เทคโนโลยีการบริหารสถานศึกษาเพื่อความปลอดภัย
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2024.276222คำสำคัญ:
เทคโนโลยี; , การบริหารสถานศึกษา; , ความปลอดภัยบทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: เทคโนโลยีการบริหารสถานศึกษาเพื่อความปลอดภัยมีภูมิหลังที่สำคัญทั้งการป้องกันอันตรายภายนอกและภายในโรงเรียน โดยมุ่งเน้นการปรับใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลรักษาความปลอดภัยของนักเรียนและบุคลากร วัตถุประสงค์สำคัญคือการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้แก่สมาชิกทุกคนในชุมชนการศึกษา โดยใช้เทคโนโลยีเพื่อเสริมสร้างการตรวจสอบและการระงับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อสนับสนุนกระบวนการเรียนรู้ที่ปลอดภัยและเต็มไปด้วยความสุขในวงการการศึกษา
ระเบียบวิธีการศึกษา: การศึกษาโนโลยีการบริหารสถานศึกษาเพื่อความปลอดภัยมีขั้นตอนและระเบียบวิธีที่สำคัญ เช่น การวิเคราะห์ความเสี่ยงทางด้านความปลอดภัยในโรงเรียน การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เช่น ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) หรือระบบการแจ้งเตือนฉุกเฉิน การอบรมและการสอนให้ความรู้แก่บุคลากรและนักเรียนเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัย การจัดทำแผนการปฏิบัติงานในกรณีฉุกเฉิน เป็นต้น โดยมุ่งเน้นการทำให้ผู้เกี่ยวข้องทุกคนเข้าใจและปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาความปลอดภัยและความเป็นสุขของทุกคนในสถานศึกษา
ผลการศึกษา: การบริหารสถานศึกษาด้วยเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยเป็นการพัฒนาเครื่องมือและระบบที่ช่วยให้การบริหารจัดการสถานศึกษามีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น กล้องวงจรปิด (CCTV) ระบบบันทึกข้อมูลอัตโนมัติ ระบบเข้าถึงที่มีการยืนยันตัวตน หรือระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดในสถานศึกษา ทำให้ผู้บริหารสามารถดูแลและควบคุมสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น การสร้างเทคโนโลยีการบริหารสถานศึกษาเพื่อความปลอดภัยเป็นส่วนสำคัญในการให้ความสำคัญต่อความเจริญของสถานศึกษาและความเชื่อมั่นของประชาชนในการให้บริการทางการศึกษา
สรุปผล: การใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและความปลอดภัยในสถาบันการศึกษา เช่น การควบคุมการเข้าถึง กล้องวงจรปิด และระบบแจ้งเตือนอัตโนมัติ ช่วยสร้างความไว้วางใจในคุณภาพการศึกษาที่มอบให้และสนับสนุนความสำเร็จของสถาบัน
References
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร. (2559). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม. กรุงเทพฯ: กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร.
ณฐวัฒน์ พระงาม. (2555). การติดต่อสื่อสารแบบปฏิสัมพันธ์ในองค์การ. พิมพ์ครั้งที่ 1. พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยพิษณุโลก.
พระมหาศิริชัย สิรินฺทาโณ (ศรีรัมย์). (2556). การจัดการทรัพยากรมนุษย์เชิงกลยุทธ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลในอำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิตรัฐประศาสนศาสตร์ (การบริหารจัดการคณะสงฆ์) มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ภัคคพร พิมสาร. (2564). เอกสารประกอบการสอน ประเภทสื่อสังคมออนไลน์.มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา. Retrieved from: https://elfar.ssru.ac.th/pukkaporn.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579. กรุงเทพมหานคร: พริกหวานกราฟฟิค จำกัด.
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี. (2565). แผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566-2570). กรุงเทพฯ: ราชกิจจานุเบกษา.
อนัญญา ทาระธรรม. (2558). การพัฒนากลยุทธ์ในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญของนักเรียนโรงเรียนวัดเนินหินแร่ (เหมยากรนุสรณ์) อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก. สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษานครนายก: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2024 Interdisciplinary Academic and Research Journal

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