การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือร่วมกับโปรแกรม GeoGebra ที่ส่งเสริมการคิดเชิงพีชคณิตและระดับการคิดทางเรขาคณิต
DOI:
https://doi.org/10.14456/iarj.2023.272คำสำคัญ:
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ;, โปรแกรม GeoGebra; , การคิดเชิงพีชคณิต; , ระดับการคิดทางเรขาคณิตบทคัดย่อ
การส่งเสริมการจัดกิจกรรมทางการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ที่จะทำให้เกิดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ได้ดี เพื่อให้นักเรียนสามารถช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ร่วมกันแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการคิดเชิงพีชคณิตและระดับการคิดทางเรขาคณิตสำหรับนักเรียนนั้นมีความสำคัญมาก ดังนั้นการวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือร่วมกับโปรแกรม GeoGebra ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อศึกษาผลการศึกษาการคิดเชิงพีชคณิตและระดับการคิดทางเรขาคณิต 3) เพื่อเปรียบเทียบการคิดเชิงพีชคณิตและระดับการคิดทางเรขาคณิตกับเกณฑ์คะแนน 70 คะแนน 4) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือร่วมกับโปรแกรม GeoGebra 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือร่วมกับโปรแกรม GeoGebra กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวาปีปทุม จำนวนนักเรียน 39 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) กิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ร่วมกับโปรแกรม GeoGebra 2) แบบทดสอบการคิดเชิงพีชคณิตและระดับการคิดทางเรขาคณิต 3) แบบสอบถามความพอใจของนักเรียนที่เรียนรู้ด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ร่วมกับโปรแกรม GeoGebra สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า (1) การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ร่วมกับโปรแกรม GeoGebra มีประสิทธิภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เท่ากับ 74.00/76.25 (2) นักเรียนมีการคิดเชิงพีชคณิตมากที่สุดอยู่ในการตระหนักรู้องค์ประกอบ และสมบัติพื้นฐานคิดเป็นร้อยละ 94.87 และมีระดับการคิดทางเรขาคณิตมากที่สุดอยู่ในระดับที่ 0 คิดเป็นร้อยละ 100 (3) การคิดเชิงพีชคณิต และการคิดทางเรขาคณิต ของนักเรียนสูงกว่าเกณฑ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .05 คิดเป็นร้อยละ 85.50 และ 80.10 อยู่ในระดับดีเยี่ยม (4) ผลการศึกษาดัชนีประสิทธิผล ของกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ร่วมกับโปรแกรม GeoGebra คิดเป็นร้อยละ 73.65 (5) ความพึงพอใจของนักเรียนโดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ ร่วมกับโปรแกรม GeoGebra อยู่ในระดับมากที่สุด มีคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 4.59
References
กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2560). กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
กาญจนา สายสุรินทร์. (2561). การศึกษามโนทัศน์ของรูปสามเหลี่ยมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
ขวัญฤดี วินไธสง ประภาพร หนองหารพิทักษ์ และ ปวีณา ขันธ์ศิลา (2562). การพัฒนาและเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เศษส่วน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI. การประชุมวิชาการระดับชาติและนานาชาติมหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ครั้งที่ 1 ประจำปี 2562 “นวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ เพื่อความยั่งยืน” (ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 15 - 16 กรกฎาคม 2562): 442-453.
จันทรา ตันติพงศานุรักษ์. (2543). การจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative Learning). วารสารวิชาการ. 3(12), 36-55.
ชลธิชา สาชิน. (2543). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กลุ่มร่วมมือแบบ TAI เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์เรื่องพหุนาม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
ทวีพงษ์ ดีพันธ์. (2563). ผลการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง การคูณ โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค TAI สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2. ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้.มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์.
ปานทอง กุลนาถศิริ. (2546). ความสำคัญของคณิตศาสตร์. วารสารคณิตศาสตร์, 46(530-532), 11-15.
ฝ่ายวิชาการโรงเรียนวาปีปทุม. (2565). รายงานการดำเนินงานของฝ่ายวิชาการโรงเรียนวาปีปทุม. มหาสารคาม: โรงเรียนวาปีปทุม.
ยุพิน พิพิธกุล. (2545). การสอนคณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ: คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ศิริขวัญ พ่อค้า (2562). ผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ร่วมกับ โปรแกรม GeoGebra เรื่องเรขาคณิตวิเคราะห์ที่มีต่อความสามารถในการแก้ปัญหา. อุบลราชธานี: มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.
สถาบันทดสอบทางกาศึกษาแห่งชาติ(องค์การมหาชน). (2564). คู่มือการจัดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. กรุงเทพฯ: สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(องค์การมหาชน).
สถาบันทดสอบทางกาศึกษาแห่งชาติ(องค์การมหาชน. (2558). คู่มือการจัดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. กรุงเทพฯ: สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(องค์การมหาชน.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2545). คู่มือการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2548). เรขาคณิต. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์. สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.
สุชานันท์ จงนอก. (2563). ผลการใช้กิจกรรมการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง ร้อยละ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตามวิธีการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค TAI. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (คณิตศาสตรศึกษา): มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
อัศวรักษ์ ช่างอินทร์. (2559). การส่งเสริมความรู้สึกเชิงปริภูมิและการคิดทางเรขาคณิต เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แนวการสอนของแวน ฮีลี่ ร่วมกับโปรแกรมจีโอมิเตอร์สเก็ตชแพด. เชียงใหม่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
Goodman. R.I., Fletcher, K.A., & Schneider, E.W. (1980). The Effectiveness Index as a Comparative Measure in Media Product Evaluation. Educational Technology. 20(9), 30-34.
Moonpo, P., Inprasitha, M., & Changsri, N. (2018). Algebraic Reasoning in Early Grade: Promoting through Lesson Study and Open Approach. Psychology, 9, 1558-1569.
National Council of Teachers of Mathematics [NCTM]. (2000). Principles and standards for school mathematics. Reston, VA: National Council of Teachers of Mathematics.
Ozçaklr, B., Ozdemir, D., & Klymaz, Y. (2020). Effects of dynamic geometry software on students’ geometric thinking regarding the probability of giftedness in mathematics. Alanya Alaaddin Keykubat University.
Palovicova & Zahorska. (2015). The Attitudes of Students to the Geometry and The About Square. Peer review under the responsibility of Academic World Education and Research Center, 1907 - 1912.
Pierce, R., & Stacey, K. (2007). Developing algebraic insight. Mathematics Teaching Incorporating Micromath, 203. 12-16.
ST. Nuaisyah karim. (2017). The Effectiveness of TAI (Team-Assisted Reading Individualization) to Improve Students' Comprehension at the Second Grade of Senior High School 1 South Polongbnagkeng. Universitas Islam Negeri Alauddin Makassar. Tarbiyah and Teaching Science.
Tinungki, G.M. (2015). The Role of Cooperative Learning Type Teams Assisted Individualization to Improve The Student's Mathematics Communication Ability in the Subject of Probability Theory. Hasanuddin University Makassar. Mathematics and Natural Sciences Faculty.
Van de Walle, J.A., K.S. Karp and J.M. Bay-Williams. (2011). Elementary and Middle School Mathematics: Teaching Developmentally. 7th edition. New York: Pearson Education.
Van Hiele, P.M. (1984). A Child's Thought and Geometry. In English Translation of Selected Writings of Dina Van Hiele-Geldof and Pierre M. Van Hiele, edited by D. Fuys, D. Goddess, and R.W. Tischler, 1959/1985. Brooklyn: Brooklyn College.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 Bodeeson Anuchat, Ramnaree Nontapa

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