ผลการเรียนแบบกลุ่มช่วยเหลือรายบุคคล เสริมด้วยแบบฝึก เน้นความรู้สึกเชิงจำนวนและบันทึกการเรียนรู้ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเศษส่วน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาความสามารถในการเขียนทางคณิตศาสตร์ เป็นการวิจัยเชิงทดลองแบบกลุ่มเดียวทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ประชากรเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2/2564 8 ห้อง จำนวนนักเรียน 360 คน ที่จัดนักเรียนแบบคละความสามารถ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 1 ห้อง จำนวนนักเรียน 46 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ แบบฝึกที่เน้นความรู้สึกเชิงจำนวน บันทึกการเรียนรู้ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบทดสอบวัดความสามารถในการเขียนทางคณิตศาสตร์ ดำเนินการทดลองโดยสลับกันมาเรียนเลขที่คู่และเลขที่คี่ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า 2019 ระยะเวลาสัปดาห์ละ 4 ชั่วโมง ทั้งหมด 44 ชั่วโมง รวม 10 สัปดาห์ สถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ สถิติในการทดสอบสมมติฐาน ได้แก่ การทดสอบค่าทีแบบกลุ่มเดียว และ
การทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระ ผลการวิจัยพบว่า 1) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียน 27.61 คิดเป็นร้อยละ 76.70 โดยที่คะแนนหลังเรียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75 2) มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน 13.22 คิดเป็นร้อยละ 36.70 คะแนนเฉลี่ยหลังเรียน 27.61 คิดเป็นร้อยละ 76.70 โดยที่หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน 3) มีความสามารถในการเขียนทางคณิตศาสตร์ หลังเรียน 27.04 คิดเป็นร้อยละ 75.12 โดยที่คะแนนหลังเรียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
References
โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี งานวัดและประเมินผล. (2564). รายงานผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี ปีการศึกษา 2563. อุดรธานี: โรงเรียนอนุบาลอุดรธานี.
กำไลทอง วงศ์เจริญ. (2549). การเปรียบเทียบผลการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องเศษส่วนและทศนิยม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกพัฒนาความรู้สึกเชิงจำนวนกับการเรียนปกติ. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการวัดผลการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
กิตตินันท์ แวงคำ. (2549). การเปรียบเทียบความรู้สึกเชิงจำนวน ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความพึงพอใจต่อการเรียนคณิตศาสตร์เรื่องเงินและการหารของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยแผนการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกพัฒนาความรู้สึกเชิงจำนวน กับแผนการจัดการเรียนรู้การสอนปกติ. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการวัดผลการศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ชนิสรา อริยะเดชช์. (2559). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือ เทคนิค TAIกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การบวก การลบและการคูณทศนิยมสำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วารสารมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด, 1(7), 215-230.
ชาติชาย ม่วงปฐม. (2560). ทฤษฎีการเรียนการสอน. อุดรธานี: ศักดิ์ศรีอักษรการพิมพ์.
ณัฐดนัย เนียมทอง. (2561). คณิตศาสตร์กับกระบวนการการเรียนรู้ด้วยตนเอง. เรียกใช้เมื่อ 31 มกราคม 2564 จาก https://www.scimath.org/article-mathematics/item/8403-2018-06-01-02-56-04.
ปริสา วงศ์คำพระ. (2555). ผลการใช้รูปแบบการตั้งปัญหาเสริมด้วยกระบวนการแก้ปัญหาและการเขียนบันทึกการเรียนรู้ต่อความสามารถในการเก้ปัญหาและความสามารถในการเขียนทางคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6. ใน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี.
พิชิต ทองคำ. (2553). การจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระคณิตศาสตร์เรื่อง เศษส่วนที่เน้นความรู้สึกเชิงจำนวนโดยรูปแบบการสอนตามแนวคิดทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ สำหรับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน. มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
ศิริพร มาวรรณา. (2546). ผลการใชทักษะการสื่อสารและการประเมินผลตามสภาพจริงที่มีต่อ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เรื่องการนําเสนอข้อมูล. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการสอนคณิตศาสตร์. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2545). เอกสารเสริมสำหรับครู กิจกรรมในห้องเรียนเพื่อพัฒนาความรู้สึกเชิงจำนวน. กรุงเทพมหานคร: เอส. พี. เอ็น. การพิมพ์ จำกัด.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2553). เทคนิคการสอนแบบ Math league พัฒนาการเรียนรู้ได้อย่างไร. เรียกใช้เมื่อ 31 มกราคม 2564 จาก https://www.scimath.org/articlemathematics/item/1306-math-league.
สมฤดี แววไทสง. (2561). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็นโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค TAI เพื่อเสริมทักษะในการแก้โจทย์ปัญหา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. ใน วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์ศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
อภิญญา ยะนะโชติ. (2559). การเปรียบเทียบความรู้สึกเชิงจำนวน การคิดวิเคราะห์ เจตคติต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบซิปปาโดยการใช้สื่อประสมและเกมประกอบการสอนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. วารสารวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 22(1), 384-395.
อมรรัตน์ เหล่าบุญมา. (2560). ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์เรื่องเวลา โดยการจัดการเรียนการสอนด้วยเทคนิคกลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนเป็นรายบุคคล (TAI) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. ใน วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์ศึกษา. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
Baker, M. J. (2019). Number sense and the effects on students’ mathematical success. In Master Theses in Education. Northwestern College.
Johnson, D. W., & Johnson, R.T. (2002). Meaningful assessment: A manageable and cooperative process. Boston: Allyn and Bacon.
Kastner, B. (1989). Number sense: The role of measurement applications. The Arithmetic Teacher, 36(6), 40-46.
Libertus, M. E. (2020). Effects of visual training of approximate number sense on auditory number sense and school math ability. Retrieved August 31 , 2020, from https://www.frontiersin.org/articles/10.3389/fpsyg. 2020.02085/full.
McIntosh, M. E., & Draper, R. J. (2001). Using learning logs in mathematics: Writing to learn. The Mathematics Teacher, 94(7), 554-555.
Rowan, T., & Morrow. (1993). Implementing K-8 curriculum and evaluation standards from the arithmetic teacher. MA: Ally and Bacon.
Slavin. (1988). Student team learning. Washington, D.C.: National Education Association. International Journal on Emerging Mathematics Education, 1(1), 41-52.
Zeleny, M. G. (2013). A mixed methods study of a journal-writing intervention for undergraduate students in a college mathematics course. In Degree of Doctor of Philosophy. Nebraska Lincoln University.