บทบาทสำคัญของประเพณีกินผักในจังหวัดภูเก็ต ; ม้าทรง ความศรัทธา ประเพณีกินผัก

ผู้แต่ง

DOI:

https://doi.org/10.60027/iarj.2024.276454

คำสำคัญ:

ม้าทรง; , ความศรัทธา; , ประเพณีถือศีลกินผัก; , ภูเก็ต

บทคัดย่อ

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ประเพณีถือศีลกินผัก จังหวัดภูเก็ต มีความเชื่อที่มีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิต ที่ปรากฎในประเพณีจากการสืบสานวัฒนธรรม โดยเฉพาะม้าทรง ผู้ทำหน้าที่ ประกอบพิธีกรรม และประชาชนผู้ร่วมงาน ประเพณีกินผักของศาลเจ้า ซึ่งบทบาทสำคัญของม้าทรงต่อประเพณีกินผักจากความเชื่อ ความศรัทธา ต่อการสืบสานประเพณีจากอดีตถึงปัจจุบัน การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจบทบาทสำคัญของประเพณีกินผักในจังหวัดภูเก็ต

ระเบียบวิธีการศึกษา: การศึกษาครั้งนี้ดำเนินการโดยการศึกษาและวิเคราห์เอกสารที่เกี่ยวข้องกับประเพณีกินผักในจังหวัดภูเก็ต จากนั้นทำการวิเคราะห์เนื้อหาและนำเสนอเชิงพรรณนาความ

ผลการศึกษา: สำหรับวัฒนธรรมและความเชื่อที่ปรากฏในประเพณีถือศีลกินผัก ในจังหวัดภูเก็ต แบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลา คือ ช่วงก่อนการเตรียมงาน ช่วงวันก่อนประเพณี วันประเพณี และช่วงวันหลังประเพณี 1. ช่วงการเตรียมงาน เป็นช่วงของการทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ การจัดเตรียมสิ่งของ การล้างศาลเจ้าและประดับประดาธงทิวต่างๆ      2. ช่วงวันประเพณี เป็นขั้นตอนการปฏิบัติ ได้แก่ พิธียกเสาโกเต้ง นอกจากนี้ ยังมี       การแสดงอภินิหารต่างๆ ของม้าทรง เช่น การทรมานตนด้วยวิธีการต่างๆ การลุยไฟสะเดาะเคราะห์ 3. ช่วงวันหลังประเพณีจะมีพิธีลงสาโกเต้ง พิธีโข้กุ้นหรือพิธีเลี้ยงขุนทหารด้วยอาหารคาวหวาน ที่เรียกว่าคุ้ยโช้ว และพิธีซิ่วกุ้น หรือ พิธีส่งทหารกลับถือเป็นการสิ้นสุดประเพณีกินเจ            

สรุปผล: เทศกาลประเพณีกินผักของจังหวัดภูเก็ต ทำให้ศาลเจ้าที่ประกอบพิธีกรรม เป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ และ       เป็นพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยว โดยช่วงเวลาสั้นๆตามกำหนดการ พร้อมกับการจัดกิจกรรมต่างๆ ส่งผลให้พื้นที่นี้ได้สร้างความผูกพันกับผู้คนในชุมชน กลายเป็นแหล่งรายได้ แหล่งศักดิ์สิทธิ์ แหล่งบริการ และแหล่งท่องเที่ยว       ทว่าผู้คนได้ให้ความหมายแตกต่างกันออกไป ตามความรู้สึกนึกคิด ตามฐานะของผู้คนที่เข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับเทศกาลกินผัก การจัดกิจกรรมต่างๆล้วนมีการเสริมแต่ง ขึ้นใหม่เพื่อเป็นแรงจูงใจให้กับนักท่องเที่ยว                     มีการประดิษฐ์อาหารให้ลักษณะดูแปลกใหม่ ดูน่ารับประทาน โดยการใช้วัตถุดิบที่เลียนแบบเนื้อสัตว์ เช่น หมูทอดเจ ซูชิเจ กระเพาะปลาเจ และได้มีการดัดแปลงเมนูอาหารให้มีความหลากหลายเป็นอาหารญี่ปุ่น อาหารแบบจีน ไทย ฮินดู และอื่นๆเพื่อสร้างบรรยากาศเชิญชวนนักท่องเที่ยวทำให้เกิดพื้นที่แห่งจินตนาการอันศักดิ์สิทธิ์ชั่วขณะ เป็นพื้นที่ ที่แสดงออกทางความเชื่อ และความคิดอย่างเสรี สร้างให้เกิดภาพบรรยากาศการย้อนสู่การเป็นสังคมชาวไทย เชื้อสายจีน กล่าวได้ว่า ในปัจจุบันกิจกรรมต่างๆนั้นได้ถูกเติมแต่ง เสริมสร้าง ตัดทอน เพื่อการท่องเที่ยว โดยใช้กลิ่นอายของความเป็นชุมชนเชื้อสายจีน เพื่อสร้างอัตลักษณ์และมูลค่าทางเศรษฐกิจเป็นสำคัญจึงส่งผลให้เทศกาลกินผักภูเก็ต กลายเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ประดิษฐ์เพื่อการท่องเที่ยว

