The รูปแบบการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2

ผู้แต่ง

  • อนุสรา สุขสุคนธ์ นักศึกษาหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ https://orcid.org/0009-0007-1855-0579
  • เสาวณีย์ สิกขาบัณฑิต คณะคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ https://orcid.org/0009-0005-4374-4063
  • ปัญญา ธีระวิทยเลิศ คณะคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ, https://orcid.org/0009-0004-4110-4719

DOI:

https://doi.org/10.14456/iarj.2023.233

คำสำคัญ:

รูปแบบ; , การบริหารงานวิชาการ; , สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

บทคัดย่อ

การศึกษาจึงเป็นรากฐานสำคัญประการหนึ่งในการสร้างความเจริญก้าวหน้าและแก้ไขปัญหาต่างๆ ในสังคม เพราะการศึกษาเป็นกระบวนการที่ช่วยให้บุคคลพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ ให้ดำรงชีวิต และทำงานอย่างมีความสุข รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ร่วมกันเป็น พลังสร้างสรรค์พัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืน การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 ที่สร้างขึ้น โดยดำเนินการ 3 ขั้นตอน 1) ศึกษาสภาพการณ์ปัจจุบันและแนวทางของการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาโดยใช้แบบสอบถามเก็บข้อมูลจากผู้อำนวยการโรงเรียน รองผู้อำนวยการโรงเรียนฝ่ายวิชาการ และผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนฝ่ายวิชาการ หรือครูผู้รับผิดชอบ จำนวน 138 คน และใช้แบบสัมภาษณ์แบบกึ่งโครงสร้างสัมภาษณ์ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ได้รับรางวัลทรงคุณค่า สพฐ.“OBEC AWARDS” รางวัลเหรียญทอง ด้านบริหารจัดการ จำนวน 2 คน 2) การสร้างรูปแบบโดยการศึกษา วิเคราะห์ และสังเคราะห์เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผลการวิเคราะห์สภาพการณ์ทั่วไป และใช้แบบประเมินความเหมาะสมและความถูกต้องของร่างรูปแบบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารงานวิชาการ จำนวน 5 คน 3) นำรูปแบบและคู่มือการใช้รูปแบบไปทดลองใช้เป็นระยะเวลา 1 เดือน ในโรงเรียน 1 โรงเรียน โดยบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการทดลองใช้รูปแบบ จำนวน 12 คน และ ประเมินความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ของรูปแบบ จำนวน 30 คน ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพปัจจุบันการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 ทั้ง 7 ด้าน ในภาพรวมมีสภาพการบริหารอยู่ในระดับมากที่สุด 2) รูปแบบที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย 2 องค์ประกอบหลัก คือ องค์ประกอบที่ 1 ขอบข่ายการบริหารงานวิชาการ ประกอบด้วย 7 ด้าน คือ ด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ ด้านการวัดผล ประเมินผล ด้านการพัฒนาสื่อ แหล่งการเรียนรู้ นวัตกรรมและเทคโนโลยี ด้านการวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ด้านการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายใน และด้านการนิเทศการศึกษา โดยขับเคลื่อนด้วยองค์ประกอบที่ 2 กระบวนการบริหาร 4 ขั้นตอน คือ การวางแผน การจัดองค์การ การนำ และการควบคุม โดยภาพรวมพบว่า มีความถูกต้องและความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 3) ทดลองใช้และประเมินความเป็นไปได้และความเป็นประโยชน์ของรูปแบบที่พัฒนาขึ้นอยู่ในระดับมากที่สุด

เอกสารอ้างอิง

กมล ภู่ประเสริฐ. (2544). การบริหารงานวิชาการในสถานศึกษา. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์ทิปส์ พับพลิเคชั่น.

กรมวิชาการ. (2542). กระบวนการเรียนรู้ และยุทธศาสตร์การเรียนรู้. กรุงเทพฯ: เดอะมาสเตอร์กรุ๊ป แมนเนจเม้นท์ จำกัด.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2552ข). แนวทางปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ. กรุงเทพฯ: กระทรวงฯ.

กระทรวงศึกษาธิการ.(2552). คู่มือครูการปฏิบัติงานข้าราชการ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

กิติมา ปรีดีดิลก. (2532). การบริหารและการนิเทศการศึกษาเบื้องต้น. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์อักษรพิมพ์.

คัมภีร์ แอศิริ. (2553). การศึกษาการบริหารหลักสูตรจินตคณิตของสถานศึกษาระดับประถมศึกษา. ปริญญานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ชัยชนะ มิตรพันธ์. (2563). ปรับไลฟ์สไตล์ชีวิตใหม่รับ New Normal หลังวิกฤตโควิด-19. Retrieved on December 20, 2021, from: https://www.etda.or.th/content/new-normal-after- covid -19.html

ธงชัย สมบูรณ์. (2558). โลกหลังยุคใหม่: การศึกษาไทยที่ควรเป็น. Retrieved on December 20, 2021, from: http://www.edu.ru.ac.th/images/edu_pdf/thai_education.

ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์. (2553). การบริหารงานวิชาการ. กรุงเทพฯ: ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพ.

ยุวดี คุณสม. (2558). รูปแบบการบริหารงานวิชาการโรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษที่มีประสิทธิผล. วิทยานิพนธ์ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาบริหารการศึกษา. อุบลราชธานี: บัณฑิต- วิทยาลัย มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2. (2564). รายงานผลการดำเนินงานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 ประจำปี 2564. กรุงเทพฯ: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2.

รุ่งชัชดาพร เวหะชาติ. (2553). การบริหารงานวิชาการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. พิมพ์ครั้งที่ 4. สงขลา:บริษัท นำศิลป์โฆษณา จำกัด.

วาสนา ประวาลพฤกษ์. (2554). คู่มือการอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา เรื่องหลักการและเทคนิคการประเมินทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: บริษัท เดอะมาสเตอร์ กรุ๊ป แมเนจเมนท์ จำกัด.

วิลัดดา เรืองเจริญ. (2558). รูปแบบการบริหารงานวิชาการของโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 25. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต สาขาวิชา การบริหารการศึกษา. มหาสารคาม: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.

สดใส ศรีสวัสดิ์ สิทธิพร ประวัติรุ่งเรือง ขวัญหญิง ศรีประเสริฐภาพ .(2565). รูปแบบการบริหารงานวิชาการในศตวรรษที่ 21 ของโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร. วารสารรัชต์ภาคยุ์. 16(45),584-601.

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2. (2562). รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2562. Retrieved on December 20, 2021, from: http://www.newonetresult.niets.or.th/AnnouncementWeb/PDF/SummaryONETM3_2562.pdf

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2. (2564). รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2564. Retrieved on March 10, 2022, from https://www.niets.or.th/uploads/editor/files/O-NET/rapid%20report%20M3-2564.pdf

สำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2549). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 (2550-2554). กรุงเทพฯ: สำนักนายกรัฐมนตรี.

สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ. (2546). ทำเนียบสารสนเทศแหล่งเรียนรู้สำหรับประเทศไทย บทสรุปของผู้บริหาร. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การรับส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2542). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542. กรุงเทพฯ: บริษัทพริกหวานกราฟฟิค.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2543). ปฏิรูปการเรียนรู้ผู้เรียนสำคัญที่สุด. กรุงเทพฯ: บริษัทพิมพ์ดี

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน.(2550). แนวทางการกระจายอำนาจการบริหารและการจัดการศึกษาให้คณะกรรมการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาตามกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2549). แนวการปฏิบัติงานการจัดการศึกษาของสถานศึกษานิติบุคคล. กรุงเทพฯ: สำนักงานฯ.

สุบัน ประทุมทอง. (2561). รูปแบบการบริหารงานวิชาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียนประถมศึกษาในสังกัดสานักงานศึกษาธิการจังหวัดเลย. วิทยานิพนธ์ ปริญญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. กรุงเทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัย นอร์ทกรุงเทพ.

อราภรณ์ สมบูรณ์. (2557). การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 20. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษา มหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. มหาสารคาม: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัย มหาสารคาม

Cronbach, Lee J. (1970). Essentials of Psychological Testing. New York: Harper and Row Publishers.

Deming, W. E. (1995). Out of The Crisis. USA: The Massachusetts Institute of Technology Center for Advanced Engineering Study.

Dubrin Andrew J. (2000). Essentials of Management. 5th edition, New York: South-Western.

Faber, C.F., & Shearron, G.F. (1970). Elementary School Administration Theory and Practice. New York: Holt, Rinehart, and Winston

Gulick, L., & Urwick, L. (1937). Papers on the Science of Administration. Clifton: Augustus M. Kelley.

Krejcie, R.V., & Morgan, D.W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement. 30(3), 607-610.

Likert, R. (1961). New Patterns of Management. New York: McGraw-Hill.

Schermerhorn, J.R. (2002). Management. 7th edition, New York: John Wiley & Sons.

Sergiovanni, T.J., & et al. (1980). Educational Governance and Administration. New Jersey: Prentice-Hall, Inc.

Smith, E.W, & et al. (1969). The Education’s Encyclopedia. New Jersey, Englewood Cliff, NJ: Prentice-Hall.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-08-11

รูปแบบการอ้างอิง

สุขสุคนธ์ อ. ., สิกขาบัณฑิต เ. ., & ธีระวิทยเลิศ ป. . (2023). The รูปแบบการบริหารงานวิชาการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 3(4), 1009–1032. https://doi.org/10.14456/iarj.2023.233

ฉบับ

ประเภทบทความ

บทความวิชาการ