การส่งเสริม การบริหารงานด้านโภชนาการเกินของนักเรียนชั้นประถมศึกษาในโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี

Main Article Content

จิราวรรณ รักษาชนม์
เสกสรรค์ มานวิโรจน์

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการส่งเสริมการบริหารโภชนาการเกิน ลักษณะการบริหารภาวะโภชนาการเกิน เปรียบเทียบการส่งเสริมการบริหารโภชนาการเกิน และเปรียบเทียบลักษณะการบริหารภาวะโภชนาการเกิน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ครูและผู้บริหารสถานศึกษาของโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครนนทบุรี จำนวน 116 คน โดยใช้การสุ่มตัวอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามตามมาตราส่วนประมาณค่าที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นซึ่งมีค่าดัชนีความสอดคล้อง เท่ากับ 0.99 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย สถิติทดสอบที (t-test) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) และวิเคราะห์ความแตกต่างรายคู่ด้วย LSD ผลการวิจัย พบว่า 1) การส่งเสริมการบริหารโภชนาการเกินของผู้บริหารและครู ในโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครนนทบุรี ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ("x" ̅ = 3.99, SD = 0.27) และรายด้านอยู่ในระดับมากทุกด้าน 2) ลักษณะการบริหารภาวะโภชนาการเกินของผู้บริหารและครู ในโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครนนทบุรีในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ("x" ̅ = 4.01, SD = 0.21) และรายด้านอยู่ในระดับมากทุกด้าน ผลการเปรียบเทียบการส่งเสริมการบริหารโภชนาการเกินของผู้บริหาร และครู เมื่อจำแนกตาม เพศ อายุ ระดับการศึกษา พบว่า ผู้บริหารและครูที่มีเพศ และอายุแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการส่งเสริมการบริหารโภชนาการเกินไม่แตกต่าง ยกเว้นระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการส่งเสริมการบริหารโภชนาการเกินแตกต่างกันและผลการเปรียบเทียบลักษณะการบริหารภาวะโภชนาการเกินของผู้บริหารและครู เมื่อจำแนกตามเพศ อายุ ระดับการศึกษา พบว่า ผู้บริหารและครูที่มีเพศ อายุ และระดับการศึกษาแตกต่างกัน มีระดับการปฏิบัติแตกต่างกันที่นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
รักษาชนม์ จ., & มานวิโรจน์ เ. (2020). การส่งเสริม การบริหารงานด้านโภชนาการเกินของนักเรียนชั้นประถมศึกษาในโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์, 6(1), 174–185. สืบค้น จาก https://so03.tci-thaijo.org/index.php/rpu/article/view/242239
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข. (2562). พบ 1 ใน 10 เด็กไทยเตี้ย-อ้วน. ค้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2562, จาก https://www.thaihealth.or.th/Content/47810.

กระทรวงศึกษาธิการ. (2540). คู่มือการพัฒนาโรงเรียนเข้า สู่มาตรฐานการศึกษาการบริหารระบบคุณภาพ. กรุงเทพฯ: กรมวิชาการ.

จีราภรณ์ กรรมบุตร และคณะ. (2557). การจัดการสุขภาพประชากรกลุ่มเด็กแบบมีส่วนร่วมโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน: ผลลัพธ์เบื้องต้นด้านการออกกำลังกายและกิจกรรมทางกายของเด็กกลุ่มวัยรุ่น. วารสารพยาบาลทหารบก, 15(1) มกราคม – เมษายน 2557.

ไฉไล เที่ยงกมล และคณะ. (2558). พฤติกรรมการป้องกันโรค อ้วนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6. วารสารพยาบาลตำรวจ, 7(2) กรกฎาคม – ธันวาคม 2558: 1 - 15.

สำนักการศึกษาเทศบาลนนทบุรี. (2562). ข้อมูลโรงเรียนสังกัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท). ค้นเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2562, จาก http://sis.dla.go.th/eduSectionSummaryReport.

สำนักการศึกษาเทศบาลนนทบุรี. (2561). โรงเรียนในสังกัดสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดองค์กรส่วนปกครองส่วนท้องถิ่น จังหวัดนนทบุรี 2561.

อารีย์ นิยมทรัพย์. (2552). บทบาทของครูในการส่งเสริมโภชนาการของเด็กก่อนวัยเรียนในโรงเรียนเอกชน กรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.

Krejcie, R. V. and Morgan, D. W. (1970). Determining Sample Size for Research Activities. Educational and Psychological Measurement, 30(3): 607 - 610.

World Health Organization (WHO). (2011). Childhood overweight and obesity Retrieved on 5th June 2019, from http://www.who.int/dietphysicalactivity/childhood/en/.