การศึกษากระบวนการจิตปัญญาและศาสนธรรม ต่อการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแก่ผู้สูงวัย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของรูปแบบกระบวนการจิตปัญญาและศาสนธรรมต่อการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแก่ผู้สูงวัย โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยเชิงปฏิบัติการอย่างมีส่วนร่วม แบ่งการวิจัยออกเป็น 2 วงจร รวม 10 ขั้นตอน ผู้ร่วมวิจัย 12 คน วิทยากรหรือผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 5 คน และกลุ่มเป้าหมาย คือผู้สูงอายุ 35 คน เครื่องมือการวิจัยใช้แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ และแบบสนทนากลุ่ม รวบรวมข้อมูลและเขียนรายงานวิจัย ผลการศึกษา พบว่า รูปแบบการมีส่วนร่วมในการพัฒนาภาวะพฤฒิพลังของผู้สูงอายุโดยใช้รูปแบบกระบวนการจิตปัญญาและศาสนธรรมต่อการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแก่ผู้สูงวัยได้รับความสำเร็จด้วยดีทั้งวิธีการออกแบบกระบวนการกลุ่ม โดยใช้กิจกรรมจิตปัญญาเข้ามาใช้ในการขับเคลื่อนกลุ่มผู้สูงวัยให้มีกิจกรรมร่วมกัน โดยใช้วัดและหลักธรรมนำทางในการใช้ชีวิต ผลการดำเนินงานทำให้ผู้สูงวัยในชุมชนได้รวมกลุ่มคนวัยเดียวกัน ทำให้มีเพื่อน มีสังคม และรู้สึกมีความสุขสงบในการใช้ชีวิตสูงวัยเนื่องจากการเจริญสติและสมาธิ และหลักธรรมในการปล่อยวางซึ่งใช้เป็นแนวทางสำคัญของการออกแบบกิจกรรม อีกทั้งพบว่า การมีส่วนร่วมนั้นต้องเกิดจากปัจจัยเกื้อหนุนในทุกด้านทั้งครอบครัว ชุมชน และผู้นำชุมชนต้องร่วมกิจกรรมอย่างจริงจังเป็นรูปธรรมและเรียนรู้ไปด้วยกัน ซึ่งกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญที่ทำให้กิจกรรมประสบความสำเร็จ คือ ด้านโครงสร้างต้องมีทีมนำ ทีมทำหรือปฏิบัติการ และทีมหนุนเสริม นอกจากนั้น บทบาทการมีส่วนร่วมของบ้าน วัด โรงเรียน ผู้นำชุมชน และหรือองค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น มีความสำคัญมากในการเข้ามามีส่วนสร้างให้เกิดกิจกรรมการดูแลผู้สูงอายุในชุมชน
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
จิราพร เกศพิชญวัฒนา. (2549). รายงานการวิจัยโครงการพฤฒิพลัง: กรณีศึกษาจากผู้สูงอายุที่ได้รับการยอมรับในสังคม. ใน รายงานการวิจัย. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ.
บรรลุ ศิริพานิช. (2542). ผู้สูงอายุไทยกับการศึกษาต่อเนื่อง. วารสารคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการศึกษาสหประชาชาติ, 31(1), 8 – 11.
เพ็ญแข ประจนปัจจนึก. (2550). รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์เรื่องการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อเตรียมความพร้อมในการพัฒนาภาวะพฤฒิพลังในผู้สูงอายุไทย. ใน รายงานการวิจัย. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย.
สุทธิชัย จิตพันธุ์กุล. (2544). หลักสำคัญของเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุทธิชัย จิตะพันธ์กุล และคณะ. (2545). ผู้สูงอายุในประเทศไทย: รายงานการทบทวนองค์ความรู้ และสถานการณ์ในปัจจุบัน ตลอดจนข้อเสนอแนะทางนโยบายและการวิจัย. กรุงเทพมหานคร: ภาควิชาอายุรศาสตร์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุมาลี สงข์ศรี. (2547). การพัฒนาชุมชนเมืองแห่งการเรียนรู้สำหรับสังคมไทย. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟ-ฟิค.
อาชัญญา รัตนอุบล และคณะ. (2554). การศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตของผู้สูงอายุไทย. กรุงเทพมหานคร: มูลนิธีสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย.
Lawlor, D., & Thomas, A. (2008). Residential design for aging in place. New Jersey: John Wiley & Sons.
Lowton, M. P. (1975). Planning and managing housing for older people. New York: John Wiley & Sons.
World Health Organization. (2007). Global age – friendly. Retrieved March 25, 2022, from https://www.jcafc.hk/uploads/docs/Global-Age-friendly-Cities-A-Guide-1.pdf