การใช้ชุดกิจกรรมการทำงานเป็นฐานเพื่อพัฒนาความสามารถการเขียนเส้นพื้นฐานสำหรับเด็กพิการซ้อนระดับประถมศึกษาปีที่ 2

ผู้แต่ง

  • สุกัญญา ชะวาเขตร โรงเรียนกาวิละอนุกูล อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
  • รัชนีกร ทองสุขดี สาขาวิชาการศึกษาพิเศษ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • พิกุล เลียวสิริพงศ์ สาขาวิชาการศึกษาพิเศษ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
  • สร้อยสุดา วิทยากร สาขาวิชาการศึกษาพิเศษ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

คำสำคัญ:

ชุดกิจกรรมการทำงานเป็นฐาน, ความสามารถการเขียนเส้นพื้นฐาน, เด็กพิการซ้อน

บทคัดย่อ

การวิจัยมีวัตถุประสงค์ 1) ศึกษาความสามารถการใช้แขนและมือของผู้เรียนพิการซ้อนระดับประถมศึกษา ก่อนและหลังใช้ชุดกิจกรรมการทำงานเป็นฐาน 2) ศึกษาความสามารถการเขียนเส้นพื้นฐาน 13 เส้นของผู้เรียนพิการซ้อนระดับประถมศึกษา ก่อนและหลังใช้ชุดกิจกรรมการทำงานเป็นฐาน 3) เพื่อเปรียบเทียบคะแนนความสามารถการเขียนเส้นพื้นฐาน ก่อนและหลังใช้ชุดกิจกรรมการทำงานเป็นฐาน กรณีศึกษาจำนวน 1 คน คัดเลือกแบบเจาะจง เป็นผู้เรียนพิการซ้อนประเภทบุคคลออทิสติกและบกพร่องทางการได้ยิน (หูตึง) เพศชาย อายุ 8 ปี ศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเฉพาะความพิการ เครื่องมือที่ใช้วิจัย ได้แก่ 1) แบบประเมินความสามารถการเขียนเส้นพื้นฐาน 13 เส้น 2) แบบสังเกตรายการพฤติกรรมการใช้แขนและมือ 3) ชุดกิจกรรมการทำงานเป็นฐาน ประกอบด้วยแผนการสอนเฉพาะบุคคล (Individual Implementation Plan: IIP) จำนวน 3 แผน คือ กิจกรรมเพาะกล้าไม้หลากหลายผิวสัมผัส กิจกรรมกำลังมือแข็งแรงด้วยการรดน้ำกล้าไม้ และกิจกรรมสองมือคล่องแคล่วด้วยการปั้นขนมบัวลอย ผู้วิจัยดำเนินการใช้ชุดกิจกรรมการทำงานเป็นฐานสัปดาห์ละ 3 กิจกรรม เป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์ รวมทั้งสิ้น 18 ครั้ง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและพรรณนา ผลการวิจัยพบว่า ค่าเฉลี่ยพฤติกรรมการใช้แขนและมือหลังใช้ชุดกิจกรรมการทำงานเป็นฐาน เท่ากับ 3.09 อยู่ระดับดี คะแนนความสามารถการเขียนเส้นพื้นฐานทั้ง 13 เส้นหลังใช้ชุดกิจกรรมการทำงานเป็นฐาน เท่ากับ 32 คะแนน อยู่ระดับดี และผลต่างคะแนนความสามารถการเขียนเส้นพื้นฐาน 13 เส้น ก่อนและหลังใช้ชุดกิจกรรมการทำงานเป็นฐาน เท่ากับ 16 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 30.77 และจากการบันทึกวีดิทัศน์สังเกตพฤติกรรมเป็นเวลา 6 สัปดาห์ พบการเปลี่ยนแปลงการใช้แขนและมือในครั้งที่ 4 เป็นต้นไป กล่าวคือผู้เรียนพิการซ้อนมีความมั่นคงของลำตัว และการตรึงของข้อไหล่ในการทำกิจกรรม เคลื่อนไหวแขนส่วนปลายได้อย่างอิสระ สามารถหยิบ จับวัตถุหลากหลายผิวสัมผัสได้โดยไม่หลีกหนีหรือมีสีหน้าท่าทางขยะแขยง พบความสามารถในการเคลื่อนไหวแขนสองข้างข้ามแนวกลางลำตัวและสับเปลี่ยนวัตถุในมืออย่างอัตโนมัติ รวมถึงความสามารถในการจัดการวัตถุภายในมือได้อย่างเหมาะสม

