การพัฒนาการบริหารงานวิชาการ โดยใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ของสถานศึกษา ในกลุ่มโรงเรียน หอคำ-หนองเลิง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ

บทคัดย่อ

การวิจัยฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่คาดหวังในการบริหารงานวิชาการและจัดลำดับความต้องการจำเป็น โดยใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโรงเรียน ในกลุ่มโรงเรียน หอคำ-หนองเลิง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ และ 2) นำเสนอแนวทางการบริหารงานวิชาการโดยใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโรงเรียนในกลุ่มโรงเรียน หอคำ-หนองเลิง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ ซึ่งประโยชน์ที่ได้รับจากการวิจัย มีดังนี้ 1) ผู้บริหารสถานศึกษา ของโรงเรียนในกลุ่มโรงเรียน หอคำ-หนองเลิง ใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาการการบริหารงานวิชาการ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ2) กลุ่มบริหารงานวิชาการได้แนวทางในการพัฒนาการบริหารงานวิชาการโดยใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโรงเรียน ในกลุ่มโรงเรียน การวิจัยครั้งนี้ได้ใช้ประชากร ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูของโรงเรียนในกลุ่มโรงเรียนกลุ่มโรงเรียน หอคำ-หนองเลิง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ ปีการศึกษา2566 จำนวน 126 คน กำหนดขนาดตัวอย่างโดยใช้ตารางสำเร็จรูปของเครซี่และมอร์แกน ได้ขนาดตัวอย่าง จำนวน 97 คน ผู้บริหารสถานศึกษา 10 คน และ ครู 87 คน โดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย เพื่อหาสัดส่วนของแต่ละโรงเรียน โดยมีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามประมาณค่า 5 ระดับ และแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความต้องการจำเป็น (PNI modified ) และการวิเคราะห์เนื้อหา จากการสัมภาษณ์ผู้บริหารสถานศึกษา ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัจจุบัน อยู่ในระดับมาก และสภาพที่คาดหวัง อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาในรายด้านจะเห็นได้ว่าสภาพที่เป็นจริงมีค่าเฉลี่ยต่ำกว่าสภาพที่คาดหวังในทุกด้าน การประเมินความต้องการจำเป็นโดยจัดเรียงลำดับความสำคัญในการบริหารงานวิชาการโดยใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโรงเรียน ในกลุ่มโรงเรียน หอคำ-หนองเลิง ในภาพรวมทุกด้านมีความต้องการจำเป็น โดยมีค่า PNI _modified อยู่ระหว่าง 0.118-0.212 ด้านที่พบว่ามีค่า PNI _modified  สูงสุด คือ ด้านการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาหรือการดำเนินการเกี่ยวกับการให้ความเห็นการพัฒนาสาระ หลักสูตรท้องถิ่น รองลงมาคือ ด้านการใช้เทคโนโลยีในการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาในสถานศึกษา และอันดับสุดท้ายคือ ด้านการใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาระบบประกันคุณภาพภายในและมาตรฐานการศึกษาและ 2) แนวทางการพัฒนาการบริหารงานวิชาการโดยใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโรงเรียน ในกลุ่มโรงเรียนหอคำ-หนองเลิง จากการสัมภาษณ์ผู้บริหารสถานศึกษา มีแนวทางดังนี้ ผู้บริหารควรใช้เทคโนโลยีในการวิเคราะห์สาระหลักสูตรหรือต้นแบบหลักสูตรในสถานศึกษา เพื่อปรับปรุงหรือเพิ่มเติมรายวิชา พัฒนาครูให้มีความรู้ด้านกระบวนการวิจัยเพื่อส่งเสริมการคิดวิเคราะห์และการเรียนรู้ของนักเรียน รวบรวมข้อมูลเพื่อพัฒนาหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ และการวัดผล โดยการวิเคราะห์ข้อมูลที่มีการรวบรวมด้วยเทคโนโลยีเกี่ยวกับความต้องการของชุมชน มีการประชุมออนไลน์เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างชุมชนกับสถานศึกษา การใช้เทคโนโลยีในการสื่อสารกับองค์กรภายนอก เช่นการนำส่งเอกสารทางอีเมล ออนไลน์  Facebook และประชาสัมพันธ์ผลงานของโรงเรียน ผลงานการเรียนการสอนทางเว็บไซต์ของโรงเรียน  ใช้เทคโนโลยีส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียน และให้คำปรึกษา แนะแนวนักเรียนในการศึกษาต่อ