การจัดการวัฒนธรรมสู่แนวคิดการท่องเที่ยววัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์

ผู้แต่ง

  • สุวิมล สมไชย วิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย https://orcid.org/0009-0004-8215-4544
  • พิกุล ภูมิแสน วิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย https://orcid.org/0009-0002-7239-9519
  • สำเร็จ อาจธะขันธ์ วิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย https://orcid.org/0009-0009-8304-2241
  • สนุก สิงห์มาตร วิทยาลัยสงฆ์ร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย https://orcid.org/0000-0003-2524-2519

DOI:

https://doi.org/10.60027/iarj.2023.272810

คำสำคัญ:

การจัดการ; , วัฒนธรรม; , การท่องเที่ยววัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์

บทคัดย่อ

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: วิวัฒนาการของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์มีความเชื่อมโยงอย่างซับซ้อนกับการประยุกต์ใช้ทฤษฎี หลักการ แนวคิด แนวปฏิบัติ และความรู้ที่เกี่ยวข้องกับสาขาวิชาเฉพาะอย่างเชี่ยวชาญ การดำเนินการตามกลยุทธ์การจัดการวัฒนธรรมที่ประสบความสำเร็จนั้นเกี่ยวข้องกับการปรับองค์ประกอบเหล่านี้ให้เข้ากับความแตกต่างตามบริบทของสภาพแวดล้อม การบูรณาการนี้จะช่วยกระตุ้นความก้าวหน้าของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งเป็นรูปแบบของการเดินทางที่เชื่อมโยงอย่างซับซ้อนกับการสำรวจประวัติศาสตร์ ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณีของชุมชน และคุณลักษณะที่โดดเด่นของสถานที่ต่างๆ มันก้าวข้ามประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบเดิม ๆ โดยการส่งเสริมการมีส่วนร่วมโดยตรงกับผู้ดูแลวัฒนธรรม จึงเพิ่มมูลค่าให้กับมิติทางประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมของสถานที่นั้นๆ การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ต่างจากกิจการที่มุ่งเป้าไปที่รายได้ของชุมชนเพียงอย่างเดียว โดยให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์และการเฉลิมฉลองคุณค่าของชุมชน โดยพื้นฐานแล้ว ที่นี่ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างนักท่องเที่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมของชุมชนที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งไม่เพียงแต่มีส่วนช่วยในการพัฒนาเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษาคุณค่าทางวัฒนธรรมที่แท้จริงอีกด้วย

ระเบียบวิธีการศึกษา: การศึกษาครั้งนี้ใช้วิธีการวิเคราะห์เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ทำการวิเคราะห์เนื้อหาแล้วนำเสนอเชิงพรรณนาความตามวัตถุประสงค์การศึกษา

ผลการศึกษา: การบริหารจัดการเกี่ยวกับวัฒนธรรมนำไปสู่การพัฒนาการท่องเที่ยววัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ซึ่งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถนำไปดำเนินการให้เกิดผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติที่มีต้นทุนต่ำที่สุด ผู้เขียนวิเคราะห์ไว้ 4 ประเด็น ดังนี้ (1) ประเด็นการฟื้นฟู คือการดำเนินการกับวัฒนธรรมที่สูญหายหรือเสื่อมโทรมลงให้สามารถฟื้นคืนกลับสู่สภาพเดิมได้อีก (2) ประเด็นการอนุรักษ์ คือการรักษาวัฒนธรรมที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรมประเภทใดก็ตามไว้ให้นานที่สุดและสามารถนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด (3) ประเด็นการส่งเสริมและสนับสนุน คือการให้ความสำคัญและการขยายขอบเขตในโครงการหรือกิจกรรมให้ดีมีคุณภาพสมบูรณ์ยิ่งขึ้น (4) ประเด็นการประยุกต์วัฒนธรรม คือการนำบางสิ่งที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมที่มีอยู่แล้วนำมาใช้ประโยชน์โดยปรับใช้อย่างเหมาะสมกับสภาวะที่เป็นอยู่ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม ประเพณี สังคม ความคิดหรือเทคโนโลยี

สรุปผล: การบริหารจัดการเกี่ยวกับวัฒนธรรมนำไปสู่การพัฒนาการท่องเที่ยววัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์ที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถนำไปดำเนินการให้เกิดผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติ โดยในการวิเคราะห์มี 4 ประเด็นที่สำคัญคือ การฟื้นฟู การอนุรักษ์ การส่งเสริมและสนับสนุน และการประยุกต์วัฒนธรรม ซึ่งเน้นถึงการรักษา ส่งเสริม และปรับใช้วัฒนธรรมที่มีอยู่เพื่อสร้างประโยชน์และเสริมสร้างท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อชุมชนและประเทศในระยะยาว

