ปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินงานตำบลจัดการสุขภาพตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ: กรณีศึกษาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา-2019 (COVID - 19)
DOI:
https://doi.org/10.14456/iarj.2023.183คำสำคัญ:
ตำบลจัดการสุขภาพ; , การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)บทคัดย่อ
สถานการณ์การดำเนินมาตรการการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับชุมชน ได้แก่ ตั้งด่านคัดกรองผู้เดินทางเข้า - ออกจังหวัด 4 จุด ตามรอยต่อจังหวัด คือ 1) จุดตรวจอำเภอปากคาด ณ บริเวณสามแยกไฟแดง (ปากคาด - โซ่พิสัย) 2) จุดตรวจอำเภอโซ่พิสัย ณ บริเวณหน้าองค์การบริหารส่วนตำบลโซ่พิสัย 3) จุดตรวจอำเภอเซกา ณ บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านท่ากกแดง 4) จุดตรวจอำเภอบึงโขงหลง ณ บริเวณสี่แยกตำบลดงบัง และจากสถานการณ์การเกิดโรคในผู้ป่วยรายใหม่ งานวิจัยเรื่อง ปัจจัยที่มีผลต่อการดำเนินงานตำบลจัดการสุขภาพ ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ มีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยพฤติกรรมการมีส่วนร่วมในการจัดการสุขภาพตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) เป็นการศึกษาวิจัยเชิงปริมาณ ผู้วิจัยได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยแบบสอบถาม จากประชากรกลุ่มตัวอย่างในเขตรับผิดชอบโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยนี้ใช้สูตรคำนวณของ ทาโร่ ยามาเน่ (Taro Yamane) ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ระดับความคลาดเคลื่อนร้อยละ 5 จำนวน 375 คน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อาสาสมัครสาธารณสุข ผู้นำชุมชน ตัวแทนท้องถิ่น ตัวแทนกองทุนสุขภาพ พระภิกษุ ครู ประชาชนทั่วไป สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ช่วงเวลาที่ดำเนินการวิจัยระหว่าง เดือน กันยายน 2564 ถึง เดือนสิงหาคม 2565 ผลการศึกษาวิจัยพบว่า การบริหารจัดการสถานการณ์มีความต่อเนื่องประชาชนให้ความสำคัญต่อมาตรการของจังหวัดบึงกาฬ มีความมั่นใจต่อการบริหารจัดการเพื่อป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) ในระดับมากที่สุด 4.73 มีขวัญกำลังใจในการร่วมเผชิญสถานการณ์การแพร่ระบาดในระดับมากที่สุด 4.68 พฤติกรรมการล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดหรือใช้เจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ ในระดับมาก 4.80 การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า หลีกเลี่ยงไปสถานที่ที่มีคนจำนวนมาก รักษาระยะห่างระหว่างบุคคลในระดับมากที่สุด 3.83 ผู้คนปฏิบัติอยู่ในระดับมาก ในการหลีกเลี่ยงการร่วมรับประทานอาหารกับผู้อื่น สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่อมีคนมาหาที่บ้านออกนอกบ้านเท่าที่จำเป็นระดับมาก 4.47 มีส่วนร่วมในการกำหนดวางแผน ตัดสินใจ มาตรการการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดในระดับปานกลาง มีส่วนร่วมในการดำเนินงานระดับมาก ร้อยละ 29.9 รองลงมาระดับมากที่สุดร้อยละ 21.9 มีส่วนร่วมในการประเมินผลระดับปานกลาง ร้อยละ 17.3 และมีความภาคภูมิใจในการมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระดับมากที่สุด ร้อยละ 57.8
เอกสารอ้างอิง
กรมควบคุมโรค. (2564). โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19). Retrieved on August 27, 2022, from: https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/faq_more.php.
