การใช้ข้อมูลงบการเงินเพื่อวิเคราะห์ให้สินเชื่อแก่ธุรกิจขนาดกลาง กรณีศึกษา ธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง

Main Article Content

รุ่งทิวา ชุ่มเชย
สุนทรีย์ ตั้งศรีวงศ์

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความสำคัญของการใช้ข้อมูลงบการเงินเพื่อวิเคราะห์การให้สินเชื่อธุรกิจ และ 2) เปรียบเทียบการใช้ข้อมูลงบการเงินเพื่อวิเคราะห์การให้สินเชื่อธุรกิจ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 149 คน คือ เจ้าหน้าที่สินเชื่อผู้ปฏิบัติงานด้านสินเชื่อประจำสำนักงานธุรกิจ สังกัด กลุ่มธุรกิจขนาดกลางภาคเหนือ ที่ทำหน้าที่ดูแลลูกค้าสินเชื่อธุรกิจในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งประกอบด้วยสำนักงานธุรกิจขนาดกลาง Size M จำนวน 72 คน และสำนักงานธุรกิจขนาดกลาง Size L จำนวน 77 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามที่มีค่าความเชื่อมั่นระหว่าง 0.50-1.00 และค่าความเที่ยง=0.96 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบที


ผลการวิจัย พบว่า 1) เจ้าหน้าที่สินเชื่อผู้ปฏิบัติงานด้านสินเชื่อประจำสำนักงานธุรกิจขนาดกลาง Size M ให้ความสำคัญของการใช้ข้อมูลงบการเงินเพื่อวิเคราะห์การให้สินเชื่อธุรกิจ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยให้ความสำคัญมากที่สุด คือการนำงบการเงินมาใช้เพื่อวิเคราะห์การให้สินเชื่อธุรกิจ และน้อยที่สุด คืออัตราส่วนที่ใช้วัดผลตอบแทนของกิจการ สำหรับเจ้าหน้าที่สินเชื่อผู้ปฏิบัติงานด้านสินเชื่อประจำสำนักงานธุรกิจขนาดกลาง Size L ให้ความสำคัญของการใช้ข้อมูลงบการเงินเพื่อวิเคราะห์การให้สินเชื่อธุรกิจ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยให้ความสำคัญมากที่สุด คือ อัตราส่วนที่ใช้วัดสถานภาพเงินสดในมือ และ น้อยที่สุด คือ ความสำคัญของความถี่ในการเปลี่ยนผู้สอบบัญชีรับอนุญาต 2) ผลการเปรียบเทียบการใช้ข้อมูลงบการเงินเพื่อวิเคราะห์การให้สินเชื่อธุรกิจของเจ้าหน้าที่สินเชื่อผู้ปฏิบัติงานด้านสินเชื่อประจำสำนักงานธุรกิจขนาดกลาง Size M และเจ้าหน้าที่สินเชื่อผู้ปฏิบัติงานด้านสินเชื่อประจำสำนักงานธุรกิจขนาดกลาง Size L ให้ความสำคัญกับความถี่ในการเปลี่ยนผู้สอบบัญชีรับอนุญาต การวัดประสิทธิภาพการดำเนินงาน การวัดผลตอบแทนของกิจการ และ การวัดสถานภาพเงินสดในมือ ที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ชุ่มเชย ร. ., & ตั้งศรีวงศ์ ส. (2024). การใช้ข้อมูลงบการเงินเพื่อวิเคราะห์ให้สินเชื่อแก่ธุรกิจขนาดกลาง กรณีศึกษา ธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์, 10(3), 123–140. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/rpu/article/view/284766
ประเภทบทความ
บทความวิจัย
ประวัติผู้แต่ง

