ปัจจัยที่ส่งผลต่อการจัดการความเสี่ยงด้านการผลิตจากอุทกภัยของโรงงานอุตสาหกรรมในเขตภาคกลางตอนบน
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่ส่งผลต่อการจัดการความเสี่ยงด้านการผลิตจากอุทกภัยของโรงงานอุตสาหกรรมในเขตภาคกลางตอนบน ใช้วิธีวิจัยแบบเชิงปริมาณ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ โรงงานอุตสาหกรรมในเขตภาคกลางตอนบน จำนวน 297 โรงงาน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า ปัจจัยการบริหารจัดการ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.72 ซึ่งพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านกิจกรรมควบคุม และด้านการติดตามประเมินผล มีค่าเฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 4.74 และด้านการจัดการและตอบโต้ความเสี่ยง มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดมีค่าเท่ากับ 4.70
ผลการทดสอบสมมติฐาน พบว่า ปัจจัยจังหวัดที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรม ปัจจัยประเภทอุตสาหกรรม ปัจจัยจำนวนปีที่ดำเนินธุรกิจ โดยรวมและทุกปัจจัยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ในส่วนปัจจัยพื้นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรม และจำนวนพนักงานในโรงงานอุตสาหกรรม พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีพื้นที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมและจำนวนพนักงานในโรงงานอุตสาหกรรมต่างกันมีการจัดการความเสี่ยงด้านการผลิต โดยรวมและทุกด้านแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
ผลการทดสอบสมมติฐานโดยการวิเคราะห์การถอดถอยพหุคูณ พบว่า ด้านกลยุทธ์องค์กร (X1) ด้านโครงสร้างองค์กร (X2) ด้านรูปแบบการบริหาร (X3) ด้านระบบการปฏิบัติงาน (X4) ด้านบุคลากร (X5) ด้านทักษะความสามารถ (X6) ด้านค่านิยมร่วม (X7) สามารถพยากรณ์การจัดการความเสี่ยงด้านการผลิตจากอุทกภัยของโรงงานอุตสาหกรรมในเขตภาคกลางตอนบน ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 โดยสามารถนำเสนอในรูปสมการได้ดังนี้ Ŷ=-.081+.312 X1 ด้านกลยุทธ์องค์กร +.054 X2 ด้านโครงสร้างองค์กร +.102 X3 ด้านรูปแบบการบริหาร +.169 X4 ด้านระบบการปฏิบัติงาน -.072 X5 ด้านบุคลากร +.028 X6 ด้านทักษะความสามารถ +.392 X7ด้านค่านิยมร่วม
Article Details
เอกสารอ้างอิง
กรมโรงงานอุตสาหกรรม. (2556). แนวทางปฏิบัติในการป้องกันอุทกภัยในโรงงานอุตสาหกรรม. ค้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2563, จาก http://www.diw.go.th
นรีนุช ดำรงชัย. (2560). บทเรียนจากญี่ปุ่น: ปัจจัยสำคัญในการบริหารจัดการเพื่อความอยู่รอดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ. วารสารการจัดการสมัยใหม่, 15(2) กรกฎาคม–ธันวาคม 2560: 1–15.
ลิขิต น้อยจ่ายสิน. (2557). เทคโนโลยีภูมิสารสนเทศเพื่อศึกษาภัยพิบัติทางธรรมชาติในประเทศไทย. วารสารวิทยาศาสตร์บูรพา. 19(2): 179-188.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2563). แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ. ค้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2563, จาก http://www.nesdc.go.th
Committee of Sponsoring Organization of the Treadway Commission. (2004). Enterprise Risk Management-Integrated Framework: Executive Summary. Retrieved on 19th August 2020, from https://www.coso.org/Documents/COSO-ERM-ExecutiveSummary.pdf
Krejcie, R. and Morgan, D. (1970) Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30: 607-610.