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2563). คู่มือการปฏิบัติสำหรับสถานศึกษาในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19. กรุงเทพฯ: กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. E-BOOK: HTTPS://ONLINE.ANYFLIP.COM/LQQYT/UWJU/MOBILE/INDEX.HTML
กฤตยากร แปงกลาง. (2563). พฤติกรรมการป้องกันตนเองจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี. รายงานการวิจัยรายวิชา 463 401 การวิจัยรายบุคคล ภาควิชาจิตวิทยาและการแนะแนว คณะศึกษาศาสตร์: มหาวิทยาลัยศิลปากร
เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์. (2546). ภาพอนาคตและคุณลักษณะของคนไทยที่พึงประสงค์. กรุงเทพฯ : สำนักงานคณะกรรมกำรกำรศึกษาแห่งชาติ.
งานโรคติดต่ออุบัติใหม่ กลุ่มพัฒนาวิชาการโรคติดต่อ กองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวง สาธารณสุข. (2564). สถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) มาตรการสาธารณสุข และปัญหาอุปสรรคการป้องกันควบคุมโรคในผู้เดินทาง. RETRIEVED DECEMBER 5, 2022, FROM http://odpc9.ddc.moph.go.th/EOC/Content/2564.pdf
เจริญชัย เอกมาไพศาล. (2564). ผลกระทบและการปรับตัว (Resilience) ของผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและธุรกิจร้านอาหารช่วงโควิด-19: วิเคราะห์จากหลักคิด Outside-In. โครงการวิจัยภายใต้โครงการวิจัยเรื่อง การสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจต่อแรงงานที่เคลื่อนย้ายกลับสู่ท้องถิ่นในภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการภายใต้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (โปรแกรม 17 การแก้ปัญหาวิกฤติของประเทศ โครงการริเริ่มพิเศษและเร่งด่วนเพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประเทศ ประเด็นเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019) ทุนวิจัย วช. ปี 2564.
ปราโมชย์ เลิศขามป้อม มโน มณีฉาย และธีระ วรธนารัตน์. (2557). การวิจัยประเมินผลการดำเนินงานเครือข่ายสุขภาพระดับอำเภอ จังหวัดตาก ปีงบประมาณ 2557 โครงการพัฒนานักวิจัยเขตสุขภาพประจำปี 2557. สนับสนุนโดยสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข. กรุงเทพฯ: สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตโต) (2540). หลักทั่วไปของพุทธศาสตร์. กรุงเทพฯ : ธรรมสภา.
วิญญ์ทัญญู บุญทัน และคณะ. (2563). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการสร้างเสริมสุขภาพในการป้องกันการติดเชื้อโคโรนา 2019(โควิด 19) ของผู้สูงอายุ. รายงานวิจัย, มหาวิทยาลัยหัวเฉียว เฉลิมพระเกียรติ.
วิโรจน์ อารีย์กุล. (2553). การดูแลสุขภาพและการให้คำแนะนำวัยรุ่น. (พิมพ์ครั้งที่ 6). กรุงเทพฯ:กองทุนกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า.
ศาลากลางจังหวัดบึงกาฬ. (2564) กำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในจังหวัดบึงกาฬ(เพิ่มเติม). คำสั่งจังหวัดบึงกาฬที่ 2527/2564 สั่ง ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2564
ศุภัคชญา ภวังค์คะรัต, สมภพ อาจชนะศึก, ปิยะณัฐ นามชู. (2563). การศึกษาสถานการณ์การเฝ้า ระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโรนา 2019 ในชุมชน โดยอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน. รายงานวิจัยกองสนับสนุนสุขภาพภาคประชาชน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
Cohen, J.M., & Uphoff, N.T. (1981). Rural Development Participation: Concept and Measure for Project Design Implementation and Evaluation: Rural Development Committee Center for International Studies. New York: Cornell University Press
Erwin, W. (1976). Participation Management: Concept Theory and Implementation. Atianta Ga: Georgia State University.
Gulati, R. (2009), Reorganize for Resilience: Putting Customers at the Center of Your Organization. Cambridge: Harvard Business Press.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2023 Boonlom Parsawai

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ





