หลักธรรมาภิบาลสำหรับการใช้อำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547
DOI:
https://doi.org/10.60027/iarj.2023.270419คำสำคัญ:
หลักธรรมาภิบาล; , การใช้อำนาจ; , กรมสอบสวนคดีพิเศษบทคัดย่อ
ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: กรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมสังกัดกระทรวงยุติธรรม มีหน้าที่ในการสืบสวนและสอบสวนคดีพิเศษโดยดำเนินการแก่คดีที่มีความผิดทางอาญา รวมถึงหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามคดีอาญาที่มีผลกระทบต่อประชาชน ระบบเศรษฐกิจ และความมั่นคงของประเทศ ซึ่งในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายนั้น พระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ได้ให้อำนาจแก่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ผ่านทางบุคคล 4 กลุ่ม ประกอบด้วย คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่คดีพิเศษ และคณะกรรมการพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (กพศ.) ในการปฏิบัติหน้าที่ที่แตกต่างกัน มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยคือ เพื่อศึกษาและวิเคราะห์สภาวการณ์แห่งปัญหาและผลกระทบการใช้อำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ศึกษาและวิจัย หลักการ แนวคิด และทฤษฎี เกี่ยวกับหลักธรรมาภิบาลระหว่างประเทศ ต่างประเทศและของประเทศไทย ศึกษาและวิเคราะห์อำนาจและการใช้อำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ศึกษาและวิเคราะห์หลักธรรมาภิบาลที่เหมาะสมสำหรับการใช้อำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และเพื่อกำหนดหลักธรรมาภิบาลสำหรับการใช้อำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547
ระเบียบวิธีการวิจัย: แหล่งข้อมูลการวิจัยมีวิทยาการวิจัยในการเก็บรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ประกอบด้วย การวิจัยเอกสาร การสัมภาษณ์เชิงลึก การมีส่วนร่วมออกแบบ ร่วมออกแบบ
ผลการวิจัย: หลักธรรมาภิบาลที่เหมาะสมสำหรับการใช้อำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 โดยหลักธรรมาภิบาล มี 7 หลัก คือ หลักนิติธรรม (Rule of Law) หลักคุณธรรม (Morality) หลักความโปร่งใส (Transparency) หลักความคุ้มค่า(Economy) หลักการมีส่วนร่วม (Participation) หลักภาระความรับผิดชอบ (Accountability) และหลักความเป็นธรรมและความเสมอภาค (Equity) การใช้อำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษในฐานะเจ้าพนักงานของรัฐในกระบวนการยุติธรรม เป็นการใช้อำนาจรัฐที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิของประชาชนโดยตรง รวมถึงต่อผู้มีส่วนได้เสียที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐและหน่วยงานอื่นของรัฐที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจนั้นตามที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีปรากฏการณ์เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการเผยแพร่ทางสื่อมวลชนว่ามีหลายกรณีที่ประชาชนเกิดความสงสัยถึงการใช้อำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษว่าเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ถูกต้องเป็นธรรม และอยู่บนหลักนิติธรรมหรือไม่ การเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณชนด้วยการให้คำตอบต่อประชาชนทำอยู่บนพื้นฐานของอำนาจใด และได้ทำโดยครบถ้วนถูกต้องและโดยโปร่งใสและตรวจสอบได้หรือไม่ การใช้อำนาจของเจ้าพนักงานได้กระทำลงโดยยึดหลักความเสมอภาคและเป็นธรรมหรือไม่ ในทางตรงกันข้าม ประชาชนย่อมมีความคาดหวังว่าการปฏิบัติหน้าที่โดยใช้อำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ว่าต้องเป็นไปโดยสอดคล้องและปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลในด้านที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจนั้น ๆ เช่น หลักนิติธรรม หลักคุณธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักความคุ้มค่า หลักภาระรับผิดชอบ และหลักความเป็นธรรมและเสมอภาค ดังนั้น การกำหนดหลักธรรมาภิบาลสำหรับการใช้อำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 จะเป็นการผลักดันให้มีการนำเอาหลักธรรมาภิบาลไปกำหนดเป็นกฎหมายไว้ในกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษต่อไป ซึ่งประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายที่มีบทบัญญัติว่าด้วยหลักธรรมาภิบาลสำหรับการใช้อำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษซึ่งเท่ากับว่าประชาชนไม่มีหลักประกันในสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญไม่ว่าในฐานะประชาชนที่อาจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการใช้อำนาจของเจ้าพนักงานกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือในฐานะประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ว่าเจ้าพนักงานได้ปฏิบัติหน้าที่โดยใช้อำนาจถูกต้องและสอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาลซึ่งเป็นหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
สรุปผล: การกำหนดหลักธรรมาภิบาลสำหรับการใช้อำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ที่ได้จากการวิจัยนี้ จะนำไปสู่การเป็นหลักธรรมาภิบาลต้นแบบเพื่อให้กระทรวงยุติธรรมซึ่งมีอำนาจในการกำกับดูและตรวจสอบการใช้อำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษ นำไปใช้เป็นต้นแบบในการแก้ไข ปรับปรุงและนำเสนอต่อฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อออกเป็นกฎหมายเพื่อให้มีสภาพบังคับสำหรับการใช้อำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษตามพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ต่อไป ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อกระบวนการยุติธรรม สร้างมาตรฐานการใช้อำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษในกระบวนการยุติธรรมของประเทศ เพื่อยกระดับสู่การเป็นองค์กรสืบสวนสอบสวน ป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาญาร้ายแรงและคดีพิเศษให้ทัดเทียมกับองค์กรระหว่างประเทศ ก่อให้เกิดความสงบและความเป็นระเบียบเรียบร้อยในสังคม สร้างความมั่นคงให้กับสังคมและรัฐในที่สุด
References
เกรียงไกร เจริญธนาวัฒน์. (2556). หลักพื้นฐานกฎหมายมหาชน. กรุงเทพฯ: วิญญูชน.
ไชยวัฒน์ ค้ำชูและคณะ. ผู้แปล. (2545). ธรรมาภิบาล : การบริหารการปกครองที่โปร่งใสด้วยจริยธรรม. กรุงเทพฯ: น้ำฝน.
ไทยพับลิก้า กล้าพูดความจริง. (2560). ศาลวินิจฉัยการตายคดี “ธวัชชัย อนุกูล” อดีตเจ้าหน้าที่ที่ดินจังหวัดพังงา ระบุ “มีผู้อื่นทำให้เสียชีวิตในขณะถูกควบคุม. Retrieved October 11, 2022, from: https://www.thaipublica.org.
บรรเจิด สิงคะเนติ. (2542). หลักพื้นฐานสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
บวรศักดิ์ อุวรรณโณ. (2542). การสร้างธรรมาภิบาล (good governance) ในสังคมไทย. กรุงเทพฯ: วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
พนารัตน์ มาศฉมาดล. (2564) ธรรมาภิบาลในการบริหารงานภาครัฐตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560, กรุงเทพ: สถาบันพระปกเกล้า
พัชรี สิโรรส และคณะ. (2561) ธรรมาภิบาล: จากแนวคิดสู่การปฏิบัติในสังคมไทย . กรุงเทพฯ: สถาบันพระปกเกล้า.
วิภาส ทองสุทธิ์. (2551). การบริหารจัดการที่ดี. กรุงเทพฯ: อินทภาษ.
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย. (2561). “ธรรมาภิบาล”. Retrieved October 11, 2022, from http:// www.tdri.or.th.
สมศักดิ์ สามัคคีธรรม. (2561). ธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบทางสังคม . กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 Attanai Sairat, Achara Lertpornparsopchoke, Montree Numnam, Thammasak Senamitr

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