การสร้างแบบวัดความพร้อมในการทำงานของนักศึกษาอาชีวศึกษา

ผู้แต่ง

  • มาริสา แป้นเหมือน ภาควิชาการประเมินและการวิจัย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง https://orcid.org/0009-0001-8392-6348
  • พนิดา พานิชวัฒนะ ภาควิชาการประเมินและการวิจัย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง https://orcid.org/0009-0009-6618-2680
  • กมลทิพย์ ศรีหาเศษ ภาควิชาการประเมินและการวิจัย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง https://orcid.org/0000-0002-4381-6128

DOI:

https://doi.org/10.14456/iarj.2023.255

คำสำคัญ:

ความพร้อมในการทำงาน; , นักศึกษาอาชีวศึกษา; , แบบวัดความพร้อม

บทคัดย่อ

ความพร้อมในการทำงาน คือ ขีดความสามารถหรือศักยภาพของนักศึกษาอาชีวศึกษาเอกชน ที่จะทำงานหรือปฏิบัติงานในอนาคตได้ประสบความสำเร็จและบรรลุเป้าหมาย การที่จะระบุว่า นักศึกษามีความพร้อมในการทำงานมากน้อยเพียงใด และมีความพร้อมอยู่ในระดับใด จำเป็นต้องมีเครื่องมือเพื่อใช้ในวัดและประเมินความพร้อมในการทำงานของนักศึกษา ดังนั้นการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อสร้างและหาคุณภาพของแบบวัดความพร้อมในการทำงานของนักศึกษาอาชีวศึกษา และ 2) เพื่อสร้างเกณฑ์การแปลความหมายคะแนนของแบบวัดความพร้อมในการทำงานของนักศึกษาอาชีวศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักศึกษาสังกัดอาชีวศึกษาเอกชน จังหวัดระยอง จำนวน 1,145 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบวัดความพร้อมในการทำงานของนักศึกษาอาชีวศึกษา ซึ่งวัดองค์ประกอบ 4 ด้าน ตามแนวคิดของ Caballero ประกอบด้วย คุณลักษณะส่วนบุคคล ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับองค์กร ความสามารถในการทำงาน และความฉลาดทางสังคม การวิเคราะห์คุณภาพของแบบวัดความพร้อมในการทำงานของนักศึกษาอาชีวศึกษา ประกอบด้วย ความตรงเชิงเนื้อหาพิจารณาจากค่าความสอดคล้องระหว่างข้อคำถามกับวัตถุประสงค์ (IOC) ความตรงเชิงทฤษฎีโดยวิธีการเปรียบเทียบคะแนนระหว่างกลุ่มที่ทราบด้วยสถิติทดสอบ Independent sample t-test และความเที่ยงทั้งฉบับเท่ากับ 0.970 และรายองค์ประกอบมีค่าอยู่ระหว่าง 0.896-0.981 ด้วยวิธีการหาสัมประสิทธิ์แอลฟาครอนบาค การสร้างเกณฑ์การแปลความหมายคะแนนใช้คะแนนทีปกติ และแบ่งระดับตามแนวคิดของ Clark-Carter ผลการวิจัยพบว่า ด้านความตรงเชิงทฤษฎีโดยใช้วิธีการเปรียบเทียบคะแนนระหว่างกลุ่มที่ทราบ มีหลักฐานสนับสนุนว่าแบบวัดความพร้อมในการทำงานมีความตรงเชิงทฤษฎี (t=-4.831,p=0.000) และผลการสร้างเกณฑ์การแปลความหมายคะแนน แบบวัดมีคะแนนทีปกติตั้งแต่ T16.72 ถึง T74.81 (P0.05 – P99.34) โดยความพร้อมในการทำงานระดับสูงมีคะแนนทีปกติตั้งแต่ T56.78ขึ้นไป ความพร้อมในการทำงานระดับค่อนข้างสูงมีคะแนนทีปกติอยู่ระหว่าง T50.23 ถึง T56.44 ความพร้อมในการทำงานระดับค่อนข้างต่ำ มีคะแนนทีปกติอยู่ระหว่าง T43.57 ถึง T49.93 และความพร้อมในการทำงานระดับต่ำมีคะแนนทีปกติน้อยกว่า T43.57

References

ชาญณรงค์ ลักษณียนาวิน. (2558). การพัฒนาโลกเสมือนเพื่อเสริมสร้างทักษะที่จำเป็นของนักศึกษาอาชีวศึกษา. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต: มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์.

