ภาวะผู้นำที่พึงประสงค์ของพระสังฆาธิการ ตามทัศนคติของผู้นำชุมชนและไวยาวัจกร ในเขตกรุงเทพมหานคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาบทบาทการบริหารกิจการคณะสงฆ์ ระดับทัศนคติของผู้นำชุมชนและไวยาวัจกรที่มีต่อภาวะผู้นำที่พึงประสงค์ เปรียบเทียบความแตกต่างของทัศนคติระหว่างผู้นำชุมชนและไวยาวัจกรที่มีต่อบทบาทพระสังฆาธิการในการบริหารกิจการคณะสงฆ์และภาวะผู้นำที่พึงประสงค์ ความสัมพันธ์ระหว่างบทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ ในเขตกรุงเทพมหานคร และเพื่อศึกษาปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้นำชุมชนและไวยาวัจกรในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 252 คน จำแนกตามการแบ่งกลุ่มเขตพื้นที่ แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการวิจัยเชิงปริมาณและเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การแจกแจงความถี่ ร้อยละ สถิติทดสอบที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการทดสอบรายคู่โดยวิธีการหาผลต่างนัยสำคัญน้อยที่สุด (LSD) และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson Correlation Coefficient) ผลการวิจัยสรุปพบว่า 1) ผู้นำชุมชนมีทัศนคติต่อบทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ และภาวะผู้นำที่พึงประสงค์ของพระสังฆาธิการในเขตกรุงเทพมหานคร อยู่ในระดับปานกลาง 2) ไวยาวัจกรมีทัศนคติต่อบทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารกิจการคณะสงฆ์และภาวะผู้นำที่พึงประสงค์ของพระสังฆาธิการใน
เขตกรุงเทพมหานคร อยู่ในระดับมาก 3) เพศและอายุของผู้นำชุมชนและไวยาวัจกรไม่มีผลต่อทัศนคติที่มีต่อบทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ แต่การศึกษาและประสบการณ์ทำงานมีผล 4) ผู้นำชุมชนและไวยาวัจกรมีทัศนคติต่อบทบาทของพระสังฆาธิการในการบริหารกิจการคณะสงฆ์ในภาพรวมแตกต่างกัน 5) เพศ อายุ และประสบการณ์ทำงาน ของผู้นำชุมชนและไวยาวัจกรไม่มีผลต่อทัศนคติที่มีต่อภาวะผู้นำที่พึงประสงค์ของพระสังฆาธิการในเขตกรุงเทพมหานครแต่การศึกษามีผล 6) ผู้นำชุมชนและไวยาวัจกรมีทัศนคติต่อภาวะผู้นำที่พึงประสงค์ของพระสังฆาธิการในเขตกรุงเทพมหานครไม่ต่างกัน และ 7) บทบาทการบริหารกิจการคณะสงฆ์มีความสัมพันธ์กับทัศนคติของผู้นำชุมชนและไวยาวัจกรที่มีต่อภาวะผู้นำที่พึงประสงค์ของพระสังฆาธิการ
Article Details
เอกสารอ้างอิง
ดำรงศักดิ์ มีสุนทร. (2556). ความสัมพันธ์ระหว่างวัดกับชุมชน กรณีศึกษา วัดนามสมมติกับชุมชน นามสมมติ จังหวัดกาญจนบุรี. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการพัฒนาสังคม, คณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์.
ปกรณ์ ประจันบาน. (2552). ระเบียบวิธีวิจัยทางสังคมศาสตร์.พิษณุโลก: รัตนสุวรรณการพิมพ์.
ประกิต บุญมี และคณะ. (2559). การบริหารกิจการคณะสงฆ์: ศึกษากรณีเขตการปกครองคณะสงฆ์ ตำบลท่าไม้ จังหวัดสมุทรสาคร. รายงานวิจัย. มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์.
พระเมธีธรรมาภรณ์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต). (2541). คุณธรรมสำหรับนักบริหาร. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ: บริษัท สหธรรมิก จำกัด.
พระราชวรมุนี (ประยุทธ์ ปยุตฺโต). (2545). บทบาทของพระสงฆ์ในสังคมไทยปัจจุบัน. หนังสือชุดหลักธรรมเฉลิมพระเกียรติ เล่ม 45/60. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์การศาสนา.
ศิริวรรณ เสรีรัตน์ และคณะ. (2549). การวิจัยการตลาด ฉบับปรับปรุงใหม่. กรุงเทพฯ: บริษัท ธรรมสารจำกัด.
Boonmee, P. et al. (2016). The Sangha Administration: A Case Study of Sangha Aministration Tambon Tha Mai, Samut Sakhon Province. Research Report. Rajapruk University. (in Thai)
Department of Provincial Administration, Ministry of Interior. (2015). Local Information. Retrieved on 29th, January 2016, from http://www.dopa.go.th (in Thai)
Meesoontorn, D. (2013). Relationship between the temple and the community a case study to the temple wand the community in Kanchanaburi Province. Master of Arts (Social Development Administration) (in Thai)
Phra Methidhammapon (Prayun Dhammachitto). (2008). Moral for the executives. Journal of Behavioral Science. 2(1) November 1995. (in Thai)
Phra Rajavaramuni (P. A. Prayutto). (2002). The Role of a Monk in Thai Society. The Honor Code. Book 45/60. Bangkok: Kansatsana Printing House. (in Thai)
Prachanban, P. (2009). Research Methodology in Social Science. Phitsanulok: Rattanasuwan Printing. (in Thai)
Serirat, S. et al. (2002). Marketing research New updated edition. Bangkok: Dharmasarn Printing Company Limited.
Steven Vago. (1989). Social Change. 2nd ed. Englewood Cliffs, NJ: Prentice - Hall.
Yamane, T. (1960). Statistics: An Introductory Analysis. Singapore: Harper International Edition.