การเปรียบเทียบความสามารถด้านความคล่องแคล่วว่องไวระหว่างนักกีฬาฟุตซอลกับนักกีฬาฟุตบอล คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬามหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

ผู้แต่ง

  • ธวัชชัย ไกรทองสุข คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี https://orcid.org/0009-0001-4854-0415
  • ปานรดา พชรสิทธางกูร คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี https://orcid.org/0009-0004-4907-6302
  • ธวัชชัย กาญจนะทวีกุล คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี https://orcid.org/0009-0007-1435-5143
  • ยุทธพิชัย ชาญเลขา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี https://orcid.org/0009-0002-8782-0353

DOI:

https://doi.org/10.14456/iarj.2023.253

คำสำคัญ:

ความสามารถทางด้านความความคล่องแคล่วว่องไว; , ทดสอบแบบตัว S; , ทดสอบแบบตัว Z

บทคัดย่อ

สมรรถภาพด้านความคล่องแคล่วว่องไวมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักกีฬาทุกชนิดโดยเฉพาะกีฬาฟุตซอลและฟุตบอลเพราะนักกีฬาฟุตซอลกับนักกีฬาฟุตบอลซึ่งต้องใช้ความสามารถด้านความคล่องแคล่วว่องไวในการหลบหลีกทีมฝั่งตรงข้าม หรือเลี้ยงลูกฟุตบอลและเปรียบเทียบเนื่องจากเป็นกีฬาที่คล้ายคลึงกัน บทความนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อทดสอบสมรรถภาพด้านความคล่องแคล่วว่องไวแบบเป็นตัว S และ Z ของนักฟุตซอลกับนักฟุตบอลของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี (2) เพื่อเปรียบเทียบสมรรถภาพด้านความคล่องแคล่วว่องไวแบบเป็นตัว S และ Z ของนักฟุตซอลกับนักฟุตบอลของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ระหว่างนักฟุตซอลกับนักฟุตบอล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็น นักกีฬาฟุตซอลและนักกีฬาฟุตบอลคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี จำนวน 30 คน โดยแบ่งเป็นนักกีฬาฟุตซอล 15 คนและนักกีฬาฟุตบอล 15 คน ที่มีช่วงอายุระหว่าง 18 – 24 ปี และมีประสบการณ์ในการเล่นกีฬามาเป็นระยะเวลา 5 ปีขึ้นไป เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบทดสอบความคล่องแคล่วว่องไว ซึ่งใช้การแบบทดสอบความคล่องแคล่วว่องไวแบบตัว S และ Z โดยจะทำการทดสอบอย่างละ 5 รอบ โดยนำทั้ง 5 รอบ มาวิเคราะห์หาข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและนำมาเปรียบเทียบโดยใช้ค่าสถิติ Independent ผลวิจัย พบว่า นักกีฬาทั้งหมดจำนวน 30 คน มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 10.30 (± 0.19) วินาที อยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งพบว่านักกีฬาคนที่ 2 ใช้เวลาในการทดสอบแบบตัว S ได้ดีที่สุดอยู่ที่ 9.19 (± 0.18) วินาที ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดีมาก และ นักกีฬาคนที่ 13 ใช้เวลาในการทดสอบแบบตัว S ได้แย่ที่สุดอยู่ที่ 11.09 (± 0.10) วินาที ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน และในการทดสอบความคล่องแคล่วว่องไวแบบเป็นตัว Z ผลการวิจัย พบว่า นักกีฬาจำนวน 30 คน มีค่าเฉลี่ยรวมอยู่ที่ 9.55 (± 0.18) วินาที อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ซี่งพบว่านักกีฬาคนที่ 29 ใช้เวลาในการทดสอบแบบตัว Z ได้ดีที่สุดอยู่ที่ 8.21 (±0.07) วินาที ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ดีมาก และ นักกีฬาคนที่ 23 ใช้เวลาในการทดสอบแบบตัว Z ได้แย่ที่สุดอยู่ที่ 10.86 (± 0.07) วินาที ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ต่ำ นอกจากนั้นยังพบว่า ในการเปรียบเทียบความสามารถทางด้านความคล่องแคล่วว่องไวระหว่างนักกีฬาฟุตซอลกับนักกีฬาฟุตบอลโดยแบ่งเป็นนักฟุตซอล 15 คนกับนักฟุตบอล 15 คน พบว่าจากผลการทดสอบสมรรถภาพด้านความคล่องแคล่วว่องไวแบบเป็นตัว S ซึ่งค่าเฉลี่ยรวมของนักกีฬาฟุตซอลใช้เวลาในการทดสอบ 10.05 วินาที ส่วนนักกีฬาฟุตบอลใช้เวลาในการทดสอบ 10.54 วินาที ทำให้ทราบว่านักฟุตซอลมีความคล่องแคล่วว่องไวมากกว่านักฟุตบอล เปรียบเทียบโดยใช้ค่าสถิติ Independent และพบว่า ในแบบทดสอบตัว S นักกีฬาฟุตซอลกับนักกีฬาฟุตบอลไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติอยู่ที่ .05 และ จากผลการทดสอบสมรรถภาพด้านความคล่องแคล่วว่องไวแบบเป็นตัว Z ซึ่งค่าเฉลี่ยรวมของนักกีฬาฟุตซอลใช้เวลาในการทดสอบ 9.40 วินาที ส่วนนักกีฬาฟุตบอลใช้เวลาในการทดสอบ 9.70 วินาที ทำให้ทราบว่านักฟุตซอลมีความคล่องแคล่วว่องไวมากกว่านักฟุตบอล เปรียบเทียบโดยใช้ค่าสถิติ Independent และพบว่าในแบบทดสอบตัว Z นักกีฬาฟุตซอลกับนักกีฬาฟุตบอลแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติอยู่ที่ .05

