การจัดการภาครัฐแนวใหม่ตามหลักธรรมาภิบาลของสำนักงานการท่องเที่ยว และกีฬาจังหวัดในเขตพื้นที่ภาคกลาง

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้เป็นแบบผสานวิธี มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาระดับการจัดการภาครัฐแนวใหม่ของสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดในเขตพื้นที่ภาคกลาง (2) เปรียบเทียบความคิดเห็นต่อการจัดการภาครัฐแนวใหม่จำแนกตามลักษณะส่วนบุคคล (3) ศึกษาความสัมพันธ์เชิงเหตุผลระหว่างหลักธรรมาภิบาลกับการจัดการภาครัฐแนวใหม่ (4) ศึกษาแนวทางการพัฒนาการจัดการภาครัฐแนวใหม่ตามหลักธรรมาภิบาลของสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดในเขตพื้นที่ภาคกลาง กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ บุคลากรในสังกัดสำงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดในเขตพื้นที่ภาคกลาง จำนวน 223คน และผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 9 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว การวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณและการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า (1) การจัดการภาครัฐแนวใหม่ตามหลักธรรมาภิบาล อยู่ในระดับมากที่สุด (2) บุคลากรที่มี อายุ และประสบการณ์ในการทำงานต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการจัดการภาครัฐแนวใหม่ตามหลักธรรมาภิบาลแตกต่างกัน (3) หลักธรรมาภิบาล ด้านหลักความเสมอภาค ด้านหลักการกระจายอำนาจและด้านหลักภาระรับผิดชอบ มีความสัมพันธ์เชิงเหตุผลกับการจัดการภาครัฐแนวใหม่อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001 ส่วนด้านหลักการมีส่วนร่วม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 และ (4) แนวทางการจัดการภาครัฐแนวใหม่ตามหลักธรรมาภิบาล พบว่า ควรมุ่งเน้นการบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมหลักธรรมาภิบาลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและการพัฒนาที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน