกอบและตัวบ่งชี้การแก้ปัญหาในชีวิตจริง 2) เพื่อพัฒนาและศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ที่ส่งเสริมการแก้ปัญหาในชีวิตจริง
3) เพื่อศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ที่ส่งเสริมการแก้ปัญหาในชีวิตจริง
ใช้แนวทางการวิจัยและพัฒนา (R&D) ร่วมกับ ADDIE Model ในการพัฒนาประกอบด้วย 4 ระยะคือ ระยะศึกษาองค์ประกอบและตัวบ่งชี้การแก้ปัญหาในชีวิตจริง ระยะออกแบบ พัฒนาและศึกษาประสิทธิภาพรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ระยะทดลองใช้และศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการจัด
การเรียนรู้ ระยะทบทวนและปรับปรุงรูปแบบการจัดการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้มากโดยการเลือกแบบเจาะจง
ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการศึกษาองค์ประกอบและตัวบ่งชี้การแก้ปัญหาในชีวิตจริง
มี 2 องค์ประกอบ ได้แก่ องค์ประกอบด้านการคิดเพื่อการแก้ปัญหาในชีวิตจริง และองค์ประกอบด้าน
การปฏิบัติการแก้ปัญหาในชีวิตจริง 2) ผลการศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์มีความเหมาะสมและความสอดคล้องอยู่ในระดับมากที่สุด และมีผลประเมินประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 (E1/E2) มีค่าเป็น 76.15/75.17 3) ประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์จากการประเมินการแก้ปัญหาในชีวิตจริง พบว่า การแก้ปัญหาในชีวิตจริงหลังการใช้รูปแบบสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์อยู่ในระดับมาก
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560). องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ (ร.ส.พ.).
ชมนาด เชื้อสุวรรณทวี. (2561). การเรียนการสอนคณิตศาสตร์ Mathematics Instruction. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พนม จองเฉลิมชัย, รุ่งทิวา แย้มรุ่ง และชมนาด เชื้อสุวรรณทวี. (2563). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์สำหรับนักศึกษาวิชาชีพครู. วารสารวิจัยและการพัฒนาหลักสูตร, 11(1), 132-142. https://so03.tci-thaijo.org /index.php/jrcd/article/view/246870/169180
ศูนย์ดำเนินงาน PISA แห่งชาติ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2564). ผลการประเมิน PISA 2018 การอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2555). ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่ 3). 3-คิวมีเดีย.
อัมพร ม้าคนอง. (2559). ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์: การพัฒนาเพื่อพัฒนาการ (พิมพ์ครั้งที่ 3). ศูนย์ตาราและเอกสารทางวิชาการ คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Hirza, B., Kusumah, Y. S., Darhim, & Zulkardi. (2014). Improving Intuition Skills with Realistic Mathematics Education. Indonesian Mathematical Society Journal on Mathematics Education, 5(1), 27-34. https://eric.ed.gov/?id=EJ1079612
Cates, W. (2011). Richey, Klein & Tracy: The instructional design knowledge base: theory, research, and practice. Educational Technology Research and Development, 59.
Sánchez, A. V., & Ruiz, M. P. (2008). Competence-based learning: a proposal for the assessment of generic competences. http://tuningacademy.org/wp-content/ uploads/2014/02/Competence-Based-Learning_EN.pdf
Treffers, A. (1991). Meeting innumeracy at primary school. Educational Studies in Mathematics, 22(4), 333-352. https://doi.org/10.1007/BF00369294
Williams, K. M. (2003). Writing about the problem solving process to improve problem solving performance. The Mathematics Teacher, 96(3), 185-187. https://doi.org/10.5951/MT.96.3.0185