สุนทรีย์ ตั้งศรีวงศ์

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความสำคัญของการใช้ข้อมูลงบการเงินเพื่อวิเคราะห์การให้สินเชื่อธุรกิจ และ 2) เปรียบเทียบการใช้ข้อมูลงบการเงินเพื่อวิเคราะห์การให้สินเชื่อธุรกิจ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 149 คน คือ เจ้าหน้าที่สินเชื่อผู้ปฏิบัติงานด้านสินเชื่อประจำสำนักงานธุรกิจ สังกัด กลุ่มธุรกิจขนาดกลางภาคเหนือ ที่ทำหน้าที่ดูแลลูกค้าสินเชื่อธุรกิจในเขตพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งประกอบด้วยสำนักงานธุรกิจขนาดกลาง Size M จำนวน 72 คน และสำนักงานธุรกิจขนาดกลาง Size L จำนวน 77 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามที่มีค่าความเชื่อมั่นระหว่าง 0.50-1.00 และค่าความเที่ยง=0.96 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบที

ผลการวิจัย พบว่า 1) เจ้าหน้าที่สินเชื่อผู้ปฏิบัติงานด้านสินเชื่อประจำสำนักงานธุรกิจขนาดกลาง Size M ให้ความสำคัญของการใช้ข้อมูลงบการเงินเพื่อวิเคราะห์การให้สินเชื่อธุรกิจ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยให้ความสำคัญมากที่สุด คือการนำงบการเงินมาใช้เพื่อวิเคราะห์การให้สินเชื่อธุรกิจ และน้อยที่สุด คืออัตราส่วนที่ใช้วัดผลตอบแทนของกิจการ สำหรับเจ้าหน้าที่สินเชื่อผู้ปฏิบัติงานด้านสินเชื่อประจำสำนักงานธุรกิจขนาดกลาง Size L ให้ความสำคัญของการใช้ข้อมูลงบการเงินเพื่อวิเคราะห์การให้สินเชื่อธุรกิจ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยให้ความสำคัญมากที่สุด คือ อัตราส่วนที่ใช้วัดสถานภาพเงินสดในมือ และ น้อยที่สุด คือ ความสำคัญของความถี่ในการเปลี่ยนผู้สอบบัญชีรับอนุญาต 2) ผลการเปรียบเทียบการใช้ข้อมูลงบการเงินเพื่อวิเคราะห์การให้สินเชื่อธุรกิจของเจ้าหน้าที่สินเชื่อผู้ปฏิบัติงานด้านสินเชื่อประจำสำนักงานธุรกิจขนาดกลาง Size M และเจ้าหน้าที่สินเชื่อผู้ปฏิบัติงานด้านสินเชื่อประจำสำนักงานธุรกิจขนาดกลาง Size L ให้ความสำคัญกับความถี่ในการเปลี่ยนผู้สอบบัญชีรับอนุญาต การวัดประสิทธิภาพการดำเนินงาน การวัดผลตอบแทนของกิจการ และ การวัดสถานภาพเงินสดในมือ ที่แตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

เอกสารอ้างอิง

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า. (2561). พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. ๒๕๔๓.ค้นเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2565,จาก https://www.dbd.go.th/download/PDF_law/acc_prb2543.pdf.

เฉลิมขวัญ ครุธบุญยงค์. (2554). การวิเคราะห์รายงานทางการเงิน. กรุงเทพฯ: ซีเอ็ดยูเคชั่น.

ชุดาภา ผิวเผือก. (2562). ปัจจัยที่ใช้ในการวิเคราะห์สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทย.

สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบัญชี มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.

ณัฐริณี ศิวะพรประสงค์. (2561). ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราส่วนทางการเงินกับราคาหลักทรัพย์ ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย SET 100 กลุ่มอุตสาหกรรม อสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง. สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบัญชี. มหาวิทยาลัยศรีปทุม.

ดารณี พุทธวิบูลย์. (2558). การจัดการสินเชื่อ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (2565.) Financial Ststement Analysis. ค้นเมื่อวันที่ 16 กันยาย 2565,

จาก https://classic.set.or.th/dat/vdoArticle/attachFile/AttachFile_1472551305959.pdf.

