การใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารสถานศึกษาของผู้บริหารสถานศึกษาสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดชลบุรี
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2024.276160คำสำคัญ:
การบริหารตามหลักธรรมาภิบาล; , การบริหารการศึกษาบทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: ผู้บริหารถือเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในการส่งเสริมและพัฒนาวัฒนธรรมประชาธิปไตยและธรรมาภิบาลในสถานศึกษา ความสามารถในการบริหารจัดการของผู้บริหารมีผลต่อการดำเนินงานต่าง ๆ ในสถานศึกษา เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลอย่างสูงสุด การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบการใช้หลักธรรมาภิบาล รวมถึงแนวทางในการบริหารสถานศึกษาในสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดชลบุรี โดยพิจารณาตามเพศ ตำแหน่ง และประสบการณ์ในการทำงานของผู้บริหารในแต่ละด้าน
ระเบียบวิธีการวิจัย: กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยประกอบด้วยผู้บริหารและครูผู้สอนในสถานศึกษาที่สังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดชลบุรี จำนวน 269 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นอยู่ที่ 0.97 และค่าความสอดคล้อง (IOC) อยู่ระหว่าง 0.8 ถึง 1.00 โดยมีการสอบถามเกี่ยวกับการใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารสถานศึกษาในกลุ่มผู้บริหารดังกล่าว สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน รวมถึงการทดสอบด้วย t-test และ F-test เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องและมีความน่าเชื่อถือ
ผลการศึกษา: (1) ผลการศึกษาพบว่าความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารสถานศึกษาของผู้บริหารในสังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดชลบุรี โดยรวมอยู่ในระดับมาก (2) เมื่อจำแนกการใช้หลักธรรมาภิบาลตามเพศ พบว่าโดยรวมไม่แตกต่างกัน แต่เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่าด้านคุณธรรม ด้านความโปร่งใส และด้านความรับผิดชอบมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนด้านอื่น ๆ ไม่มีความแตกต่าง (3) สำหรับการจำแนกตามสถานะ พบว่าผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนมีการใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารสถานศึกษาโดยรวมไม่แตกต่างกัน แต่เมื่อพิจารณาในแต่ละด้าน พบว่าด้านหลักการมีส่วนร่วม ด้านความรับผิดชอบ และด้านความคุ้มค่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนด้านอื่น ๆ ไม่มีความแตกต่าง (4) การจำแนกตามประสบการณ์ในการทำงาน พบว่าการใช้หลักธรรมาภิบาลโดยรวมไม่แตกต่างกัน แต่เมื่อพิจารณาในด้านความโปร่งใสพบว่ามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ขณะที่ด้านหลักนิติธรรม ด้านคุณธรรม ด้านความคุ้มค่า ด้านความรับผิดชอบ และด้านการมีส่วนร่วมไม่มีความแตกต่างกัน
สรุป: การบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลประกอบด้วยบุคคลสำคัญ 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) ผู้บริหาร ซึ่งมีหน้าที่ในการกำหนดวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ และนโยบายการบริหารสถานศึกษาอย่างชัดเจน 2) ครู ซึ่งมีบทบาทในการปฏิบัติหน้าที่สอนและส่งเสริมการเรียนรู้ของนักเรียนและนักศึกษา โดยใช้วิธีการสอนที่หลากหลายเพื่อพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนอย่างเต็มที่
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). คู่มือการบริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่เป็นนิติบุคคล. กรุงเทพฯ : องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุ.
คณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2552). ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาว่าด้วยการ บริหารสถานศึกษา 2552. Retrieved from: http://venr-4ac.th/sites/venr-4/files/5t182 Rpishui06q2.pdf.
จรัส อติวิทนาภรณ์. (2554). หลักการและทฤษฎีทางการบริหารการศึกษา. สงขลา : สาขาวิชาการบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ
นัยนา เจริญผล. (2552). การใช้หลักธรรมาภิบาลในการบริหารสถานศึกษาของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจังหวัดขอนแก่น. การค้นคว้าอิสระปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต ม.ป.ป. มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย, เลย
บุญชม ศรีสะอาด. (2553). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น.
ไพฑูรย์ สุขผลานันท์. (2558). การศึกษาสภาพการบริหารงานตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหาร สถานศึกษา สังกัดอาชีวศึกษาจังหวัดระยอง จันทบุรี และตราด. วิทยานิพนธ์ปริญญา- ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี, จันทบุรี.
ไพรวัลย์ ชาคโร. (2558). การบริหารสถานศึกษาตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักการศึกษา สำนักงานเขตสายไหม กรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ พธ.ม., มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย, กรุงเทพมหานคร.
วิชุดา ดวงจุ้ย และ ในตะวัน กำหอม. (2564). การบริหารตามหลักธรรมาภิบาลของผู้บริหารสถานศึกษาจำนวนโรงเรียนอนุบาลเทศบาลอ้อมน้อย 2. วารสารลวะศรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี, 5(2), 47-59.
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2552). ระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ว่าด้วยการบริหารสถานศึกษา. กรุงเทพฯ: สำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษา.
อภินันท์ ลิ้มกุล. (2557). การใช้หลักธรรมาภิบาลในโรงเรียนวังเหนือวิทยา. การค้นคว้าอิสระปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศิลปากร, นครปฐม.
Cronbach, L. J. (1990). Essentials of Psychological Testing. 5th ed. New York: Haper Collins.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2024 Interdisciplinary Academic and Research Journal

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