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

Announcement of the ministry of education on the determination of categories and criteria for educational disabilities Act B.E. 2009. (2009). Government Gazette. 126(80), 46-47.

Bruni, M. (2006). Fine motor skill in children with down syndrome: A guide for parents and professional. Bethesda Maryland: Woodbine House.

Gesell, A. (1940). The first five years of life: A guide to study of the preschool child. New York: Harper.

Horadal, A., Phonyothin, P., Tancharoen, R., Maksaman, W., Meesomsan, K., Chatisathien, C., & Soontrapirom, S. (2018). Organizing physical, emotional, mental and social experiences for early childhood, unit 1-7. Sukhothai: Sukhothai Thammathirat University.

Korsuwan, K. (2010). Teaching children with mild disabilities. Bangkok: Sahamit Printing and Publishing Company Limited.

Kushki, A., Chau, T., & Anagnostou, E. (2011). Handwriting difficulties in children with autism spectrum disorders. Journal of autism and developmental disorders. 2(41), 1706-1716.

Lesilp, T. (2015). Educational management for children with hearing impairment. Chiang Mai: Chiang Mai Rajabhat University.

Mesibov, B. G., Shea, V., & Schopler, E. (2004). The TEACCH approach to autism spectrum disorders. New York, United States: Springer Science and Business Media.

McMillan, I. R. (2011). The biomechanical frame of reference in occupational therapy. In E. A. S. Duncan (Ed.), Foundations for practice in occupational therapy (5th ed., pp. 179-194). Edinburgh: Churchill Livingstone.

Ministry of Education. (2002). National education act, B.E. 2542 and amendments (No. 2), B.E. 2002. Bangkok: Ministry of Education.

Ministry of Education. (2008). Education management for persons with disabilities Act 2008. Bangkok: Ministry of Education.

National Institute on Deafness and Other Communication Disorders. (2012). Communication Problems in children with autism spectrum disorder. Turning Discovery into Health, 97-4315.

Piaget, J. (1952). The Original of intelligence in children. New York: International Universities Press.

Ratzon, N. Z., Efraim, D., & Bart, O. (2007). A short-term graphomotor program for improving writing readiness skills of first-grade student. American Journal of Occupational Therapy, 61, 399-405.

Special Education Bureau. (2019). Education management for people with multiple disabilities [E-book]. Bangkok: Special Education Bureau. Retrieved from https://pubhtml5.com/rqbh/zlmy/basic.

Tantipalachiwa, K. (2008). Organization of learning activities for early childhood. Bangkok: Brain-Base.

Thorndike, E. L. (1923). Education a first book. New York: Macmillan Company.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2022-12-27

รูปแบบการอ้างอิง

ชะวาเขตร ส. . ., ทองสุขดี ร. ., เลียวสิริพงศ์ พ. ., & วิทยากร ส. (2022). การใช้ชุดกิจกรรมการทำงานเป็นฐานเพื่อพัฒนาความสามารถการเขียนเส้นพื้นฐานสำหรับเด็กพิการซ้อนระดับประถมศึกษาปีที่ 2. วารสารสถาบันราชสุดาเพื่อการวิจัยและพัฒนาคนพิการ, 18(2), 94–112. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/RSjournal/article/view/265435