ทิพากร ศรีชัยธํารง และคณะ. (2564). อิทธิพลของงบกระแสเงินสดต่อวงจรเงินสดและความมั่งคั่งสูงสุดของธุรกิจกรณีศึกษา กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. วารสารศิลปการจัดการ, 5(6). 87-102.

ธนาคารแห่งประเทศไทย. (2565). รายงานผลการสำรวจภาวะและแนวโน้มสินเชื่อ (Senior Loan Officer Survey) ไตรมาสที่ 2 ปี 2565. ค้นเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2565, จาก https://www.bot.or.th/

Thai/MonetaryPolicy/EconomicConditions/Credit Condition/LoanSurveyTH22Q2.pdf.

นิศาชล คำสิงห์. (2560). ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราส่วนกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน กับความสามารถในการทำกำไรของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค. สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาการบัญชี. มหาวิทยาลัยศรีปทุม.

ประนอม คำผา. (2565). การศึกษาความแม่นยำของตัวแบบ Altman’s EM-Score Model และการพยากรณ์โอกาสเกิดความล้มเหลวทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย. วารสารสภาวิชาชีพบัญชี, 4(12): 26-43.

พัฒชรี ปงตาคา. (2557). การใช้ข้อมูลทางการบัญชีในการบริหารสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ในเขตกรุงเทพมหานคร. สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต คณะบัญชี มหาวิทยาลัยศรีปทุม.

มัตธิมา กรงเต้น และคณะ. (2565). ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราส่วนทางการเงินกับราคาหลักทรัพย์ของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย : SET100. วารสารสหวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์, 6(2). 117-126.

วิชิต สุรดินทร์กูร และคณะ. (2564). ความโปร่งใสขององค์การ ธุรกิจไทยตามการรับรู้ของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร, 8(3). 911-925.

อุมาวดี เดชธารง และคณะ. (2561). ผลกระทบของคุณภาพรายงานทางการเงินที่มี ต่อความได้เปรียบในการแข่งขันของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม, 8(1), 1-9.

อุษณีย์ เส็งพานิช. (2564). ปัจจัยเชิงสาเหตุที่ส่งผลต่อข้อจำกัดในการดำเนินงานและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงินของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในจังหวัดพิษณุโลก.วารสารมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม,15(1), 13-26.

ปุณณภา สอนดา. (2564). การศึกษาผลกระทบของมาตรการจัดทำบัญชีชุดเดียวที่มีผลต่อคุณภาพรายงานทางการเงินของสถานประกอบการธุรกิจโรงแรมขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก. ชลบุรี : โครงการการศึกษาผลกระทบของมาตรการจัดทำบัญชีชุดเดียวที่มีผลต่อคุณภาพรายงานทางการเงินของสถานประกอบการธุรกิจโรงแรมขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก, คณะการจัดการและการท่องเที่ยว, มหาวิทยาลัยบูรพา.

พัชรพล แก้วพุกผา. (2564). การศึกษาปัจจัยสนับสนุนที่มีต่อผู้ประกอบการฐานนวัตกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีต่อการตัดสินใจของผ้ให้บริการทางการเงินธุรกิจและนักลงทุนของประเทศไทย.สารนิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล.

Atupele N. Mulaga. (2013). Analysis of External Financing Use: A Study of Small and Medium Enterprises in Malawi. International Journal of Business and Management, 8(7): 55-64.

Musamali, M. M., & Tarus, D. K. (2013). Does firm Profile Influence Financial Access Among Small and Medium Enterprises in Kenya?. Asian Economic and Financial Review, 3(6): 714-723.

Padilla-Perez, R., & Fenton Ontanon, R. (2013). Financing of commercial banks for micro, small and medium enterprises in Mexico. CEPAL REVIEW, (111): 7-21.

Z.Zairani and Z.A. Zaimah (2013). Difficulties in Securing Funding from Banks: Success Factors for Small and Medium Enterprises (SMEs). Journal of Advanced Management Science, 1(4): 254-257.