การพัฒนาตัวบ่งชี้องค์กรแห่งความสุข วิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ผู้แต่ง

  • รัฐวิกานต์ ประดับเสริฐ คณะครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม https://orcid.org/0009-0006-7405-1152
  • ปองภพ ภูจอมจิตร คณะครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม https://orcid.org/0009-0006-2791-0057
  • กฤษกนก ดวงชาทม คณะครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม https://orcid.org/0009-0007-3540-0783

DOI:

https://doi.org/10.60027/iarj.2024.274838

คำสำคัญ:

การพัฒนาตัวบ่งชี้; , องค์กรแห่งความสุข ; , วิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชน; , ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

บทคัดย่อ

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์การวิจัย: องค์กรแห่งความสุขเป็นอีกแนวคิดหนึ่งที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตในการทำงานของบุคลากร ซึ่งมีความเชื่อว่าการสร้างความสัมพันธ์ของคนในองค์กรให้มีความสุข ทำให้มีความผูกพันเกิดจากการรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าต่อองค์กร และมีความสุขความรักในงาน ศรัทธาต่อองค์กร พร้อมที่จะทุ่มเทแรงกายแรงใจอย่างเต็มความสามารถในการทำงานให้กับองค์กร ดังนั้นการวิจัยครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาตัวบ่งชี้องค์กรแห่งความสุขของวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเพื่อทดสอบความสอดคล้องของโมเดลความสัมพันธ์โครงสร้างตัวบ่งชี้องค์กรแห่งความสุข ของวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่พัฒนาขึ้นกับข้อมูลเชิงประจักษ์

ระเบียบวิธีการวิจัย : การวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 พัฒนาตัวบ่งชี้องค์กรแห่งความสุขของวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 9 คน กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหารและครูวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชน จำนวน 490 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์ และแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ระยะที่ 2 ทดสอบความสอดคล้องของโมเดลความสัมพันธ์โครงสร้างตัวบ่งชี้องค์กรแห่งความสุขของวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่พัฒนาขึ้นกับข้อมูลเชิงประจักษ์โดยการวิเคราะห์ตรวจสอบองค์ประกอบเชิงยืนยันอันดับสอง (Second order Confirmatory Factor Analysis)

ผลการวิจัย: 1. องค์ประกอบและตัวบ่งชี้องค์กรแห่งความสุข ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ 25 ตัวบ่งชี้ 1) คนทำงานมีความสุข มี 5 ตัวบ่งชี้ 2) สถานที่ทำงานน่าอยู่ มี 5 ตัวบ่งชี้ 3) วัฒนธรรมองค์การ มี 5 ตัวบ่งชี้ 4) ความพึงพอใจในงาน มี 5 ตัวบ่งชี้ และ 5) ชุมชนสมานฉันท์ มี 5 ตัวบ่งชี้ 2. ผลการทดสอบความสอดคล้องขององค์ประกอบและตัวบ่งชี้องค์กรแห่งความสุขของวิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่พัฒนาขึ้นกับข้อมูลเชิงประจักษ์ พบว่า มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์อยู่ในเกณฑ์ดี โดยมีค่า Chi – Square = 3853.531 ค่า df = 270 ค่า P-Value = 0.000, CMIN/df. = 1.428, CFI= .962, GFI= 0.929 TLI=.958, AGFI= 0.915, RMSEA=0.033 RMR= 0.030, NFI= 0.886, IFI= 0.963 ซึ่งในการพัฒนาตัวบ่งชี้องค์ประกอบเชิงยืนยันอันดับสององค์กรแห่งความสุข วิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนภาคตะวันออกเฉียง เหนือทุกองค์ประกอบมีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.001

สรุปผล: สถานศึกษาความสุขในการทำงานถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญมากต่อการบริหารองค์กรในเชิงการจัดการทรัพยากรมนุษย์ ที่จะมีผลต่อในระดับบุคคลที่จะทำให้เกิดแรงจูงใจในการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีผลต่อองค์กรที่จะทำให้สถานศึกษามีบรรยากาศแห่งความสุข ทั้งผู้บริหารครูผู้สอน และนักเรียนร่วมมือร่วมใจกันในการทำงานอย่างเต็มความสามารถ ส่งผลดำเนินการที่ดียิ่งขึ้นมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร และที่สำคัญที่สุดก็คือผลผลิตของสถานศึกษา คือ ผู้เรียนที่จะได้รับการเรียนการสอนกับครูที่ทำงานอย่างมีความสุข

