อิทธิพลของประสิทธิภาพทางการเงินต่อราคาหลักทรัพย์: หลักฐานเชิงประจักษ์ จากบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) วิเคราะห์อิทธิพลของประสิทธิภาพทางการเงินที่มีผลต่อราคาหลักทรัพย์ และ 2) วิเคราะห์อิทธิพลของประสิทธิภาพทางการเงินต่อราคาหลักทรัพย์ของบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยมีขนาดของกิจการเป็นตัวแปรควบคุม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ บริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จำนวน 119 บริษัท โดยการคัดเลือกข้อมูลจากประชากรทั้งหมด และตัดค่าผิดปกติ (outliers) ออกเพื่อความเหมาะสมในการวิเคราะห์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบฟอร์มบันทึกข้อมูลทางการเงิน ข้อมูลที่ใช้เป็นข้อมูลทุติยภูมิจากรายงานประจำปี แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (56-1 One Report) และงบการเงินของบริษัทในช่วงปี พ.ศ. 2563–2567 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติเชิงพรรณนา ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าสูงสุด ค่าต่ำสุด และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมานด้วยการวิเคราะห์ถดถอยพหุคูณ
ผลการวิจัยพบว่า 1) ในแบบจำลองไม่มีตัวแปรควบคุม พบว่า ประสิทธิภาพทางการเงินด้านอัตราส่วนทุนหมุนเวียนมีอิทธิพลเชิงลบต่อราคาหลักทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่อัตราการหมุนเวียนของสินทรัพย์รวม อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น อัตรากำไรสุทธิ อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นไม่มีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญ และ 2) เมื่อเพิ่มขนาดของกิจการ เป็นตัวแปรควบคุม แบบจำลองสามารถอธิบายความแปรปรวนของราคาหลักทรัพย์ได้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.8 เป็นร้อยละ 22.7 และพบว่าอัตราส่วนทุนหมุนเวียน อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น และอัตรากำไรสุทธิมีอิทธิพลเชิงลบต่อราคาหลักทรัพย์ ขณะที่อัตราการหมุนเวียนของสินทรัพย์รวมมีอิทธิพลเชิงบวกต่อราคาหลักทรัพย์อย่างมีนัยสำคัญ แสดงว่าขนาดของกิจการมีบทบาทสำคัญในการเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประสิทธิภาพทางการเงินกับราคาหลักทรัพย์ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น