ปิยะธิดา วรญาโณปกรณ์. (2563). การพัฒนาตัวบ่งชี้และแนวทางการส่งเสริมจิตสาธารณะสำหรับนักเรียน ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นในเขตภาคตะวันออก. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต: มหาวิทยาลัยบูรพา.

มนัญญา หาญอาสา. (2560). การพัฒนาแบบวัดพฤติกรรมการติดอินเตอร์เน็ตสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 18. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต: มหาวิทยาลัยบูรพา.

รัชพล กลัดชื่น และจรัญ แสนราช. (2562). การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจความพึงพอใจของสถานประกอบการที่มีต่อนักศึกษาฝึกทักษะวิชาชีพระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์, 9(1), 47-55.

ศิริชัย กาญจนวาสี. (2556) ทฤษฎีการทดสอบแบบดั้งเดิม. พิมพ์ครั้งที่ 7. โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและกำลังคนอาชีวศึกษา. (2565). ข้อมูลนักเรียนนักศึกษา ปีการศึกษา 2565 สถานศึกษารัฐ และเอกชน รายสถานศึกษาจำแนกตามประเภทวิชา สาขาวิชา สาขางาน. Retrieved from: https://techno.vec.go.th

สมนึก ภัททิยธนี. (2553). การวัดผลการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 7. โรงพิมพ์ประสานการพิมพ์.

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2553). สถิติข้อมูลการศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. Retrieved from: http://techno.vec.go.th

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2560). แผนพัฒนาการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2560 – 2579. สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา.

สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. (2562). หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติการจัดการอาชีวศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพและระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง. วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี.

สุกัญญา พรน้อย. (2562). การพัฒนาตัวบ่งชี้ความปลอดภัยในโรงเรียนประถมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต: มหาวิทยาลัยบูรพา.

สุวิมล ติรกานันท์. (2551). การสร้างเครื่องมือวัดตัวแปรในการวิจัยทางสังคมศาสตร์:แนวทางสู่การปฏิบัติ. พิมพ์ครั้งที่ 2. โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

Caballero, C. L., Walker, A., & Fuller-Tyszkiewicz, M. (2011). The Work Readiness Scale (WRS): Developing a measure to assess work readiness in college graduates. Journal of Teaching and Learning for Graduate Employability, 2(1), 41-54.

Clark‐Carter, D. (2005). Percentiles. Encyclopedia of statistics in behavioral science.

Irwansyah, M. R., Meitriana, M. A., & Suwena, K. R. (2020). Student Work Readiness in Vocational High School. In 5th International Conference on Tourism, Economics, Accounting, Management and Social Science (TEAMS 2020) (pp. 285-290). Atlantis Press.

Ridho, A., & Siswanti, A. D. (2020). Future perspective and work readiness on students. Journal psikologi, 19(2), 201-211.10.14710/jp.19.2.201-210.

Yamane, T. (1973). Statistics: An Introductory Analysis. 3rd Edition, Harper and Row: New York.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2023-10-12

How to Cite

แป้นเหมือน ม., พานิชวัฒนะ พ. ., & ศรีหาเศษ ก. . (2023). การสร้างแบบวัดความพร้อมในการทำงานของนักศึกษาอาชีวศึกษา. Interdisciplinary Academic and Research Journal, 3(5), 301–314. https://doi.org/10.14456/iarj.2023.255