เอกสารอ้างอิง

กรุงเทพธุรกิจ. (2558). วัฒนธรรมรุกงานวิจัยทุนทางวัฒนธรรมต่อยอดสู่การพัฒนาประเทศ. Retrieved 28 November 2015 from : www.mculture.go.th/ewtadmin/ewt/.../article_fileattach_20170119144708.doc

กาญจนา จันทรชิต. (2556). การท่องเที่ยวไทยฟื้นตัวแล้วหรือยัง?. Retrieved on 12 January 2023, from : http://www.fpojournal.com/tag

ทิศ ทาหอม และ สุนันท์ เสนารัตน์. (2561). การประยุกต์ใช้ทุนทางวัฒนธรรมกับการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นอีสาน. วารสารวนัมฎองแหรกพุทธศาสตรปริทรรศน์. 5 (1), 15-24.

พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต). (2538). การพัฒนาที่ยังยืน. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพ์มูลนิธิโกมลคีมทอง.

พลอย มัลลิกะมาส. (2554). แปรรูปวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างให้ได้เงินล้าน. Retrieved on 13 June 2022 from: www.tcdcconnect.com.

วรวิทย์ อวิรุทธ์วรกุล. (2553). เศรษฐกิจสร้างสรรค์และเศรษฐกิจพอเพียง : ขัดแย้งหรือสอดคล้อง?. วารสารเศรษฐกิจและสังคม. 47(4), 20-35.

ศลิษา ธีรานนท์ และประกาศิต โสภณจรัสกุล. (2559). การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ : ทางเลือก-ทางรอดของการท่องเที่ยวไทย, วารสารวิชาการ มหาวิทยาลัยปทุมธานี. 8(2), 206-215.

สมเกียรติ ชัยพิบูลย์. (2551). การจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กรณีศึกษาศักยภาพการท่องเที่ยวชุมชนนครชุม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร. วิจัยจากงบประมาณแผ่นดินประจำปีงบประมาณ 2550, มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.

สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ. (2535). วัฒนธรรมกับการเปลี่ยนแปลง. กรุงเทพฯ : อัมรินทร์พริ้นติ้งกรุ๊พ.

สำราญ ผลดี, ประเสริฐ บุญมา. (2558). การมีส่วนร่วมของนักศึกษาต่อกิจกรรมด้านการทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยธนบุรี. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัยธนบุรี, 9 (18), 13-26.

สิปปนนท์ เกตุทัต. (2542). การพัฒนาการวิจัย : สร้างสรรค์ปัญญาเพื่อพัฒนาประเทศ. วารสารประชาคมวิจัย, 2542, 23-26.

สุดแดน วิสุทธิลักษณ์. (2556). องค์ความรู้ว่าด้วยการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ : คู่มือและแนวทางปฏิบัติ. คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร.

สุธิดา แจ้งประจักษ์. (2565). การสังเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับการจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน. วารสารสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 6 (2), 215-222.

Howell, D.W. (1993). Passport: An introduction to the travel and tourism industry. 2nd edition. South Western Publishing Co.

Pigram, J. (1993). Planning for tourism in rural areas: bridging the policy implementation gap. In Pearce and Butler (Eds.). Tourism Research: Critiques and Challenges London: Routledge.

Resinger, Y. (1994). Tour - Host contact as part of cultural tourism. World Leisure and Recreation. 36, 24 -28.

Smith, V. (1989). Host and Guests: The Anthropology of Tourism. Philadelphia: University of Pennsylvania Press.

UNESCO. (2003). 1993-2003.International Flows of Selected Cultural Goods and Services World Intellectual Property Organization. 22/10/2008. Retrieved from http://www.wipo.int/treaties/en/ShowResults.jsp?lang=en&treaty_id=15

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-12-07

รูปแบบการอ้างอิง

สมไชย ส., ภูมิแสน พ. ., อาจธะขันธ์ ส. ., & สิงห์มาตร ส. (2023). การจัดการวัฒนธรรมสู่แนวคิดการท่องเที่ยววัฒนธรรมเชิงสร้างสรรค์. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 3(6), 1035–1048. https://doi.org/10.60027/iarj.2023.272810

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