References

กอปรลาภ อภัยภักดิ์. (2563). บรรยากาศองค์กรแห่งความสุข: คนเบิกบาน งานสำเร็จ. วารสาร มจร. มนุษยศาสตร์ปริทรรศน์, 6(1), 315-331

จุฑามาศ แก้วพิจิตร และวิชัย อุตสาหกิจ. (2556). สู่การเป็นองค์การแห่งความสุข. นนทบุรี: สองขาครีเอชั่น.

ทิพวัลย์ รามรง. (2557). สารสาระองค์กรแห่งความสุข เล่ม 1. กรุงเทพฯ : พี.เอ. ลีฟวิ่ง.

บุรินทร์ เทพสารและอภิภา ปรัชญพฤทธิ์. (2560). ยุทธศาสตร์การบริหารการเปลี่ยนแปลงสถาบันอุดมศึกษาเอกชนสู่การเป็นองค์กรแห่งความสุข. Journal of Education Studies, 45(3), 83–96. Retrieved from https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EDUCU/article/view/107391

พงศกร ศรีรงค์ทอง. (2022). องค์การแห่งความสุข: มุมมองจากอาจารย์มหาวิทยาลัย. วารสารสุทธิปริทัศน์ 36 (2), 151-169. Bangkok, Thailand:150-69. https://so05.tci-thaijo.org/index.php/DPUSuthiparithatJournal/article/view/257899

รุ่งนภา ชุณหวรชัย. (2556). แนวทางการพัฒนาองค์กรแห่งความสุข “คึกฤทธิ์ อาร์คิเทค”. การศึกษาค้นคว้าอิสระ บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการปกครองท้องถิ่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.

วรรณภา ลือกิตินันท์. (2557). แนวทางการสร้างองค์กรสุขภาวะในบริษัทข้ามชาติ : กรณีศึกษาบริษัทอุตสาหกรรมการผลิต ในภาคตะวันออก. Journal of Management Sciences. 31(1), 1-15.

สมคิด ปิ่นทอง. (2556) รูปแบบการจัดการการกีฬาแห่งประเทศไทยให้เป็นองค์กรแห่งความสุข . กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

สังข์ทอง รอญศึก. (2556). การพัฒนารูปแบบประสิทธิผลของการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต: มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.). (2556). มาสร้างองค์กรแห่งความสุขกันเถอะ. กรุงเทพฯ : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ.

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.). (2557). 10 วิธีสร้างความสุขในที่ทำงานด้วยตัวคุณเอง. Retrieved from: https://www.thaihealth.or.th/Content/

สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. (2563). แผนสร้างความผูกพันและความพึงพอใจในบุคลากรในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. Retrieved from: http://www.bga.moe.go.th/2018/wp-content/uploads/2020/05/.

สำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร. (2552). หนังสือความสุข 8 ประการ Happy 8. กรุงเทพฯ : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.).

อธิคุณ สินธนาปัญญา และคณะ. (2557). การบริหารความสุขในสถานศึกษา. วารสารสุทธิปริทัศน์, 28(88), 15-32.

อภิชัย พันธเสน. (2555). การบริหารองค์กรเพื่อความสุขและประโยชน์สุข. วารสารบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. 1(1),1-5.

Burton, J. (2010). WHO healthy workplace framework and model: Background and supporting literature and practices. Switzerland: World Health Organization. Retrieved from http://www.who.int/

World Health Organization (2010). Global Recommendations on Physical Activity for Health. World Health Organization, Geneva.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2024-04-08

How to Cite

ประดับเสริฐ ร. ., ภูจอมจิตร ป. ., & ดวงชาทม ก. . (2024). การพัฒนาตัวบ่งชี้องค์กรแห่งความสุข วิทยาลัยอาชีวศึกษาเอกชนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: . Interdisciplinary Academic and Research Journal, 4(2), 785–800. https://doi.org/10.60027/iarj.2024.274838

ฉบับ

บท

บทความวิชาการ