ประสิทธิภาพการนำมาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 ไปปฏิบัติ: กรณีศึกษา เขตพื้นที่อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย

บทคัดย่อ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับประสิทธิภาพการนำมาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไปปฏิบัติ กรณีศึกษา เขตพื้นที่อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย และ 2) เปรียบเทียบประสิทธิภาพการนำมาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไปปฏิบัติ กรณีศึกษา เขตพื้นที่อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวิจัย คือ ผู้ปฏิบัติงานและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการปฏิบัติงาน จำนวน 400 คน ซึ่งใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ (Stratified sampling) โดยอาศัยสัดส่วน แล้วทำการสุ่มอย่างง่ายเพื่อให้ได้จำนวนตัวอย่างตามสัดส่วนที่ต้องการซึ่งมีวิธีการสุ่มตัวอย่าง โดยการแบ่งกลุ่มเขตเทศบาลตำบล และองค์การบริหารส่วนตำบล ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย ออกเป็น 15 กลุ่ม ในแต่ละกลุ่มจะมี 4 กลุ่มย่อย ตามหน่วยบริหารราชการส่วนท้องถิ่น เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิจัย คือ ค่าสถิติร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) การทดสอบค่าที (t-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) และทดสอบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีของ Fisher’s Least Significance Difference: LSD

ผลการวิจัยพบว่า ประสิทธิภาพการนำมาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ไปปฏิบัติ กรณีศึกษา เขตพื้นที่อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย มีระดับประสิทธิภาพมาก ผู้ปฏิบัติงานที่มี เพศ ระดับการศึกษา และรายได้ต่อเดือน ที่แตกต่างกัน ไม่ส่งผลให้มีประสิทธิภาพการปฏิบัติงานแตกต่างกัน และ ผู้ปฏิบัติงานที่มี อายุ อายุการปฏิบัติงาน และตำแหน่งการปฏิบัติงาน ที่แตกต่างกัน ส่งผลให้มีประสิทธิภาพการปฏิบัติงานแตกต่างกัน โดยกำหนดระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ใช้ในการทดสอบไว้ที่ระดับ .05