การพัฒนาแนวปฏิบัติการพยาบาลร่วมกับการใช้แนวคิดการนิเทศ ทางการพยาบาลในคลินิก เพื่อป้องกันการเกิดปอดอักเสบในโรงพยาบาล
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและศึกษาผลการใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลร่วมกับการใช้แนวคิดการนิเทศทางการพยาบาลในคลินิกเพื่อป้องกันการเกิดปอดอักเสบ โดยใช้รูปแบบการวิจัยและพัฒนา ดำเนินการ 4 ระยะ คือ ค้นหาปัญหาทางคลินิก ค้นหาหลักฐานเชิงประจักษ์และจัดทำร่างแนวปฏิบัติ นำร่างแนวปฏิบัติไปใช้ และนำแนวปฏิบัติไปใช้จริง กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้นิเทศ 10 คน ผู้รับการนิเทศ 50 คนและผู้ป่วย 100 คน สุ่มตัวอย่างแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้ดำเนินการวิจัย ได้แก่ คู่มือแนวปฏิบัติการพยาบาลร่วมกับ แนวทางการนิเทศทางการพยาบาลในคลินิกเพื่อป้องกันการเกิดปอดอักเสบในโรงพยาบาล เครื่องมือในการเก็บข้อมูล ได้แก่ แบบวัดความรู้ แบบประเมินการปฏิบัติ แบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและสถิติเชิงอนุมาน ผลการวิจัยพบว่า 1) แนวปฏิบัติมี 2 ส่วน ได้แก่ การปฏิบัติการพยาบาล และการนิเทศทางการพยาบาลในคลินิก 2) ผลการใช้ 2.1) กลุ่มผู้นิเทศ มีคะแนนความรู้เรื่องการนิเทศทางการพยาบาลในคลินิกหลังใช้แนวปฏิบัติมากกว่าก่อนใช้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และมีการปฏิบัติการนิเทศอยู่ในระดับมาก 2.2) กลุ่มผู้รับการนิเทศ มีคะแนนความรู้เรื่องการปฏิบัติการพยาบาล หลังใช้แนวปฏิบัติมากกว่าก่อนใช้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 มีการปฏิบัติการพยาบาลอยู่ในระดับมาก และมีความพึงพอใจต่อการใช้แนวปฏิบัติในระดับมากที่สุด 2.3) กลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลก่อนพัฒนาแนวปฏิบัติมีอัตราการเกิดปอดอักเสบในโรงพยาบาล เท่ากับ 0.3 จำนวนวันนอนเฉลี่ย เท่ากับ 5.5 กลุ่มที่ได้รับการดูแลตามแนวปฏิบัติ มีอัตราการเกิดปอดอักเสบในโรงพยาบาล เท่ากับ 0.15 จำนวนวันนอนเฉลี่ย เท่ากับ 4.19
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กิ่งกาญจน์ ทรัพย์เย็น และคณะ. (2562). การพัฒนารูปแบบการนิเทศทางการพยาบาลในคลินิกเพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับ โรงพยาบาลบ้านโป่ง. วารสารแพทย์เขต 4-5, 38(4), 300-317.
จงลักษณ์ รสสุขุมาลชาติ และคณะ. (2561). การพัฒนารูปแบบการนิเทศทางคลินิกงานอุบัติเหตุและฉุกเฉิน. วารสารกองการพยาบาล, 45(1), 66-85.
ทัศณียา ไข้บวช และคณะ. (2565). การพัฒนาและประเมินผลการใช้แนวปฏิบัติการพยาบาลเพื่อป้องกันปอดอักเสบในโรงพยาบาล สำหรับผู้ป่วยติดเตียง โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์. วารสารมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์, 14(1), 80-98.
นิดา เมตจิตกุล และคณะ. (2559). ผลของการใช้แนวปฏิบัติตามหลักฐานเชิงประจักษ์ในการป้องกันการเกิดปอดอักเสบในโรงพยาบาลมะเร็งลําปาง การจัดการความรู้โรงพยาบาลมะเร็งลำปาง. เรียกใช้เมื่อ 20 เมษายน 2565 จาก http://www. h.go.th/km/index.php/km/read/3/227
โรงพยาบาลโพธาราม. (2563). สรุปรายงานการติดเชื้อในโรงพยาบาล. ราชบุรี: โรงพยาบาลโพธาราม.
โรงพยาบาลโพธาราม. (2564). สรุปรายงานการติดเชื้อในโรงพยาบาล. ราชบุรี: โรงพยาบาลโพธาราม.
อุ่นเรือน กลิ่นขจร และสุพรรษา วรมาลี. (2563). คู่มือการพยาบาลผู้ป่วยสูงอายุโรคปอดอักเสบ. กรุงเทพมหานคร: ฝ่ายการพยาบาล โรงพยาบาลศิริราช.
American Thoracic Society. (2005). Guidelines for the Management of Adults with Hospital-acquired, Ventilator-associated, and Healthcare-associated Pneumonia. American. Journal of Respiratory and Critical Care Medicine, 171(4), 388-416.
Proctor, B. (2001). Training for the supervision alliance attitude, skills and intention InFundamental Themes in Clinical Supervision. London: Routledge.
Soukup SM. (2000). The Center for Advanced Nursing Practice evidence-based practice model: promoting the scholarship of practice. The Nursing Clinics of North America, 35(2), 301-309.
Stepinski, J. et al. (2022). Impact of an Oral Care Intervention among Medical-SurgicalPatients. MEDSURG NURSING, 31(2), 91-99.
The Joanna Briggs Institute. (2017). Checklist or Systematic Reviews and ResearchSyntheses. Retrieved June 25, 2022, from https://jbi.global/sites/ default/files/’2019-05/JBI _Critical_Appraisal- Checklist_for_Systematic _Reviews2017_0.pdf