แนวทางการลดภาวะโภชนาการเกินของนักเรียนโรงเรียนจิตรลดา สายวิชาชีพ
##plugins.themes.bootstrap3.article.sidebar##
##plugins.themes.bootstrap3.article.main##
摘要
งานวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบพฤติกรรมการบริโภคอาหาร ความรู้เกี่ยวกับการบริโภคอาหาร ทัศนคติต่อการบริโภคอาหารของนักเรียนโรงเรียนจิตรลดา (สายวิชาชีพ) จำแนกตามเพศและระดับค่าดัชนีมวลกาย (BMI) และจัดทำแนวทางการลดภาวะโภชนาการเกินโดยศึกษากับนักเรียนในโรงเรียนจิตรลดา สายวิชาชีพ จังหวัดกรุงเทพมหานคร ภาคเรียนที่ 1/2559 ที่มีภาวะโภชนาการเกิน จำนวน 143 คน ใช้วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเฉพาะเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแนวทางการลดภาวะโภชนาการเกินที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้นได้มีการตรวจสอบความเป็นปรนัย (Validity) ความน่าเชื่อถือ (Reliability) จากผู้เชี่ยวชาญ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ (percentage) ค่าเฉลี่ย (mean) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) และเปรียบเทียบโดยการทดสอบค่าที (t - test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One - way ANOVA) ที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการวิจัยพบว่า นักเรียนโรงเรียนจิตรลดา สายวิชาชีพ ที่มีภาวะโภชนาการเกินมีพฤติกรรมการบริโภคอาหารอยู่ในระดับดี มีทัศนคติต่อการบริโภคอาหารอยู่ในระดับเฉย ๆ ไม่แน่ใจ และความรู้ต่อการบริโภคอาหารส่วนใหญ่อยู่ในระดับดี ส่วนการเปรียบเทียบพฤติกรรมการบริโภคอาหาร ทัศนคติต่อการบริโภคอาหาร และความรู้ต่อการบริโภคอาหารจำแนกตามเพศ และระดับค่าดัชนีมวลกาย พบว่า เพศหญิงมีความรู้ต่อการบริโภคอาหารสูงกว่าเพศชายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นอกนั้นไม่แตกต่างกัน สำหรับแนวทางการลดภาวะโภชนาการเกินของนักเรียนโรงเรียนจิตรลดา สายวิชาชีพ ส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าควรจะมีการจัดกิจกรรมการบริโภคจึงต้องให้เกิดการมีส่วนร่วมและความร่วมมือของนักเรียนที่มีโภชนาการเกิน เช่น การจัดทำโปสเตอร์และแผ่นพับ
##plugins.themes.bootstrap3.article.details##
参考
เครือวัลย์ ปาวิลัย. (2550). ปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคอาหาร ของนักเรียนที่มีภาวะโภชนาการเกินเกณฑ์มาตรฐาน ในนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา (บางเขน). วิทยานิพนธ์ปริญญาโท. (ภาควิชาพลศึกษา). บัณฑิตวิทยาลัย. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
จรรจา สุวรรณทัต. (2526). ความเชื่อเกี่ยวกับการอบรมเลี้ยงดูเด็ก. ใน เอกสารการสอนชุดวิชา พัฒนาการเด็กและการเลี้ยงดู. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ณปภา หอมหวล. (2549). ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อภาวะโภชนาการของเด็กนักเรียนในอำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี. วิทยานิพนธ์ปริญญาโท. (สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์เพื่อพัฒนาชุมชน). คณะศึกษาศาสตร์. มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
ณัฐวรรณ เชาวน์ลิลิตกุล. (2552). แนวทางการดำเนินงานเฝ้าระวังการเจริญเติบโตของเด็กอายุ 6-18 ปี. กองโภชนาการ กรมอนามัย, กรุงเทพมหานคร.
ปราชญ์ บุญยวงศ์วิโรจน์. (2551). เด็ก-วัยรุ่นไทยเผชิญภัยอ้วน. เดลินิวส์. หน้า 1. 24 พฤศจิกายน 2551
พุทธชาด นาคเรือง. (2541). การศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคอาหารของนักเรียนระดับประถมศึกษาที่มีภาวะโภชนาการเกินมาตรฐาน ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาสุขศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ไพจิตร์ วราชิต. (2553). ผลสำรวจสุขภาพเผย คนอ้วนมากขึ้น แถมออกกำลังกายลดลง. ค้นเมื่อ 7 พฤศจิกายน 2554, http://www.thaihealth.or.th/Content/5052
เรณู พุกบุญมี. (2540). เด็กวัยรุ่นป่วยเรื้อรัง: ผลกระทบต่อความสามารถในการพึ่งตนเอง. รามาธิบดีพยาบาลสาร. ปีที่ 3 ฉบับที่ 1, หน้า 103-119.
Boonyawongwirot, P. (2008). Thai Adolescents Face Obesity. Dailynews. P.1. 24 November, 2008. (in Thai)
Chaolilitkul, N. (2009). Developmental Surveillance and Promotion Guidelines of 6-18-year-old Children. Bureau of Nutrition. Department of Health. Bangkok. (in Thai)
Department of Health, Misistry of Public Health. (2015). Nutritional Status in Thailand. Retrieved October 10, 2015, from http://www.anamia.moph.go.th (in Thai)
Homhual, N. (2006). Factors Affecting Nutritional Levels of School Children in Muang, Phetchaburi. Master's Thesis. Program in Home Economics for Community Development. Faculty of Education. Ramkhamhaeng University. (in Thai)
Nakraung, P. (1998). A Study of Factors Affecting Food Consumption Behaviors of Over Weight Students in Elementary Schools under the Jurisdiction of Bangkok Metropolis. Master's Thesis. Program in Health Education. Chulalongkorn University. (in Thai)
Pawilai, K. (2007). Factors Affecting Food Consumption Behaviors Over Nutritional Status Grade 4-6 Students of Kasetsart University Laboratory School Center for Educational Research and Development (Bangkhen). Master's Thesis. Department of Physical Education. Graduate School. Kasetsart University. (in Thai)
Pookboonmee, R. (1997). Chronically Ill Adolescents: Impact on Self-care. Ramathibodi Nursing Journal. Vol.3 No.1 P.103-119. (in Thai)
Suwannathat, J. (1983). Parenting Beliefs. Teaching Publications: Child Care and Development. Bangkok: Sukhothai Thammathirat Open University. (in Thai)
Warachit, P. (2010). Health Survey Results Reveal More Obesity People and Less Workout. Retrieved November 7, 2011, from http://www.thaihealth.or.th/ Content/5052 (in Thai)
