การพัฒนารูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อเสริมสร้างการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพปัจจุบันและความต้องการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อเสริมสร้างการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 2) สร้างและตรวจสอบรูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อเสริมสร้างการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 3) ทดลองใช้รูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อเสริมสร้างการจัดการเรียนรู้เชิงรุก 4) ประเมินความเหมาะสมและความเป็นประโยชน์ในการนำไปปฏิบัติของรูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อเสริมสร้างการจัดการเรียนรู้เชิงรุก กลุ่มเป้าหมาย คือ ครู กศน. จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถาม สถิติวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t ผลวิจัย 1) สภาพปัจจุบันชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพอยู่ในระดับปานกลาง และการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูอยู่ในระดับมาก 2) ผลการสร้างรูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อเสริมสร้างการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู พบว่า ความถูกต้องอยู่ในระดับมาก ความเป็นไปได้และการประเมินคู่มือการใช้รูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อเสริมสร้างการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูอยู่ในระดับมากที่สุด 3) ผลการทดลองใช้รูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อเสริมสร้างการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู พบว่า ก่อนการอบรม อยู่ในระดับมาก และหลังการอบรม อยู่ในระดับมากที่สุด 4) ความเหมาะสมในการนำไปปฏิบัติของรูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อเสริมสร้างการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครูอยู่ในระดับมาก และความเป็นประโยชน์ในการนำไปปฏิบัติของรูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ เพื่อเสริมสร้างการจัดการเรียนรู้เชิงรุกของครู อยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
References
กชภัทร์ สงวนเครือ. (2562). โปรแกรมเสริมสร้างสมรรถนะครูในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกตามแนวทาง
สะเต็มศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.ปริญญาการศึกษาดุษฎี บัณฑิต สาขาวิชาการบริหารและพัฒนาการศึกษา มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
การศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2561). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่สิบสอง (2560-2564). กรุงเทพฯ : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทยจำกัด.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). คู่มือการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่เป็นนิติบุคคล. กรุงเทพฯ :
สกสค.
กิ่งแก้ว ภูทองเงิน. (2561). รูปแบบการพัฒนาครูตามแนวคิดชุมชนการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างจิต
สาธารณะของนักเรียน ระดับประถมศึกษา. ปริญญานิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขา หลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
บุญชม ศรีสะอาด. (2553). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น. (2559).
การวิจัยสำหรับครู. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น,
. (2559). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 10 กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.
พิณสุดา สิริธรังศรี. (2559). รายงานการวิจัยและพัฒนา เรื่อง รูปแบบการบริหารจัดการสถานศึกษา
ขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพ ฯ : มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
ไพฑูรย์ สินลารัตน์. (2558). การอุดมศึกษากับสังคมไทย. กรุงเทพฯ : วิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัย
ธุรกิจบัณฑิตย์.
มินตรา ลายสนิทเสรีกุล, และปิยพงษ์ สุเมตติกุล. (2557). “กลยุทธ์การบริหารสถานศึกษาสู่การเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้วิชาชีพของสถานศึกษามัธยมศึกษาในสหวิทยาเขตเบญจบูรพา. กรุงเทพมหานคร”. วารสาร OJED. 9 (3) : 392-406.
วิจารณ์ พานิช .(2556). ครูเพื่อศิษย์สร้างห้องเรียนกลับทาง. กรุงเทพฯ : เอสอาร์พริ้นติ้งแมสโปรดักส์จำกัด.
สิริพร ปาณาวงษ์. (2556). “การพัฒนาสมรรถนะครูนักวิจัยเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
ชุมชนคนต้นน้ำเจ้าพระยา สำหรับนักศึกษาครูมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์”. วารสารวิชาการและวิจัยสังคมศาสตร์, 10,1-16.
สุภัทรา ภูษิตรัตนาวลี. (2560). ศึกษาการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกสำหรับคณาจารย์
วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคใต้.ปริญญานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาการวิจัยพฤติกรรม ศาสตร์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
หทัยชนก พรรคเจริญ, และคนอื่น ๆ. (2561). เทคนิคการสุ่มตัวอย่างและการประมาณค่า. กรุงเทพฯ : กลุ่มระเบียบวิธีสถิติ สำนักนโยบายและวิชาสถิติ สำนักงานสถิติแห่งชาติ.
อำนาท เหลือน้อย. (2561). รูปแบบการบริหารจัดการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ
ของสถานศึกษามาตรฐานสากล. ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์.
Stoll L. (2010). Professional learning community. New York, NY:Open university
Press.