References

กิติพัฒน์ นนทปัทมะดุลย์. (2544). นโยบายสังคมและสวัสดิการสังคม. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพมหานคร : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

กุลธิดา อู่บูรณกุล และกาญจนา แก้วเทพ. (2556). กระบวนการสื่อสารเพื่อสืบทอดประเพณีถือศีลกินผัก จังหวัดภูเก็ต. วารสารนิเทศศาสตร์, 31 (2), 139-153.

ธนัสถ์ สุวัฒมหาตม์. (2549). “เทศกาลกินเจในเดือนเก้า” บทความพิเศษใน ความเข้าใจเรื่องการกินเจ หน้า 66-124 กรุงเทพมหานคร สมาคมเผยแผ่คุณธรรม “เต็กก่า” จีจินเกาะ

นิชาภา พฤกษวัลต์. (2566). พิธีกรรมความศรัทธา การสืบทอดวัฒนธรรมจีน กรณีศึกษา : ม้าทรงการสื่อสารจากเทพเจ้าสู่ลูกหลานศาลเจ้าจ้าวเองสือ (พระ 108 เจ้าแม่ทับทิม) จังหวัดปัตตานี. วารสารรูสมิแล, 4 (2), 29-42.

ปัทมาสน์ พิณนุกูล ศุภชัย สิงห์ยะบุศย์ และเมตตา ศิริสุข. (2563). “ม้าทรง” ความเป็นเทพกับความเป็นมนุษย์ปฏิบัติการในพื้นที่พิธีกรรมงานประเพณีถือศีลกินผักของจังหวัดภูเก็ต. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต, 16(1), 183-208.

ปิยะพงษ์ ทับทิมทอง. (2554). ประเพณีกินเจของชาวภูเก็ต : กรณีศึกษาศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาไทยศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง

ปิยะพงษ์ ทับทิมทอง. (2557). ประเพณีกินเจของชาวภูเก็ต : กรณีศึกษาศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง. วารสารวิจัยรำไพพรรณี, 8(1), 76-82.

สมชาย มนูจันทรัถ. (2551). ปรากฎการณ์ใหม่ของประเพณีกินผักในจังหวัดภูเก็ต : กรณีศึกษาศาลเจ้าจุ้ยตุ้ยเต้าโบ้เก้ง (วืทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช). Retrieved from: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/639

เสาวภา ไพทยวัฒน์. (2543). “การศึกษาม้าทรงของศาลเจ้าในจังหวัดพังงาและจังหวัดภูเก็ต” กรุงเทพมหานคร สำนักงานสภาสถาบันราชภัฏ.

Durkheim, E. (1965).The Elementary Forms of the Religious Life. New York: The Free Pree.

Samuthakhup, S., et al. (1996). Spirit-Medium Cult Discourses and Crisis of Modernity in Thailand. Bangkok: SAC Princess Maha Chakri Sirindhorn Anthropology Centre.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2024-10-22

How to Cite

วิบูลย์ศรี ก. ., ดอกไม้หอม ภ. . ., & แย้มศรีสุข ช. (2024). บทบาทสำคัญของประเพณีกินผักในจังหวัดภูเก็ต ; ม้าทรง ความศรัทธา ประเพณีกินผัก. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 4(5), 1183–1192. https://doi.org/10.60027/iarj.2024.276454