References

เสาวลักษณ์ ศิริปัญญา. (2550). ผลของการฝึกเชิงซ้อนแบบผสมผสานการฝึกด้วยน้ำหนักกับการเคลื่อนที่ลักษณะแรงระเบิดที่มีต่อสมรรถภาพของกล้ามเนื้อในนักกีฬาเซปักตะกร้อหญิงทีมชาติไทย. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

จุฑาวัฒน์ กำลังทวี. (2560). ผลของการฝึก เอส เอ คิว ที่มีต่อความคล่องแคล่วว่องไวของนักกีฬาแบดมินตัน. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (พลศึกษา); บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ชูศักดิ์ เวชแพศย์ และกันยา ปาละวิวัธน์. (2536). สรีรวิทยาของการออกกำลังกาย. พิมพ์ครั้งที่ 4: กรุงเทพฯ

นิพนธ์ กิติกุล. (2525). หลักการเล่นฟุตบอลสมัยใหม่. กรุงเทพฯ: พิทักษ์อักษร,

พชรพล บุญเรือน (2562). การศึกษาผลการฝึกการวิ่งรูปแบบตัว Z และตัว S ที่มีผลต่อความคล่องแคล่วว่องไวของนักกีฬาฟุตบอล. (ปริญญานิพนธ์. กศ.ม. (พลศึกษา)), บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ภัทรดล เพชรพลอยนิล. (2560). ผลการฝึกแบบผสมผสานที่มีต่อความคล่องแคล่วว่องไวและ ความเร็วของนักกีฬาฟุตบอลชาย. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (สุขศึกษาและพลศึกษา): มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

วิศาล ไหมวิจิตร. (2549). ผลการฝึกวิ่งรูปแบบตัว Z และตัว S ที่มีต่อความคล่องแคล่วว่องไว ของนักกีฬาฟุตซอลหญิง. ปริญญานิพนธ์วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต (วิทยาศาสตร์การกีฬา). บัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

ศิลปชัย สุวรรณธาดา. (2548). การเรียนรู้ ทักษะการเคลื่อนไหว ทฤษฎีและปฏิบัติการ. กรุงเทพฯ: สำนักวิชา วิทยาศาสตร์การกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

สุขสวัสดิ์ชนะพาล. (2550). ผลของการฝึกเสริมด้วยโปรแกรมการฝึกความคล่องแคล่วว่องไวที่มีต่อ ความสามารถในการเลี้ยงลูกฟุตบอลของนักกีฬาฟุตบอล อายุ 12-14 ปี. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย: ม.ป.ท

อุดม จอกรบ. (2545). ผลของการฝึกความอ่อนตัว และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่มีต่อความแม่นยำในการเตะลูกฟุตบอล. กรุงเทพมหานคร : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Carter V. Good. (1973). Dictionary of Education. New York: McGraw-Hill Book Company.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2023-10-11

How to Cite

ไกรทองสุข ธ., พชรสิทธางกูร ป. ., กาญจนะทวีกุล ธ. ., & ชาญเลขา ย. . (2023). การเปรียบเทียบความสามารถด้านความคล่องแคล่วว่องไวระหว่างนักกีฬาฟุตซอลกับนักกีฬาฟุตบอล คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬามหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 3(5), 271–284. https://doi.org/10.14456/iarj.2023.253