การส่งเสริมมารยามไทยด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทบาทสมมุติร่วมกับวิดีโอสตรีมมิ่ง : โรงเรียนบ้านหัวนา
DOI:
https://doi.org/10.14456/iarj.2023.54คำสำคัญ:
มารยาทไทย; , บทบาทสมมุติ; , วิดีโอสตรีมมิ่งบทคัดย่อ
มารยาทไทยเป็นวัฒนธรรมทางสังคมที่ทุกคนจะต้องยึดเป็นหลักประพฤติปฏิบัติเพื่อปรับตัวให้เข้ากับสังคมได้ มารยาทเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต เป็นมรดกทางวัฒนธรรม มารยาทไทยเป็นส่วนหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญงอกงามและแสดงความเป็นระเบียบแบบแผน ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรม อย่างไรก็ตามการเรียนรู้โดยการใช้บทบาทสมมุติ คือ กระบวนการที่ผู้สอนใช้ในการช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด โดยการให้ผู้เรียนสวมบทบาทในสถานการณ์จำลองซึ่งมีความใกล้เคียงกับความเป็นจริงและแสดงออกตามความรู้สึกนึกคิดของตน ดังนั้นการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการส่งเสริมมารยามไทยด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทบาทสมมุติร่วมกับวิดีโอสตรีมมิ่ง สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี่ที่ 6 โรงเรียนบ้านหัวนา กลุ่มเป้าหมายคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านหัวนา จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 22 คน ซึ่งคัดมาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือในการวิจัย1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยการจัดการเรียนรู้ วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง วัฒนธรรมในสังคมไทย ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหัวนา 2) แบบบันทึกอนุทิน 3) แบบสังเกตพฤติกรรมมารยาทไทย ผลการวิจัยพบว่า (1) ผลการส่งเสริมมารยาทไทยด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้บทบาทสมมุติ ร่วมกับวิดีโอสตรีมมิ่งนั้นประกอบด้วย 7 ขั้นตอนได้แก่ 1) ขั้นนำเสนอสถานการณ์สมมุติ 2) ขั้นเลือกผู้แสดงบทบาท 3) ขั้นเตรียมสังเกตการณ์ 4) ขั้นแสดงบทบาทสมมุติ 5) ขั้นอภิปราย 6) ขั้นสรุปการ และ7) ขั้นประเมินผล และ การวิเคราะห์ข้อมูล โดยรวมระดับพฤติกรรมมารยาทการเดิน การยืน การนั่ง การนอน มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.06 ระดับคุณภาพพอใช้ (2) ผลการวิเคราะห์แบบสังเกตพฤติกรรมมารยาทไทย โดยรวมระดับพฤติกรรมมารยาทการรับและส่งของ การรับประทานอาหาร การแสดงความเคารพ มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.44 ระดับคุณภาพพอใช้ (3) ผลการวิเคราะห์แบบสังเกตพฤติกรรมมารยาทไทย โดยรวมระดับพฤติกรรมมารยาทการทักทาย การสนทนา การใช้คำพูด มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.97 ระดับคุณภาพดี
References
ทิศนา แขมมณี. (2550). ศาสตร์การสอน . องค์ความรู้ เพื่อการจัดการกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
บุญส่ง นิลแก้ว (2541). วิจัยทางการศึกษา. คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
พิมพ์ชนก ฟุ้งสิริรัตน์. (2563). การตัดสินใจตลาดสตรีมมิ่งวิดีโอสตรีมมิ่งการวิเคราะห์คอนจอยท์. the 3rd BAs National Conference 2021 "Business Transformation: Social Challenges”.
รวินันท์ ฤทัยปิติเสรีวงศ. (2558). การปลูกฝังมารยาทไทยด้วยการปฏิบัติจริงของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 นักเรียนโรงเรียนอัสสัมชัญแผนกประถม. Bangkok: Assumption College Primary Section
วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง และ รัชนี วนาพิทักษ์วงศ์ (2558). การพัฒนามารยาทไทย ด้านการยิ้ม และการไหว้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์”. การประชุมหาดใหญ่วิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 6 26 มิถุนายน 2558 มหาวิทยาลัยหาดใหญ่, 1185-1195.
ศราวุธ ทองศรีคำ.(2561). รสนิยมของผู้ชมสตรีมมิ่ง. วารสารอาศรมวัฒนธรรมวลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์.18 (2),75-94.
อรนุช พวงทอง. (2560). การพัฒนาหนังสืออ่านเพิ่มเติม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชุดมารยาทไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 . ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต : มหาวิทยาลัยนเรศวร
อาภรณ์ ใจเที่ยง. (2550). หลักการสอน. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์.
อิงอร รอดน้อย. (2551). พฤติกรรมการแสดงมารยาทไทยทีÉพึงประสงค์ของเด็กปฐมวัยโดยการจัด กิจกรรมการเล่านิทานประกอบการฝึกปฏิบัติจริง.วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
Phra Brahmagunabhorn (P.A. Payutto). (2008). Dictionary of Buddhist. 12th edition. Bangkok: Mahachulalongkorn University.
Phradhammapidok (P.A. Payutto). (1999). BuddhaDhamma. 8th edition. Bangkok: MCU Press.
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 ณัฐพล นนทสิงห์, วณิชา สาคร, ทรงศักดิ์ สองสนิท

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์ในบทความใดๆ ใน Interdisciplinary Academic and Research Journal ยังคงเป็นของผู้เขียนภายใต้ ภายใต้ Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License การอนุญาตให้ใช้ข้อความ เนื้อหา รูปภาพ ฯลฯ ของสิ่งพิมพ์ ผู้ใช้ใดๆ เพื่ออ่าน ดาวน์โหลด คัดลอก แจกจ่าย พิมพ์ ค้นหา หรือลิงก์ไปยังบทความฉบับเต็ม รวบรวมข้อมูลเพื่อจัดทำดัชนี ส่งต่อเป็นข้อมูลไปยังซอฟต์แวร์ หรือใช้เพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายอื่นใด แต่ห้ามนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์หรือด้วยเจตนาที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจใดๆ