กลยุทธ์การขับเคลื่อนและการพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณของนักเรียน โรงเรียนบ้านหนองบ้วย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2
Main Article Content
บทคัดย่อ
การเปลี่ยนแปลงของโลกในศตวรรษที่ 21 ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทักษะในด้านต่าง ๆ
ซึ่งทักษะที่สำคัญทักษะหนึ่ง ก็คือ ทักษะการแก้ปัญหา โดยนำทักษะการคิดเชิงคำนวณมาใช้ในการแก้ปัญหาได้อย่างเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ผู้วิจัยทำการศึกษาวิจัยเรื่องนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษากลยุทธ์การขับเคลื่อนการพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณ 2) เพื่อศึกษากลยุทธ์การพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณ ของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองบ้วย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2
และ 3) เพื่อศึกษาผลการพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณ กลุ่มเป้าหมาย คือ ครูจำนวน 3 คน และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 45 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย คู่มือกลยุทธ์การขับเคลื่อนและการพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณของนักเรียน แบบทดสอบวัดทักษะการคิดเชิงคำนวณของนักเรียน ก่อนและหลังการใช้กลยุทธ์การขับเคลื่อนการพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณของนักเรียน และแบบสัมภาษณ์เพื่อการวิจัย ค่าความสอดคล้องของเครื่องมือ มีค่าอยู่ระหว่าง 0.67 - 1.00 การวิเคราะห์ข้อมูล
เชิงปริมาณใช้สถิติ คือ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ร้อยละความก้าวหน้า ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า 1) กลยุทธ์ที่ใช้ในการขับเคลื่อนทักษะการคิดเชิงคำนวณของนักเรียนโรงเรียน
บ้านหนองบ้วย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2 มี 3 กลยุทธ์ คือ กลยุทธ์การมีส่วนร่วม กลยุทธ์การเสริมพลังอำนาจ และ กลยุทธ์การบูรณาการ 2) กลยุทธ์ที่ครูใช้ในการพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณของนักเรียน คือ กลยุทธ์ LIPP ประกอบด้วย 4 ขั้น คือ ขั้นสร้างการเรียนรู้ ขั้นเชื่อมโยงแนวคิด ขั้นวางแผน และขั้นการสร้างชิ้นงานและประเมิน 3) ผลการพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณ ก่อนและหลังการใช้กลยุทธ์การขับเคลื่อนและการพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองบ้วย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2 พบว่า ก่อนการใช้กลยุทธ์มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 8.07 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.77 และหลังการใช้กลยุทธ์มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 16.42 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.60 และมีร้อยละของความก้าวหน้าเท่ากับ 41.75 ผลการสัมภาษณ์ความคิดเห็นของครูและนักเรียน พบว่า ครูและนักเรียน สนุกกับกิจกรรมที่ได้ปฏิบัติ ชื่นชอบ คู่มือฉบับนี้เป็นคู่มือที่มีประโยชน์ที่สามารถช่วยพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณของนักเรียนได้ดี และนำมาต่อยอดสามารถใช้กับการเรียนในแต่ละรายวิชาและกิจกรรมอื่น ๆ ได้อีกด้วย ข้อค้นพบจากการวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ครูจะสามารถพัฒนานักเรียนให้มีทักษะการคิดเชิงคำนวณให้ประสบความสำเร็จ จะต้องมีการใช้กลยุทธ์การขับเคลื่อนทุกกลยุทธ์ร่วมกันตามแผนที่กำหนดไว้
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
โชติกา สงคราม. การวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานที่ส่งเสริมทักษะการคิดเชิงคำนวณ เรื่อง ความน่าจะเป็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. การค้นคว้าอิสระ ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยนเรศวร.
นงนุช เอกตระกูล. (2558). การพัฒนาการจัดการเรียนรู้แบบ STEM เพื่อเพิ่มผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ (CPS) ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6.
โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี.
นัสรินทร์ ลือชา. (2557). ผลการจัดการเรียนรู้ตามแนวสะเต็มศึกษา (STEM Education) ที่มีต่อผลสัมฤทธ์ทางการศึกษา ชีววิทยา ความสามารถในการแก้ปัญหาและความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ของนักศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตร์มหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
บุญยง ทับทอง. (2559). กลยุทธ์การขับเคลื่อนการพัฒนาคุณภาพการอ่านของนักเรียนโรงเรียนอนุบาลเพชรบุรี. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี.
เพชรลดา อาจขาว. (2563). กลยุทธ์การขับเคลื่อนและการพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนกลุ่มโรงเรียนเครือข่ายบ้านโป่ง 2 สังกัดสำนักงานเตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 2. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี.
ยุรนันท์ วรรณรักษ์. (2562). กลยุทธ์การขับเคลื่อนและการพัฒนาทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคีรีขันธ์ เขต 2. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2559). สะเต็มศึกษา (STEM Education). กรุงเทพฯ: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.
สถาบันส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). คู่มือการใช้หลักสูตรรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2561) ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา. กรุงเทพฯ. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.
สถาบันส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ.(2561). คู่มือการใช้หลักสูตรรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2561) ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา. กรุงเทพฯ. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.
สุภาพร สะอาดนัก. (2560). กลยุทธ์การขับเคลื่อนและการพัฒนาคุณธรรมของนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองปืนแตก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต 2. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี.
สำนักงานวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2561). มาตรฐานการศึกษาของชาติ พ.ศ.2561.กรุงเทพฯ : บริษัท 21 เซ็นจูรี่จำกัด
อนันต์ ม่วงอุมิงค์. (2560). กลยุทธ์การขับเคลื่อนการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนมุสลิม โรงเรียนพัฒนศาสน์วิทยาท่าแร้ง จังหวัดเพชรบุรี. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี.
อาทร นกแก้ว และสุภารัตน์ เชื้อโชติ. (2563). ความรู้เนื้อหาผสานวิธีสอนการคิดเชิงนามธรรมสำหรับการคิดเชิงคำนวณ. วารสารศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี,
(3) : กันยายน - ธันวาคม 2563.
Scott,C. (2012). An Investigation of Science, Technology, Engineering and Mathematics (STAM) Focused High school in the U.S. Journal of STAM Education, 13(5): 30-39.
Shields,E. (2006). Engineering our future new Jersey elementary school. Retrieved October14,2017, From http://www.ciese.org/papers/2006/ASEE_paper_G.doc.